xs
xsm
sm
md
lg

ประชุมสุดยอด C+C5

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร



ก่อนการประชุม G7 ที่ฮิโรชิมา เพียงไม่ถึง 24 ชม. ที่เมืองซีอานทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ก็ได้เปิดการประชุม C+C5 อย่างยิ่งใหญ่ เป็นการตัดหน้าการประชุม G7 เพื่อชิงพื้นที่ข่าวในระดับโลกอย่างเห็นได้ชัด

ซึ่งแน่นอนว่า วาระการประชุมของ G7 นั้น จะเน้นหนักการประณามรัสเซียในการบุกยูเครน รวมทั้งมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียและพันธมิตรให้หนักข้อยิ่งขึ้น เพื่อกดดันให้รัสเซียเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบากยิ่งขึ้น อันจะนำไปสู่การล่มสลายของรัสเซียในที่สุด หรือบีบให้รัสเซียต้องหยุดยั้งการพยายามรุกคืบในยูเครนนั่นเอง

ขณะเดียวกัน ก็ใช้เวที G7 เพื่อหาทางสกัดกั้นจีนทุกวิถีทาง ไม่ให้ขยายเติบใหญ่ทั้งด้านเศรษฐกิจอิทธิพลด้านแสนยานุภาพในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก

ตัวอักษรย่อ C+C5 มาจาก China+Central Asia 5 หมายถึงการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำจีน และผู้นำจาก 5 ประเทศในเอเชียกลาง ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตได้แก่ คาซัคสถาน, คีร์กีซสถาน, ทาจิกิสถาน, เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน

ปีที่แล้วจีนได้เริ่มจัดการประชุม C+C5 ในวาระครบรอบ 30 ปีแห่งความสัมพันธ์ระหว่างจีนและทั้ง 5 ประเทศ ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศจีน และเคยอยู่ในเส้นทางสายไหมโบราณตั้งแต่ก่อนคริสต์ศตวรรษด้วยซ้ำ โดยเริ่มทางสายไหมเก่าจากเมืองซีอานที่เป็นเมืองหลวงโบราณของจีน และผ่านไปจากมณฑลซินเจียงผ่านทั้ง 5 ประเทศนี้จนไปทะลุกับอัฟกานิสถานและอินเดีย…ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าขายสำคัญในยุคนั้น รวมทั้งเส้นทางสายอารยธรรมระหว่างจีนและอินเดีย ขนาดศาสนาพุทธก็เดินทางมาจากเส้นทางนี้เช่นกัน

แน่นอนที่ทั้ง 5 ประเทศในเอเชียกลางเหล่านี้ ได้ตกลงปลงใจร่วมอยู่ในโครงการ BRI ของจีนอย่างเต็มใจ เพราะสถานที่ตั้งของทั้ง 5 ประเทศนี้ ค่อนข้างจะลึกเข้ามาอยู่กลางทวีปเอเชีย ไม่ได้ติดชายฝั่งมหาสมุทร ซึ่งในช่วงที่เป็นบริวารของสหภาพโซเวียต ก็ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือทั้งการค้า, การลงทุน, เทคโนโลยี รวมทั้งความมั่นคงจากสหภาพโซเวียตเป็นหลัก

แต่เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลาย ทั้ง 5 ประเทศก็ได้อิสรภาพมาเป็นประเทศเอกราชที่พร้อมสลัดทิ้งระบบคอมมิวนิสต์ของมอสโก โดยพยายามจัดให้มีการเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่หลายประเทศยังมีการบริหารที่เป็นแบบเผด็จการ โดยประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มีส่วนร่วมในการบริหารมากนัก

ผู้นำของทั้ง 5 ประเทศเหล่านี้ ต่างพยายามหาทางถ่วงดุลกับมอสโก โดยหันไปคบหาในด้านการค้า การลงทุนจากจีน ซึ่งเป็นที่มาของการพร้อมใจกันเข้าร่วมประชุมสุดยอดกับจีนในครั้งนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่รัสเซียกำลังสาละวนกับการทำสงครามในยูเครนด้วย

ประเทศทั้ง 5 นี้ มีทรัพยากรและพลังงานมหาศาล ทั้งน้ำมัน, แก๊สธรรมชาติ, แร่ธาตุยูเรเนียม, ทองคำ รวมทั้งแร่ธาตุหายาก และลิเทียม ซึ่งกำลังรอการสำรวจอีกมาก และจีนก็สามารถได้รับประโยชน์จากการนำเข้าพลังงานและแร่ธาตุจากทั้ง 5 ประเทศได้เป็นอย่างดี

มูลค่าการค้าขายระหว่างจีนกับ 5 ประเทศนี้ ได้เพิ่มพูนขึ้นเป็นหลายสิบเท่าในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในไม่กี่ปีที่ทั้ง 5 ประเทศได้เปิดให้ทุนจีนและทุนจากรัสเซีย รวมทั้งจากตะวันตกเข้าไปสำรวจขุดเจาะหาแหล่งพลังงานอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

ความจริงในปี 2015 ปลายสมัยของปธน.โอบามา ก็ได้มีการพยายามของ รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ คือ จอห์น แคร์รี ได้จัดการประชุมระดับรมต.ต่างประเทศขึ้น โดยใช้ชื่อการประชุมว่า C5+1 คือ 5 ประเทศในเอเชียกลาง และ +1 คือประเทศสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐฯ ก็เห็นศักยภาพแหล่งทรัพยากรอันอุดมมหาศาลของทั้ง 5 ประเทศ อดีตบริวารของโซเวียตนี้ ซึ่งโหยหาการลงทุนและเทคโนโลยีทันสมัยจากตะวันตก แต่สหรัฐฯ ก็มิได้สานต่อยกระดับความร่วมมือไปถึงระดับสูงสุดของนโยบาย จึงไม่ได้จัดประชุมซัมมิต ประกอบกับเป็นปลายสมัยโอบามา ซึ่งเมื่อเปลี่ยนเป็นรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐฯ ก็เปลี่ยนมาเน้นอเมริกาต้องมาก่อน จึงไม่มีการสานสิ่งที่โอบามาได้เริ่มต้นไว้

แม้ประเทศทั้ง 5 ในเอเชียกลาง จะโหยหาการค้า การลงทุน และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เพื่อพัฒนาประเทศของตนให้ก้าวข้ามจากประเทศกำลังพัฒนาที่พึ่งพิงแต่การขายทรัพยากรธรรมชาติเบื้องต้นเท่านั้น แต่ทั้ง 5 ประเทศก็ดูจะระมัดระวังการพึ่งพิงทั้งรัสเซีย (อดีตประเทศแม่ดั้งเดิม) และจีน (ผู้กำลังขยายอิทธิพลระดับภูมิภาคและระดับโลก) จะเห็นได้ว่า ทั้ง 5 ประเทศนี้งดออกเสียงประณามรัสเซียหรือร่วมคว่ำบาตรรัสเซีย กรณีสงครามยูเครน และผู้นำทั้ง 5 ประเทศได้เข้าร่วมงานฉลองวันแห่งชัยชนะ (Victory Day) ที่มอสโกอย่างพร้อมเพรียง แต่ทั้ง 5 ประเทศก็ปลีกมาประชุมสุดยอดกับผู้นำจีน เพื่อหาทางสร้างสมดุลกับการพึ่งพิงรัสเซียนั่นเอง

ขณะเดียวกัน ก็มีเสียงเรียกร้องจากปัญญาชนอเมริกัน โดยเฉพาะที่เป็นมันสมองของสหรัฐฯ อยู่ในสภาที่ปรึกษาแอตแลนติก (Atlantic Council) ของศูนย์ยูเรเซียได้แก่ อดีตทูตสหรัฐฯ ประจำอุซเบกิสถานคือ ทูต John E. Herbst ได้เสนอให้รัฐบาลสหรัฐฯ อียู รวมทั้งญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ ควรหาโอกาสไปสร้างสัมพันธ์กับ 5 ประเทศนี้ เพื่อไปถ่วงดุลการค้า, การลงทุน และด้านความมั่นคงจากทั้งรัสเซียและจีน เพราะทั้ง 5 ประเทศนี้ ได้ผ่านประสบการณ์ที่เข้มข้นปราศจากอิสรภาพภายใต้โซเวียต ขณะเดียวกันก็กำลังเป็นเป้าที่จีนหวังได้ประโยชน์จากทรัพยากรมหาศาล แม้จะพร่ำพูดว่า เป็น win-win ก็ตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น