เซเลนสกียืนยันหัวชนฝา ‘บัคมุต’ ยังไม่แตก แม้ ผบ.ทหารยอมรับอ่อยๆ เหลือที่มั่น ‘เล็กๆ’

“เซเลนสกี” ยืนยันหัวชนฝา เมืองบัคมุตไม่ได้ถูกมอสโกยึด ขณะที่ผู้บัญชาการทหารภาคพื้นดินของเคียฟแก้เกี้ยว บอกทหารยูเครนยังสามารถครองพื้นที่ “เล็กๆ” รอเข้าโอบล้อมกองกำลังรัสเซีย ด้าน “ปรีโกจิน” หัวหน้าทหารรับจ้างรัสเซีย กล่าวย้ำในวันจันทร์ (22 พ.ค.) เตรียมส่งมอบอำนาจควบคุมเมืองนี้ไปให้กองทัพหมีขาว พร้อมกับฉะผู้นำยูเครนโกหก หรือไม่ก็ไม่รู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นในเมืองดังกล่าว

ทั้ง วากเนอร์ กรุ๊ป ที่เป็นบริษัททหารรับจ้างของรัสเซีย และกองทัพรัสเซียต่างออกมาประกาศว่า รัสเซียมีชัยชนะยึดเมืองบัคมุต ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน ได้ทั้งเมืองแล้วตั้งแต่วันเสาร์ (20) นอกจากนี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยังแสดงความยินดีกับวากเนอร์ และกองทัพรัสเซีย

ล่าสุด เยฟเกนี ปรีโกจิน ผู้นำวากเนอร์โพสต์ไฟล์เสียงบนแพลตฟอร์ม “เทเลแกรม” เมื่อวันจันทร์ (22) ย้ำว่า กองกำลังของตนซึ่งเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว จะถอนตัวออกจากบัคมุตในช่วงวันที่ 25 เดือนนี้จนถึงวันที่ 1 มิถุนายน และส่งมอบการควบคุมให้กองทัพรัสเซีย

ทว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนยังคงยืนยันหนักแน่นในที่ประชุมสุดยอดจี7 ที่ญี่ปุ่นเมื่อวันอาทิตย์ (21) ว่า บัคมุตไม่ได้ถูกรัสเซียยึด และชี้ว่า หากถือเป็นชัยชนะคงเป็นชัยชนะที่สร้างความเสียหายใหญ่หลวงสำหรับรัสเซีย เนื่องจากตอนนี้ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยในบัคมุต

เซเลนสกียังเปรียบเทียบ “การทำลายล้างโดยสิ้นเชิง” ที่เกิดขึ้นในบัคมุต กับความหายนะของเมืองฮิโรชิมา ที่พวกเขากำลังนั่งประชุมกันอยู่ ซึ่งได้ถูกอเมริกาถล่มด้วยระเบิดปรมาณูในปี 1945

ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่นั่งติดกับเซเลนสกีในที่ประชุมจี7 สำทับว่า รัสเซียสูญเสียทหารในบัคมุตกว่า 100,000 นาย

วันเดียวกันนั้น พล.อ.โอเลคซานดร์ ซีร์สไกยี ผู้บัญชาการทหารภาคพื้นดินของยูเครน ยืนยันว่า กองกำลังยูเครนยังคงยึดพื้นที่ “เล็กๆ” เอาไว้ได้ และรุกคืบในแถบชานเมืองบัคมุต โดยกำลังรอโอกาสเพื่อเข้าโอบล้อมทหารรัสเซีย

ส่วน ฮันนา มาลิอาร์ รัฐมนตรีช่วยกลาโหมยูเครน ออกมาช่วยยืนยันในวันจันทร์ว่า ยังมีการสู้รบในแถบชานเมืองด้านเหนือและใต้ของบัคมุต

ทว่า ปรีโกจิน ผู้นำวากเนอร์ซึ่งเป็นหัวหอกในการโจมตีบัคมุต กล่าวว่า ไม่มีทหารยูเครนเหลืออยู่ในบัคมุต จะมีก็แต่ซากศพทหารยูเครนจำนวนมากเท่านั้น

เขาสำทับว่า เซเลนสกีไม่ได้พูดความจริง หรืออาจเป็นเหมือนผู้นำทางทหารคนอื่นๆ ของยูเครนที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในสนามรบ

การสูญเสียบัคมุตมีความสำคัญอย่างมากในเชิงสัญลักษณ์สำหรับยูเครน และโดยเฉพาะตัวเซเลนสกี ซึ่งตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเพิกเฉยต่อคำเตือนหลังฉากของอเมริกาให้ทุ่มกำลังไปสู้รบในสมรภูมิอื่นๆ แทน รวมทั้งมีรายงานด้วยว่า พวกผู้บัญชาการทหารของยูเครนเองก็แนะนำให้ถอยจากบัคมุต เพื่อสงวนกำลังที่ยังพอรักษาเอาไว้ได้ ทว่าเซเลนสกีไม่ยินยอม

ในอีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เสียใจที่ไม่ได้พบกับเซเลนสกีในระหว่างการประชุมจี7 และสำทับว่า ดูเหมือนผู้นำยูเครนไม่สนใจเจรจาสันติภาพกับรัสเซียแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองคนต่างได้รับเชิญเป็นแขกพิเศษเข้าร่วมการประชุมซัมมิตของจี7 คราวนี้ เซเลนสกีนั้นกล่าวว่าต้องการพบปะเป็นการส่วนตัวกับลูลาเช่นกัน ทว่าตารางเวลาที่ไม่ลงตัวทำให้ไม่ได้พบกัน ซึ่งเซเลนสกีบอกว่า อาจทำให้ผู้นำบราซิลผิดหวัง

อย่างไรก็ดี ลูลาบอกว่า เขาไม่ได้ผิดหวัง แต่เสียใจ เพราะต้องการหารือเรื่องแผนสันติภาพของยูเครน และยังบอกว่า ทีมงานของเขานัดพบกับเซเลนสกีบ่ายวันอาทิตย์ แต่ผู้นำยูเครนมาถึงฮิโรชิมาช้า และหลังจากนั้นตารางเวลาก็แน่นเอี๊ยด

ลูลา เสริมว่า เขาไม่คิดว่าจะต้องพบกับเซเลนสกีแล้ว เพราะดูเหมือนทั้งเซเลนสกี และปูตินต่างไม่ต้องการสันติภาพ

ที่ผ่านมา ผู้นำบราซิลพยายามผลักดันการเจรจาสันติภาพและเสนอเป็นตัวกลางร่วมกับประเทศที่เป็นกลางอื่นๆ เช่น จีน และอินโดนีเซีย

อย่างไรก็ดี เดือนที่ผ่านมา ลูลากล่าวหาอเมริกาสนับสนุนการทำสงคราม และถูกทำเนียบขาวตอกกลับว่า ลอกเลียนโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซียและจีนมาพูด หลังจากนั้น ลูลาจึงลดน้ำเสียงแข็งกร้าวลงและประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

ทว่า ในวันจันทร์ ลูลากลับมาโจมตีอเมริกาอีกครั้งโดยระบุว่า คำพูดของไบเดนที่ว่า ปูตินต้องยอมแพ้และจ่ายสำหรับทุกอย่างที่ทำลายไปนั้น “ไม่ได้ช่วยอะไรเลย”

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)