การละทิ้งดอลลาร์จะเป็นการปลดปล่อยบรรดาประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายจาก "มาตรการคว่ำบาตร การแบล็กเมล์ การรุกรานและคำพูดให้ร้าย" ของสหรัฐฯ จากเสียงกระตุ้นของ มิเกล ดิอาซ-คาเนล ประธานาธิบดีคิวบา ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ทีนิวส์ ที่มีกำหนดออกอากาศในวันพฤหัสบดี (1 มิ.ย.)
ดิอาซ-คาเนล กล่าวว่า "สถานะของดอลลาร์ในฐานะทุนสำรองโลกเปิดทางให้สหรัฐฯ เดินหน้านโยบายความเป็นเจ้าโลกก้าวร้าวต่างๆ ทั้งการสร้างกำแพง กำหนดมาตรการลงโทษ แบล็กเมล์ รุกรานและพูดจาให้ร้าย" เขากล่าว พร้อมบอกว่าในความเคลื่อนไหวต่อต้านนโยบายนี้ ทำให้คิวบาถูกสหรัฐฯ ปิดล้อมทางการค้ามานานกว่า 6 ทศวรรษ แต่ "กลุ่ม BRICS ได้มอบทางเลือกอื่นที่ยอดเยี่ยมสำหรับรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาทั้งหลาย"
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเป็นครั้งแรกในปี 2001 กลุ่ม BRICS ได้เติบโตจากการเป็นอักษรย่อของ 5 ชาติเศรษฐกิจเกิดใหม่ อันประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ กลายเป็นพันธมิตรอย่างไม่เป็นทางการที่แซงหน้ากลุ่มจี7 ซึ่งนำโดยสหรัฐฯ ในแง่ของสัดส่วนจีดีพีโลก นอกจากนี้ พวกเขายังมีธนาคารเพื่อการพัฒนาของตนเองและยังมีซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน และอาร์เจนตินา เป็นหนึ่งใน 19 ชาติที่มุ่งหวังเข้าร่วมเป็นสมาชิก
ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้มีสกุลเงินร่วมของกลุ่ม BRICS เพื่อชำระหนี้ทางการค้าต่างๆ บรรดาชาติสมาชิกเริ่มทำการซื้อขายแบบทวิภาคีด้วยสกุลเงินของตนเองเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในความพยายามลดพึ่งพาและละทิ้งดอลลาร์สหรัฐ
"ผมเชื่อว่าเราจำเป็นต้องยอมรับบทบาทผู้นำของรัสเซีย ในการสร้างโลกหลายขั้วนี้" ดิอาซ-คาเนล กล่าว พร้อมเน้นว่าการเดินหน้าลดพึ่งพาดอลลาร์จะนำมาซึ่ง "การค้าที่ครอบคลุมกว่าเดิมและเป็นประโยชน์ร่วมกันมากยิ่งขึ้น" สำหรับประเทศที่ปฏิเสธ "คำสัญญาที่ว่างเปล่าและเต็มไปด้วยคำโกหกของสหรัฐฯ"
แม้ว่า คิวบา ไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่ม BRICS แต่ประเทศแห่งนี้เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของรัสเซียนับตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต การค้าระหว่างมอสโกกับฮาวานา เพิ่มขึ้น 3 เท่าเมื่อปีที่แล้ว สู่ระดับ 452 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ ดมิทรี เชอร์นีเชนโก รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย เดินทางเยือนคิวบาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมแถลงว่าบริษัทต่างๆ ของรัสเซียกำลังมีแผนลงทุนเพิ่มเติมในภาคการท่องเที่ยวของประเทศแห่งนี้
"มันถึงเวลาที่เราจะมีเพื่อนจากประเทศอื่นๆ ที่สนับสนุนเราด้วยการกระทำที่แท้จริง และภายใต้เงื่อนไขที่ไม่ทำร้ายความเป็นเอกราชของเรา" ดิอาซ-คาเนล ให้สัมภาษณ์กับอาร์ทีนิวส์
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)