สะดุ้งทั้งโลก! รัสเซียแฉตรวจพบสหรัฐฯ ปฏิบัติการจารกรรมผ่านการแฮกไอโฟน

หน่วยงานความมั่นคงรัฐบาลกลางรัสเซีย (FSB) ออกมาเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (1 มิ.ย.) ตรวจพบปฏิบัติการจารกรรมของสหรัฐฯ ที่เข้ายึดไอโฟนหลายพันเครื่อง โดยใช้ซอฟต์แวร์สอดแนมล้ำสมัย

แคสเปอร์สกี แลป ผู้ให้บริการแอนติไวรัสและความมั่นคงทางไซเบอร์ข้ามชาติ สัญชาติรัสเซีย เปิดผยว่าอุปกรณ์มือถือของพนักงานหลายสิบคนถูกเข้าควบคุมในปฏิบัติการดังกล่าว ในขณะที่ FSB เผยแพร่ถ้อยแถลงเสริมว่าอุปกรณ์ของบริษัทแอปเปิล อิงค์ หลายพันชิ้นถูกแพร่เชื้อไวรัส ในนั้นรวมถึงผู้บอกรับสมาชิกภายในรัสเซีย เช่นเดียวกับบรรดานักการทูตต่างชาติในรัสเซียและอดีตสหภาพโซเวียต

"FSB ตรวจพบปฏิบัติการข่าวกรองของหน่วยพิเศษอเมริกา ที่ใช้อุปกรณ์มือถือของแอปเปิล" หน่วยงานความมั่นคงรัฐบาลกลางรัสเซียระบุในถ้อยแถลง

ถ้อยแถลงของ FSB ระบุว่า แผนการดังกล่าวแสดงให้เห็นถึง "การร่วมมือใกล้ชิด" ระหว่างแอปเปิลกับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) หน่วยงานสหรัฐฯ ที่รับผิดชอบด้านวิทยาการรหัสลับ ข่าวกรองและความปลอดภัยด้านโทรคมนาคม อย่างไรก็ตามทาง FSB ไม่ได้ให้หลักฐานเกี่ยวกับความร่วมมือของแอปเปิล หรือปฏิบัติการสอดแนมใดๆ

จากนั้นไม่นาน แอปเปิลเผยแพร่ถ้อยแถลงปฏิเสธคำกล่าวหาดังกล่าว โดยบอกว่า "เราไม่เคยร่วมมือกับรัฐบาลไหนๆ ในการแทรกซึมผ่านประตูหลังเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ใดๆของแอปเปิล และไม่เคยมีความตั้งใจทำเช่นนั้นด้วย" ในขณะที่ทาง NSA ไม่ขอแสดงความคิดเห็นต่อข้อกล่าวหานี้

อูจีน แคสเปอร์สกี ซีอีโอของแคสเปอร์สกี ออกมาแฉผ่านทวิตเตอร์ว่า โทรศัพท์มือถือของพนักงานของเขาหลายสิบเครื่องถูกเข้ายึดในปฏิบัติการดังกล่าว ที่ทางบริษัทของเขาให้คำจำกัดความว่าเป็น "การโจมตีทางเซอร์ไฟที่ซับซ้อนอย่างมากและเล็งเป้าหมายอย่างมืออาชีพ" ซึ่งล็อกเป้าพนักงานในตำแหน่งบริหารระดับสูงจนถึงระดับกลาง

อิกอร์ คูซเนตซอฟ นักวิจัยของแคสเปอร์สกี เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า บริษัทของเขาตรวจพบการจราจรผิดปกติในเครือข่าย Wi-Fi ของบริษัทตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว ทว่าเพิ่งส่งต่อการค้นพบไปยังทีมตอบสนองสถานการณ์ฉุกเฉินทางคอมพิวเตอร์ของรัสเซียเมื่อตอนเช้าวันพฤหัสบดี (1 มิ.ย.)

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ขอแสดงความคิดเห็นต่อคำกล่าวอ้างของทางการรัสเซีย ที่ว่าอเมริกาอยู่เบื้องหลังการแฮกครั้งนี้ หรือมีคนอื่นๆ อีกหลายพันคนตกเป็นเป้าหมาย

แคสเปอร์สกี เคยระบุในบล็อกโพสต์ ว่าร่องรอยเก่าแก่ที่สุดเกี่ยวกับการแพร่ไวรัสถูกพบย้อนกลับไปในปี 2019 "ในตอนที่เขียนอยู่นี้ในเดือนมิถุนายน 2023 การโจมตียังคงดำเนินการอยู่" ทางบริษัทระบุ พร้อมบอกต่อว่าแม้เจ้าหน้าที่ของบริษัทถูกเล่นงาน "แต่เรามั่นใจอย่างมากว่าแคสเปอร์สกี ไม่ได้เป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีทางไซเบอร์นี้"

FSB อ้างด้วยว่าพวกแฮกเกอร์อเมริกายังได้เข้ายึดมือถือของบรรดาผู้แทนทูตจากอิสราเอล ซีเรีย จีน และสมาชิกนาโตด้วยเช่นกัน ในปฏิบัติการจารกรรมครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อิสราเอลปฏิเสธแสดงความคิดเห็น ส่วนผู้แทน จีน ซีเรีย และนาโตยังไม่สามารถติดต่อขอความเห็นได้

อ้างอิงจากดัชนีมหาอำนาจไซเบอร์ปี 2022 ของศูนย์เบลเฟอร์ แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่าสหรัฐฯ คือชาติมหาอำนาจทางไซเบอร์หมายเลข 1 ของโลก ในแง่ของเจตนารมณ์และศักยภาพ ตามมาด้วยรัสเซีย สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย

ทั้งวังเครมลินและกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ต่างชี้ถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าว "การเก็บข้อมูลอย่างลับๆ เป็นการดำเนินการผ่านช่องโหว่ทางซอฟต์แวร์ในโทรศัพท์มือที่ผลิตโดยสหรัฐฯ" กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุ พร้อมบอกต่อว่า "เป็นเวลานานหลายทศวรรษแล้ว ที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ใช้บรรดาบริษัทไอที เพื่อรวมรวบข้อมูลขนานใหญ่จากเหล่าผู้ใช้อินเตอร์เน็ต โดยปราศจากการรับรู้"

เจ้าหน้าที่รัสเซียระบุว่า แผนดังกล่าวถูกสืบสวน ส่วนหนึ่งในความพยายามร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของ FSB กับกำลังอารักขากลางรัสเซีย (FSO)

พวกเจ้าหน้าที่ในรัสเซียตั้งข้อสงสัยมาช้านานเกี่ยวกับความปลอดภัยของเทคโนโลยีสหรัฐฯ ในขณะที่ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน บอกว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนในทำเนียบประธานาธิบดี รู้ดีว่าอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเช่นไอโฟน มีความอ่อนแอ

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี วังเครมลินได้แจ้งพวกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซีย 2024 ให้หยุดใช้มือถือไอโฟนของแอปเปิล เพราะกังวลว่าอุปกรณ์ดังกล่าวมีความอ่อนแอต่อหน่วยข่าวกรองของตะวันตก

(ที่มา : รอยเตอร์)