(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Russia evacuates nuclear warheads amid Ukraine incursion
By STEPHEN BRYEN
รัสเซียต้องรีบโยกย้ายหัวรบนิวเคลียร์ของตน ขณะมี ‘พวกนักก่อวินาศกรรม’ ล่วงล้ำเข้ามาจากยูเครน
ยูเครนเปิดปฏิบัติการโจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซียเมื่อตอนเช้าวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยโฟกัสอยู่ที่บริเวณพื้นที่รอบนอกของเมืองเบลโกร็อด และในตอนต้นๆ ฝ่ายยูเครนอ้างว่ายึดชุมชนในแถบนั้นเอาไว้ได้ 3 แห่ง
(เบลโกร็อด Belgorod เมืองนี้ยังเป็นเมืองเอกของแคว้นชื่อเดียวกัน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือขึ้นไปจากชายแดนยูเครนประมาณ 40 กิโลเมตร ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://en.wikipedia.org/wiki/Belgorod -ผู้แปล)
มีรายงานว่า จุดข้ามแดนของรัสเซียแห่งหนึ่งในแคว้นเบลโกร็อด ได้ถูกทำลายเมื่อถูกระดมยิงด้วยปืนใหญ่จากดินแดนยูเครน ต่อจากนั้น การล่วงล้ำแดนของกองทหารที่มียานหุ้มเกราะหลายคันสนับสนุนจากฝั่งยูเครนเข้าไปในแคว้นเบลโกร็อด ก็เริ่มต้นขึ้น
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://twitter.com/EuromaidanPress/status/1660574145564778498)
การปฏิบัติการคราวนี้มีวัตถุประสงค์ทั้งในทางการเมืองและในทางยุทธศาสตร์
วัตถุประสงค์ทางการเมืองนั้น ก็เพื่อสร้างความอับอายขายหน้าให้แก่ฝ่ายรัสเซีย ซึ่งแสดงปฏิกิริยาตอบโต้การรุกล้ำอย่างเชื่องช้ามากๆ รวมทั้งเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจให้ออกไปจากความเพลี่ยงพล้ำครั้งมโหฬารของกองทัพบกยูเครนที่เมืองบัคมุต (Bakhmut)
ส่วนวัตถุประสงค์ทางยุทธศาสตร์นั้น คือการหาทางเข้าไปยึดพวกหัวรบนิวเคลียร์ของรัสเซีย ที่เก็บเอาไว้อยู่ ณ สถานที่ซึ่งเรียกกันว่า “อ็อบเจกต์ 1150” (Object 1150) ใกล้ๆ กับชุมชนเกรย์โวรอน (Grayvoron) อันเป็นที่ตั้งของกองทหารรัสเซียหน่วย 25624 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังจรวดทางยุทธศาสตร์ (strategic rocket forces) ของรัสเซีย
ตามรายงานของสื่อยูเครน ยูเครนสกา ปราฟดา (Ukrainska Pravda) อ็อบเจกต์ 1150 ก็คือ หนึ่งใน “อ็อบเจกต์ ซี” (Object C) ซึ่งเป็นชื่อเรียกตามแบบแผนสำหรับคลังเก็บอาวุธนิวเคลียร์ส่วนกลางของรัสเซีย อย่างไรก็ดี ในนาทีสุดท้ายฝ่ายรัสเซียดูเหมือนได้โยกย้ายหัวรบนิวเคลียร์เหล่านี้ออกไปแล้ว ทั้งนี้ ตามคำบอกเล่าของพวกแหล่งข่าวทั้งทางฝ่ายรัสเซียและทางฝ่ายยูเครน
(รายงานของยูเครนสกา ปราฟดา ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.pravda.com.ua/news/2023/05/22/7403366/)
หัวรบนิวเคลียร์ อาร์ดี14 ขนาด 240 มม. (240mm RD14 nuclear warhead) ซึ่งเก็บเอาไว้ที่เกรย์โวรอน สามารถติดตั้งเข้ากับปืนครกอัตตาจร 3วีบี11 ทุลปัน (3VB11 self-propelled Tyulpan mortar) ที่เป็นปืนครกขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งนี้ หัวรบนิวเคลียร์ชนิดนี้ที่ได้รับการปรับปรุงยกระดับแล้ว แต่ละหัวรบจะมีอำนาจการระเบิดมากกว่า 2 กิโลตัน
(ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับปืนครกชนิดนี้ได้ที่ https://gabaniki.fandom.com/wiki/2S4_Tyulpan)
ถ้าหากยูเครนสามารถยึดหัวรบเหล่านี้ไว้ได้ พวกเขาก็สามารถที่จะประกอบมันเข้ากับขีปนาวุธทางยุทธวิธีโดยไม่ต้องประสบความยากลำบากใหญ่โตอะไรเลย
ทำไมรัสเซียจึงเก็บอาวุธเหล่านี้เอาไว้ในสถานที่ซึ่งอยู่ห่างชายแดนไม่ถึง 15 กิโลเมตรเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่มีความกระจ่างชัดเจน แต่ถึงอย่างไรก็คงต้องถือเป็นความสะเพร่าที่พวกเขากระทำแบบนี้ โดยที่ถ้ามันถูกยึดไปก็อาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางด้านนิวเคลียร์ขึ้นมาได้
สำหรับการรุกล้ำครั้งล่าสุดนี้ ถูกระบุว่ากระทำโดยฝีมือขององค์กรที่เรียกขานกันว่า “กองทหารเสรีภาพเพื่อรัสเซีย” (Legion “Freedom for Russia”) ซึ่งอ้างตัวว่าประกอบด้วยเหล่าทหารอาสาสมัครชาวรัสเซีย แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นหน่วยทหารของกองทัพยูเครน และหน่วยปฏิบัติการด้านข่าวกรอง
ถ้าหากว่ากองกำลังของยูเครนเหล่านี้ไม่สามารถถอนตัวข้ามพรมแดนกลับมาด้วยความรวดเร็วทันการณ์แล้ว พวกเขาก็น่าจะถูกกำจัดทิ้ง
ทั้งนี้ กองทหาร “เสรีภาพเพื่อรัสเซีย” และ เหล่าทหารอาสาสมัครชาวรัสเซีย (Russian Volunteer Corps หรือ RDK) ที่อ้างว่าประกอบไปด้วยพลเมืองรัสเซียผู้ตัดสินใจสู้รบอยู่ข้างฝ่ายยูเครน รวมทั้งเข้าร่วมอยู่ใน กองทหารนานาชาติ (International Legion) ของกองทัพยูเครน (Ukraine’s Armed Forces) ด้วยนั้น ได้ออกมาอ้างเช่นกันว่านักรบของพวกตนได้ข้ามพรมแดนยูเครน-รัสเซีย และเข้าสู่แคว้นเบลโกร็อดจากดินแดนของยูเครน
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://t.co/l22H59KuQx)
กองทหาร “เสรีภาพเพื่อรัสเซีย” และ RDK ยังประกาศบนช่องเทเลแกรมอย่างเป็นทางการของพวกตนว่า พวกตนสามารกรุกคืบหน้าลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย และเข้าสู้รบกับกองกำลังรัสเซียในเมืองเล็กๆ หลายแห่งในแคว้นเบลโกร็อด โดยมีการระบุชื่อของ โคซินคา (Kozinka) โกรา-โปดอล (Gora-Podol) และ เกรย์โวรอน (แห่งหลังนี้ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนรัสเซีย-ยูเครน ราวๆ 10 กิโลเมตร) และได้เรียกร้องผู้พำนักอาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนรัสเซียเหล่านี้ให้อยู่กับบ้าน และ “ไม่ต่อต้าน”
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://t.co/LWi55P94o0)
อีกไม่นานหลังจากนั้น พวกชาวบ้านในเกรีย์โวรอนก็เริ่มรายงานว่าเกิดการยิงต่อสู้กันในเขตชุมชนของพวกเขา
ตัวแทนผู้หนึ่งของกองทหารเสรีภาพเพื่อรัสเซีย บอกกับ “ซัสปิลเน” (Suspilne) สื่อด้านข่าวของยูเครน ว่า พวกเขากำลังก่อตั้ง “พื้นที่ปลอดทหาร” ขึ้นมาในแคว้นเบลโกร็อดของรัสเซีย บริเวณพรมแดนติดต่อกับยูเครน โดยมุ่งทำให้กองทหารรัสเซียไม่สามารถยิงปืนใหญ่ถล่มใส่พลเรือนชาวยูเครนได้
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://twitter.com/EuromaidanPress/status/1660657875859939328)
อันดรีย์ ยูซอฟ (Andrii Yusov) ผู้ทำหน้าที่เป็นโฆษกให้แก่หน่วยข่าวกรองของยูเครน แถลงสนองรับในทิศทางเดียวกันว่า การปฏิบัติการสู้รบในแคว้นเบลโกร็อด อาจจะเป็นความพยายามที่จะจัดตั้ง “พื้นที่ความมั่นคงปลอดภัย” ขึ้นมาเพื่อพิทักษ์ปกป้องชาวยูเครนไม่ให้ถูกรัสเซียโจมตี
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://suspilne.media/483544-u-belgorodskij-oblasti-zaavili-pro-proriv-ukrainskoi-drg-so-vidomo/)
อย่างไรก็ดี อันดรีย์ ยูซอฟ บอกด้วยว่า ยูเครนไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในแคว้นเบลโกร็อดนี้ และอ้างว่าการสู้รบที่นั่นกำลังกระทำโดยกองกำลังต่อต้านปูตินที่เป็นคนท้องถิ่น โดยประกอบด้วยพลเมืองชาวรัสเซียเท่านั้น
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.pravda.com.ua/news/2023/05/22/7403366/)
ทางด้าน มีไฮโล โปโดเลียค (Mykhailo Podoliak) ที่ปรึกษาของหัวหน้าสำนักงานทำเนียบประธานาธิบดีแห่งยูเครน (Adviser to the head of Ukraine’s presidential office) ก็ออกมาปฏิเสธว่ายูเครนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรุกล้ำเข้าในในแคว้นเบลโกร็อดของรัสเซีย
“ในประเทศเผด็จการเบ็ดเสร็จที่มีการขันนอตสกรูควบคุมอย่างแน่นหนาขึ้นเรื่อยๆ พลังขับดันทางการเมืองเพียงอย่างเดียวที่สามารถเป็นไปได้จึงมักเป็นขบวนการจรยุทธ์ติดอาวุธเท่านั้น ยูเครนกำลังเฝ้าดูเหตุการณ์ในแคว้นเบลโกร็อดของรัสเซียด้วยความสนใจ และกำลังศึกษาสถานการณ์ และไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย อย่างที่พวกคุณย่อมทราบกันอยู่แล้ว มีรถถังขายอยู่ในร้านทางทหารรัสเซียไม่ว่าแห่งไหน และพวกกลุ่มจรยุทธ์ใต้ดินก็ประกอบไปด้วยพลเมืองชาวรัสเซีย” โปโดเลียค เขียนไว้เช่นนี้ทางทวิตเตอร์
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://twitter.com/Podolyak_M/status/1660630391068164096)
เวลาประมาณ 18.00 น. ผู้ว่าการแคว้นเบลโกร็อด วยาเชสลาฟ กลาดคอฟ (Vyacheslav Gladkov) แจ้งผ่านบัญชีเทเลแกรมอย่างเป็นทางการของเขาว่า มีการประกาศการปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายขึ้นในแคว้นเบลโกร็อดแล้ว “เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยของพลเมืองในแคว้นเบลโกร็อด
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://t.me/vvgladkov/2258)
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ก็ได้รับแจ้งเรื่องการรุกล้ำเข้ามาในแคว้นเบลโกร็อดของ “กลุ่มนักก่อวินาศกรรมชาวยูเครน” แล้ว ดมิตริ เปสคอฟ (Dmitri Peskov) โฆษกของทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย บอกกับอาร์ไอเอ โนวอสตี (RIA Novosti) สื่อด้านข่าวของรัสเซีย
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://t.me/rian_ru/203400)
ตามการแถลงของ เปสคอฟ กองกำลังรัสเซียพยายามที่จะ “บีบบังคับพวกนักก่อวินาศกรรมชาวยูเครนเหล่านี้ให้ออกไปจากรัสเซีย และทำลายพวกเขา” โฆษกผู้นี้อ้างอีกว่า วัตถุประสงค์ของ “พวกนักก่อวินาศกรรมชาวยูเครน” คือการเบี่ยงเบนความสนใจให้หันเหออกมาจากทิศทางเมืองบัคมุต เพื่อพยายามลดทอนผลทางการเมืองจากการ “สูญเสีย” เมืองบัคมุต ให้เหลือน้อยที่สุด
สตีเฟน ไบรเอน เป็นนักวิจัยอาวุโสอยู่ที่ Center for Security Policy และ Yorktown Institute ข้อเขียนนี้หนแรกสุดเผยแพร่อยู่ในบล็อก Substack, Weapons and Strategy ของผู้เขียน