ปูตินคุยยูเครนเสียทหารมากกว่ารัสเซียถึง 10 เท่า ถึงแม้ยอมรับว่าสต๊อกอาวุธร่อยหรอลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งขีปนาวุธและโดรนโจมตี กระนั้นเมื่อคืนวันอังคาร (13 มิ.ย.) มอสโกยังเดินหน้าถล่มเโอเดสซา ที่เป็นเมืองท่าสำคัญริมทะเลดำ และแคว้นโดเนตสก์ โดยเคียฟระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 6 คน ขณะที่ยูเครนยืนกรานอ้างว่า ปฏิบัติการตอบโต้ครั้งใหญ่ของตนคืบหน้าตามแผนการที่วางไว้
เซอร์ฮีย์ แบรตชุค โฆษกคณะบริหารทางทหารประจำแคว้นโอเดสซาของฝ่ายยูเครน แถลงในวันพุธ (14 มิ.ย.) ว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธคาลิบร์ 4 ลูก จากเรือรบที่จอดอยู่ในทะเลดำ โจมตีเมืองโอเดสซาเมื่อคืนวันอังคาร ทำให้พนักงานในคลังสินค้าของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งเสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 7 คน และอาจมีผู้ติดใต้ซากอาคารดังกล่าวอีกจำนวนหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 6 คน หลังจากศูนย์ธุรกิจ อาคารที่พักอาศัย และร้านค้าใจกลางเมืองถูกโจมตีทางอากาศ
ทางด้านกองบัญชาการภาคใต้ของกองทัพยูเครนโพสต์บนเทเลแกรมว่า สามารถสกัดขีปนาวุธของรัสเซีย 2 ใน 4 ลูกที่โจมตีเมืองโอเดสซา ซึ่งเป็นเมืองท่าริมทะเลดำที่มีความสำคัญมากของยูเครน
ส่วนที่แคว้นโดเนตสก์ทางตะวันออก พาฟโล คีรีเลนโก ผู้ว่าการแคว้นโดเนตสก์ของฝ่ายยูเครน โพสต์บนเฟซบุ๊กว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองครามาทอร์สก์ และคอสเทียนทีนิฟกาเมื่อคืนวันอังคาร ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 3 คน แม้กองทัพอากาศยูเครนสามารถทำลายขีปนาวุธ 3 ลูกและโดรน 9 ลำก็ตาม
ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มอสโกระดมโจมตีเมืองใหญ่หลายแห่งของยูเครนในช่วงกลางคืนหนักขึ้น ขณะที่เคียฟเปิดปฏิบัติการโต้ตอบครั้งใหญ่เพื่อชิงดินแดนคืนจากกองกำลังรัสเซีย
การโจมตีระลอกล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (12 มิ.ย.) รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองครีวีริกซึ่งเป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 คน
เจ้าหน้าที่ในแคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนที่เป็นที่ตั้งเมืองครีวีริก ยังเผยว่า รัสเซียส่งโดรนชาเฮดที่ผลิตในอิหร่านโจมตีในช่วงคืนวันอังคารเช่นเดียวกัน แต่ถูกยิงร่วงทั้ง 3 ลำ
นอกจากนั้น แม้ยูเครนอวดอ้างความสำเร็จในปฏิบัติการตอบโต้ใหญ่ ทว่า เมื่อวันอังคาร ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ประกาศว่า กองทัพรัสเซียสูญเสียน้อยกว่ากองทัพยูเครนถึง 10 เท่า
ผู้นำรัสเซียยอมรับระหว่างพบกับผู้สื่อข่าวและบล็อกเกอร์รัสเซียในเครมลินคราวนี้ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนว่า กองทัพรัสเซียประสบปัญหาจากการที่สต๊อกอาวุธร่อยหรอลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขีปนาวุธและโดรนโจมตี
ปูตินยังยอมรับว่า รัสเซียน่าจะสามารถคาดการณ์การโจมตีข้ามพรมแดนจากยูเครนที่บีบให้มอสโกต้องส่งปืนใหญ่และเครื่องบินขับไล่ไปประจำการที่เมืองชายแดนได้ดีกว่านี้
ทางด้านเคียฟสวนกลับอย่างรวดเร็วโดยยืนยันอ้างว่า กองกำลังยูเครนที่ได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธและการฝึกจากตะวันตกสามารถรุกคืบและมีความคืบหน้าตามแผนการที่วางไว้
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ทางการทหารมองว่า ยูเครนยังไม่ได้ระดมกำลังทั้งหมดเข้าสู่ปฏิบัติการตอบโต้ และขณะนี้ยังเป็นแค่การทดสอบโจมตีเพื่อหาจุดอ่อนของข้าศึกเท่านั้น โดยช่วงไม่กี่วันมานี้เคียฟอ้างว่า ยึดหมู่บ้านในภูมิภาคโดเนตสก์คืนได้หลายแห่ง ทว่าดูเหมือนจะยังไปไม่ถึงแนวตั้งรับแม้กระทั่งชั้นแรกของฝ่ายรัสเซีย ซึ่งมีรายงานว่าวางเอาไว้อย่างแข็งแรงและมีด้วยกันหลายชั้น
ทางด้านสถาบันเพื่อการศึกษาสงครามซึ่งเป็นกลุ่มคลังสมองในวอชิงตันที่เข้าข้างยูเครนอย่างเปิดเผย ระบุในรายงานการวิเคราะห์ฉบับล่าสุดของตนว่า กองกำลังยูเครนยังคงเดินหน้าปฏิบัติการตอบโต้ในอย่างน้อย 3 ทิศทาง และมีความคืบหน้าภาคพื้นดินจำกัดในวันอังคาร
ขณะเดียวกัน มีการคาดการณ์ว่า ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงการปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) จะเดินทางไปโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาโปริซเซียในวันพุธ เพื่อหารือกับฝ่ายบริหารและประเมินสถานการณ์ของโรงไฟฟ้าดังกล่าว
ทั้งนี้ ความปลอดภัยของโรงไฟฟ้าซาโปริซเซีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในยุโรป และตั้งอยู่ในแคว้นซาโปริซเซียทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน เป็นประเด็นที่สร้างความกังวลอย่างกว้างขวางหลังจากกองทัพรัสเซียเข้ายึดโรงไฟฟ้าแห่งนี้เมื่อปีที่แล้วระหว่างทำสงครามในยูเครน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเขื่อนคาคอฟกาในภูมิภาคเคียร์ซอน ที่ป้อนน้ำเข้าสู่ระบบระบายความร้อนของโรงไฟฟ้าแตกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ไอเออีเอเตือนว่า ภัยพิบัติจากเขื่อนแตกอาจทำให้สถานการณ์ความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้าซาโปริซเซียซับซ้อนขึ้น
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, อาร์ที)