พวกเจ้าหน้าที่รัฐของสหราชอาณาจักร "เป็นเป้าหมายทางทหารที่ชอบธรรม" เพราะว่าสหราชอาณาจักรให้การสนับสนุนยูเครน จากคำเตือนของดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซียเมื่อวันพุธ (31 พ.ค.)
เมดเวเดฟ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย อ้างว่าการที่สหราชอาณาจักรให้การสนับสนุนเคียฟ เทียบเท่ากับเป็นการประกาศสงครามกับรัสเซีย ความคิดเห็นของเขามีขึ้นหลังจาก เจมส์ เคฟเวอร์ลี รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร บอกว่า ยูเครนมีสิทธิดำเนินปฏิบัติการทางทหารเกินขอบเขตชายแดนของตนเองเข้าสู่รัสเซีย เพื่อต้านทานการรุกรานของปูติน
พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนปฏิเสธว่าไม่ได้เปิดปฏิบัติการโดรนโจมตีที่เล่นงานกรุงมอสโกเมื่อวันอังคาร (30 พ.ค.) แต่เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ภายในดินแดนของรัสเซียลุกลามบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากฝีมือทหารเคียฟและกลุ่มท้องถิ่นที่ต่อต้านสงคราม
ในการตอบโต้ความเห็นของรัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร ทาง เมดเวเดฟ กล่าวว่า "พวกเจ้าหน้าที่ที่โง่เขลาของสหราชอาณาจักร ศัตรูชั่วนิรันดร์ของเรา ควรพึงระลึกไว้ว่าภายในกรอบของกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งได้รับการยอมรับโดยทั่วไป ที่กำหนดกฎเกณฑ์ควบคุบสงครามสมัยใหม่ ในนั้นรวมถึงสนธิสัญญาเฮก และสนธิสัญญาเจนีวา พร้อมด้วยพิธีสารเพิ่มเติม สถานะของพวกเขาอาจเข้าข่ายอยู่ในภาวะสงครามเช่นกัน"
"วันนี้ การกระทำต่างๆ ของสหราชอาณาจักร ในฐานะพันธมิตรของยูเครน มอบความช่วยเหลือทางทหารในรูปแบบของยุทโธปกรณ์และผู้เชี่ยวชาญ กล่าวคือในทางพฤตินัย มันกำลังนำไปสู่การประกาศสงครามกับรัสเซีย" เมดเวเดฟระบุ "ในกรณีเช่นนั้น เจ้าหน้าที่รัฐของสหราชอาณาจักรทุกคน (ทั้งทางทหารหรือพลเรือนที่ส่งเสริมสงคราม) สามารถถูกพิจารณาในฐานะเป้าหมายที่ชอบธรรมทางทหาร"
พวกเจ้าหน้าที่กลาโหมของสหราชอาณาจักร เชื่อว่าเหตุจู่โจมภายในดินแดนรัสเซียกำลังทำให้กองกำลังของมอสโกกำลังจัดวางกองกำลังใหม่
ในบรรยายสรุปด้านข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร ระบุว่า "นับตั้งแต่เริ่มเข้าสู่เดือนพฤษภาคม 2023 รัสเซียกำลังเป็นฝ่ายตั้งรับตอบโต้การกระทำยูเครน จากเดิมที่เดินหน้าอย่างกระตือรือร้นในการมุ่งสู่เป้าหมายสงครามของพวกเขา
"ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2023 รัสเซียใช้อากาศยานไร้คนขับโจมตีทางเดียวและขีปนาวุธร่อนโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนยูเครน 20 คืน แต่รัสเซียประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อยในความเป็นไปได้ที่จะเล็งเป้าหมายกำจัดศักยภาพด้านการป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนและทำลายกองกำลังโจมตีตอบโต้ของยูเครน ในทางภาคพื้น พวกเขากำลังจัดวางกองกำลังด้านความมั่นคงใหม่ ตอบสนองต่อการโจมตีภายในพื้นที่ทางตะวันตกของรัสเซีย"
ระหว่างแสดงความคิดเห็นในเอสโตเนียเมื่อวันอังคาร (30 พ.ค.) เคฟเวอร์ลี กล่าวว่า "การโจมตีเป้าหมายทางทหารที่อยู่นอกชายแดนของตนเอง ส่วนหนึ่งในการป้องกันตนเองของยูเครน เป็นเรื่องชอบธรรม เราควรยอมรับมัน ผมไม่บอกว่าที่ผมพูดเป็นคำประเมินอย่างเฉพาะเจาะจงต่อเหตุโจมตีในรัสเซีย แต่ผมพูดอย่างกว้างๆ เป้าหมายทางทหารที่อยู่นอกเหนือเขตแดนของตนเองที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ เป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันตนเองของประเทศหนึ่ง"
ในวันพุธ (31 พ.ค.) รัฐมนตรีต่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักรรายนี้ เดินทางเยือนนอร์เวย์ เพื่อพบปะประชุมกับบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของนาโต โดยเขาบอกว่า "สหราชอาณาจักรและนาโตกำลังทำให้แน่ใจว่า ยูเครนจะได้รับพลานุภาพการโจมตีที่พวกเขาจำเป็นสำหรับปกป้องตนเอง"
(ที่มา : บลูมเบิร์ก)
