ปิดท้ายสัปดาห์นี้...คงต้องขออนุญาตชวนให้ลองไปสำรวจตรวจสอบ การจับกลุ่ม จับขั้ว การสุมหัว รวมตัว ของบรรดาประชาคมประเทศต่างๆ ในระดับโลกในช่วงระหว่างนี้ ว่าจะหนักไปทาง “MOU”, “IOU” หรือ “ICU” แบบการคิดจัดตั้งรัฐบาลในบ้านเรา เพื่อที่จะผลัก จะดัน ให้คุณหลาน “พิธา” ผงาดขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ให้จงได้!!! หรือไปๆ-มาๆ จะกลายเป็นการ “รอสอย” หรือ “รอหัวเราะทีหลังดังกว่า” กันแน่???
เพราะเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาชาวโลก ประชาคมโลก เขาได้จัดการประชุม พบปะ เจรจา เจ๊าะๆ แจ๊ะๆ ระหว่างกันและกันถึงประมาณ 3 แห่ง 3 เวทีด้วยกัน ไม่ว่าไล่มาตั้งแต่เวทีประชุม “G7” ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น-ยุ่นปี่ ที่ว่ากันว่าผู้นำฝรั่งเศสแอบวางแผนให้ “ตัวตลก-ตัวแทน” แห่งยูเครน ประธานาธิบดี “Zelensky” ดอดมาเข้าร่วมประชุม มาพูดจาเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ กับผู้ได้รับเชิญให้ร่วมสังเกตการณ์ อย่างผู้นำอินตะระเดีย ผู้นำบราซิล โดยหวังจะให้เกิดการย้ายขั้ว ย้ายข้าง หรือเกิด “จุดเปลี่ยน” ของสถานการณ์โลกเอาเลยถึงขั้นนั้น ตามด้วยการประชุม “Russia-Islamic World Forum” ระหว่างประเทศที่ถูกโลกตะวัน “แซงชั่น” แบบชนิดกะจะให้ตายคาตีนให้จงได้ อย่างหมีขาวรัสเซีย กับบรรดาประเทศในโลกมุสลิมทั้งหลายที่เมือง “Kazan” ประเทศรัสเซีย ส่วนอีกรายก็คือการประชุมสุดยอด 5 ประเทศเอเชียกลาง ระหว่างคุณพี่จีนกับบรรดาประเทศ “สถานๆ” ทั้งหลาย ที่เมืองซีอาน เมืองต้นทางแห่ง “เส้นทางสายไหม” เมื่อครั้งอดีต...
โดยน่าจะพอเป็นที่รับรู้ รับทราบ กันไปมั่งแล้ว...ว่าเวทีไหนที่ออกไปทาง “ICU” เวทีไหนที่ออกไปทาง “MOU” โดยเฉพาะเมื่อบรรดาประเทศรวยๆ หรือประเทศ “คนเคยรวย” ทั้งหลาย ที่มีขนาดเศรษฐกิจระดับ 30-40 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีโลก รวบรวมความมั่งคั่งเกือบครึ่งโลก หรือกว่า 200 ล้านล้านดอลลาร์เอาไว้ในอุ้งมือตัวเอง ทั้งๆ ที่มีจำนวนประชากรแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ของชาวโลกเท่านั้นเอง อย่างกลุ่มประเทศ “G7” อันประกอบไปด้วยคุณพ่ออเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เขาได้ร่วมออกแถลงการณ์เล่นงานมหาอำนาจคู่แข่งอเมริกา อย่างคุณพี่จีนชนิดถือเป็น “ภัยคุกคาม” เป็น “ผู้ข่มขู่” บรรดาประชาคมโลกต่างๆ ไม่ว่าโดยกรรมวิธีใดๆ ก็แล้วแต่ ก็เลยยิ่งทำให้โลกทั้งโลกที่ร้อนฉ่า ร้อนแรง อยู่แล้ว ยิ่งร้อนฉิบหาย-ร้อนตายโหงยิ่งขึ้นไปอีก หรือออกไปทาง “ICU” อย่างเห็นได้โดยชัดเจน เล่นเอาโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน อย่างคุณ “Hua Chunying” ถึงกับอดรนทนไม่ไหว ต้องออกมา “ทวีต” ไว้เมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมา ประมาณว่า... “ถ้าหากจีนคือภัยคุกคามต่อชาวโลก แล้วที่บางประเทศใน G7 ยกทัพโยธาไปทำสงครามกับประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยเป็นของตัวเอง ทำการโค่นล้มรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย ยกเลิกข้อตกลงที่เคยลงนามไว้กับหลายต่อหลายประเทศ รวมทั้งข่มขู่ คุกคาม ให้แต่ละประเทศตัดขาดห่วงโซ่อุปทานกับจีน อันนี้จะเรียกว่าอะไรดี???” ทำนองนั้น...
ต่างไปจากบรรยากาศในเวทีประชุมระหว่างคุณน้ารัสเซียกับโลกมุสลิม หรือคุณพี่จีนกับประเทศเอเชียกลาง ที่ดูจะออกไปทาง “MOU” คือมุ่งหน้าที่จะแสวงหาความร่วมมือระหว่างกันและกัน โดยไม่ได้คิดจะหันไปเล่นงานประเทศหนึ่ง ประเทศใดให้ต้องเสียเวลา เสียอารมณ์ โดยใช่เหตุ เช่นในเวที “Russia’s International Economic Forum” หรือ “Russia-Islamic World Forum” ที่มีผู้เข้าร่วมประชุมถึง 7,000 คน จาก 85 ประเทศ อันสะท้อนให้เห็นถึง “จุดยืน” ของประเทศโลกมุสลิมทั้งหลายที่ไม่ได้คิดจะต่อต้าน แซงชั่นรัสเซีย เหมือนอย่างที่คุณพ่ออเมริกาและโลกตะวันตกพยายามข่มขู่ คุกคาม เอาเลยแม้แต่น้อย จนก่อให้เกิดความร่วมไม้-ร่วมมือ ก่อให้เกิดอภิมหาโครงการอย่างที่เรียกว่า “The North-South Transport Corridor” ที่เชื่อมโยงบรรดาประเทศต่างๆ บนความยาวของพื้นที่อาณาบริเวณไม่น้อยกว่า 7,200 กิโลเมตร ตั้งแต่อินเดีย อาเซอร์ไบจาน เอเชียกลาง ไปยันรัสเซีย ทะลุถึงยุโรป ทั้งในด้านการค้า การก่อสร้าง การขนส่งคมนาคม ฯลฯ อันก่อให้เกิดผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกันของแต่ละฝ่าย...
หรือการประชุมสุดยอด 5 ประเทศเอเชียกลางของคุณพี่จีน ก็คงไม่ได้ต่างไปจากกันมากมายสักเท่าไหร่ ชนิดที่ผู้นำจีนประธานาธิบดี “สี ทนได้(จิ้นผิง)” ท่านถึงกับเรียกว่า “การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมวลมนุษยชาติ” เอาเลยถึงขั้นนั้น คือร่วมกันผลัก ร่วมกันดัน ให้เกิดการเติบโตทางการเงิน การเกษตร การบรรเทาความยากจน การพัฒนาสีเขียว การแพทย์ ไปจนถึงนวัตกรรมดิจิทัล ฯลฯ ส่งผลให้ปริมาณการค้า-การขายช่วงปลายปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นถึง 100 เท่าเมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา โดยไม่มีใครต้องรอเข็น รอสอย รอเตรียมเข้าห้อง “ICU” แบบพวกก้าวสะเปะสะปะ หรือพวกเผาไทย ในบ้านเราเอาเลยแม้แต่น้อย...
ด้วยเหตุนี้...จึงถือเป็นเรื่องไม่แปลก ที่ผู้ซึ่งมีฐานะกลางๆ หรือผู้ที่ดำรงสถานะเป็นตัวกลาง คนกลาง อย่างท่านเลขาธิการสหประชาชาติ “นายAntonio Guterres” ที่มีโอกาสเข้าร่วมเวทีประชุม “G7” ที่ฮิโรชิมา ท่านเลยต้องออกมาเรียกร้อง วิงวอน ให้บรรดาปวงประเทศทั้งหลาย “หยุดยั้ง...การแบ่งโลก...ออกเป็นฝ่ายๆ” อย่างที่เคยปรากฏในช่วงยุค “สงครามเย็น” ที่ผ่านมา ดังคำพูดที่ว่า... “ผมเชื่อว่า...เป็นสิ่งสำคัญเอามากๆ ที่จะหลีกเลี่ยงการแบ่งโลกออกเป็น 2 ฝ่าย 2 ขั้ว และสำคัญเอามากๆ ที่จะสร้างความร่วมมือ สร้างสะพานเชื่อมโยงสำหรับการเจรจาเรื่องร้ายๆ แรงๆ ทั้งหลาย...” แต่ก็นั่นแหละ...แม้ว่าท่านจะขอร้อง วิงวอน เพียงใดก็ตาม บรรดาประเทศรวยๆ หรือประเทศคนเคยรวย อย่างพวก “G7” ทั้งหลาย ก็มิได้คิดจะลด “ความห้าว” หรือ “ความพิธา” ใดๆ ลงไปเลยแม้แต่น้อย การอาศัยเวทีประชุม “G7” เล่นงานมหาอำนาจคู่แข่ง ไม่ว่าคุณพี่จีน หรือคุณน้ารัสเซีย แบบกะจะให้ตายคาตีนให้จงได้ เลยก่อให้เกิดบรรยากาศแบบ “ด้อมส้ม” หรือบรรยากาศแห่งการข่มขู่ คุกคาม ใครต่อใคร ไม่ว่า ส.ส.-ส.ว. นักการเมืองฝ่ายเดียวกันหรือฝ่ายตรงข้าม แบบบ้านเราในทุกวันนี้...นั่นแล...
แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ...แม้บรรดาประเทศรวยๆ ที่มี “ประมุขโลก” อย่างคุณพ่ออเมริกาเป็นหัวหอก จะเพียรพยายามไล่เหยียบไล่กระทืบมหาอำนาจคู่แข่ง อย่างคุณพี่จีนและคุณน้ารัสเซียกันไปถึงขั้นไหน แต่โดย “กระแสความเป็นไปของโลก” นับวันดูจะสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางแบบตรงกันข้าม กับความหวัง-ความปรารถนาของพวก “โลกขั้วเดียว” อย่างเห็นได้ถนัดชัดเจน ยิ่งเข้าไปทุกที หรือแม้ว่าโดย “นิตินัย” บรรดาประเทศต่างๆ กว่า 140 ประเทศ จะร่วมประณามรัสเซียในกรณีบุกรุกดินแดนยูเครนเพียงใดก็แล้วแต่ แต่โดย “พฤตินัย” ต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า บรรดาประเทศต่างๆ แทบทั้งโลกกลับพร้อมที่จะสร้างความร่วมไม้-ร่วมมือกับรัสเซีย ยิ่งเป็นคุณพี่จีนด้วยแล้ว แทบจะหาใครที่คิดปฏิเสธแทบไม่ได้เอาเลย...
ไม่ว่าจะเป็น “โลกมุสลิม” ที่แทบไม่ได้มีประเทศอิสลามใดๆ คิดสนับสนุนการ “แซงชั่นรัสเซีย” ดังที่รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย “นายMarat Khusnullin” ท่านระบุไว้ในเวทีประชุม “Russia-Islamic World Forum” เมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมา ขณะที่บรรดาประเทศในแอฟริกา ไม่เพียงไม่ได้ต่อต้านรัสเซียเท่านั้น แต่ผู้นำประเทศแอฟริกาไม่น้อยกว่า 6 ประเทศ ยังพยายามออกเดินสาย หาช่อง หาจังหวะ ที่จะช่วยให้ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนเกิดความสิ้นสุด ยุติ ลงไปให้จงได้ หรืออย่างที่ผู้นำแอฟริกาใต้ “นายCyril Ramaphosa” ถึงกับออกมาเรียกร้อง วิงวอน ให้รัฐบาลยูเครนยอมรับการพูดคุย เจรจา เพื่อสันติภาพกับรัสเซีย ควบคู่ไปกับการเดินสายตาม “แผนสันติภาพ 12 ข้อ” ของคุณพี่จีนนั่นเอง เช่นเดียวกับบรรดาประเทศในละตินอเมริกา ที่นับวันการหันไปร่วมมือ-ร่วมไม้กับจีนหรือรัสเซีย ยิ่งเป็นไปอย่างกว้างขวางและแน่นเหนียวยิ่งขึ้นไปอีก แม้แต่ความพยายามยุแยงตะแคงรั่ว พยายามที่จะกดดัน ข่มขู่ ให้ประเทศมหาอำนาจในเอเชีย อย่างคุณปู่อินตะระเดีย หันไปต่อต้านรัสเซีย ถ้าว่ากันตามรายงานใน “เอกสารรั่ว” หรือเอกสารระดับ “NOFRON” (Not Releasable to Foreign Nationals) ของอเมริกาที่ถูกนำมาเผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ ก็ระบุเอาไว้ชัดเจนถึง “ความล้มเหลว” ในอันที่จะเกลี้ยกล่อม โน้มน้าว กดดัน ให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามความปรารถนาและต้องการ ของผู้ที่คิดจะครองโลก ของพวก “โลกขั้วเดียว” ได้เลยแม้แต่น้อย...
หรือสรุปง่ายๆ ว่า...เอาไป-เอามาแล้ว แทบจะทั่วทั้งโลกนั่นแหละ ที่ล้วนแล้วแต่ปรารถนาและต้องการ ความร่วมไม้-ร่วมมือระหว่างประชาคมโลก ต่างไปจากความปรารถนา-ต้องการของผู้นำโลก ประมุขโลก อย่างคุณพ่ออเมริกาและบรรดาประเทศรวยๆ คนเคยรวย อย่างกลุ่มประเทศ “G7” ที่พยายาม “แบ่งโลก” ออกเป็น 2 ข้าง 2 ฝ่าย หรือ 2 ขั้ว เหมือนอย่างที่เคยเป็นมา เมื่อครั้งยุค “สงครามเย็น” โน่นเลย ที่ไม่ว่าจะรวย หรือเคยรวยขนาดไหน เคยมีอำนาจวาสนาระดับหันซ้าย-หันขวา ให้โลกทั้งโลกต้องเป็นไปในทิศทางที่ตัวเองปรารถนาและต้องการ จนเป็นผู้ครองความมั่งคั่งกว่าครึ่งโลกเอาไว้ในมือ แต่ในเมื่อโลกทุกวันนี้มันไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว บรรดาขั้วอำนาจต่างๆ ได้ปรากฏให้เห็นอย่างเป็นที่เด่นชัดและอย่างมิอาจปฏิเสธได้ โอกาสที่บรรดากลุ่มประเทศ “G7” ทั้งหลาย อาจต้องถูกหามเข้าห้อง “ICU” ในอีก “ไม่ช้า-ไม่นาน” หรืออาจต้องเจอสภาพแบบเดียวกับคุณหลาน “พิธา” คือต้องเปิด “แห้วกระป๋อง” รับประทานไม่ก็ต้อง “ปอกกล้วยเปลี่ยวในบ้านร้าง” อยู่ตามลำพัง ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย!!!
