xs
xsm
sm
md
lg

เหตุผลที่ทำไม ‘ยูเครน’ จึงอาจจะยอมรับแผนสันติภาพที่ ‘จีน’ เสนอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สเปงเกลอร์ ***


จีนเสนอแผนสันติภาพในยูเครน ซึ่งสหรัฐฯ ปฏิเสธไม่ยอมรับไปแล้ว แต่ยูเครนอาจจะต้องยอมรับก็ได้ เมื่อหนทางที่จะมีชัยเหนือรัสเซียนั้นตีบตัน แม้ฝ่ายตะวันตกพยายามช่วยเหลือแล้ว ทว่าเคียฟยังเจอปัญหาขาดแคลนทั้งกำลังพลและเครื่องกระสุน (ภาพ Screengrab / Twitter / ISPI)
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.asiatimes.com)

Why Ukraine may embrace China’s peace plan
By SPENGLER
20/03/2023

การประชุมหารือกันอย่างเป็นการภายในเมื่อเร็วๆ นี้ ของพวกผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายการต่างประเทศระดับท็อปของสหรัฐฯ มองว่ายูเครนมีความเสี่ยงที่จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามพร่ากำลัง ถึงแม้ฝ่ายตะวันตกพยายามให้ความช่วยเหลืออย่างดีที่สุดแล้วก็ตาม

ลู่ทางโอกาสที่ยูเครนจะได้ชัยชนะเหนือรัสเซียนั้นค่อนข้างมืดมน นี่เป็นผลการประเมินสถานการณ์ซึ่งออกมาจากการชุมนุมหารือกันเป็นการภายในเมื่อเร็วๆ นี้ ของพวกอดีตนายทหาร เจ้าหน้าที่ข่าวกรอง และนักวิชาการในระดับท็อปของสหรัฐฯ กลุ่มหนึ่ง ซึ่งสามารถอวดประวัติผลงานได้ว่าเคยทำงานกับคณะบริหารโรนัลด์ เรแกน จนถึงกับคณะบริหารโดนัลด์ ทรัมป์

ผู้พูดรายหนึ่งในที่ชุมนุมนี้เสนอความคิดเห็นว่า เนื่องจากขาดแคลนทั้งบุคลากรที่ผ่านการฝึกและทั้งพวกเครื่องกระสุน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนจึงอาจจะพิจารณาแผนการสันติภาพซึ่งจีนเสนอขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากปักกิ่งเพิ่งประสบความสำเร็จในการเป็นตัวกลางคลี่คลายข้อพิพาทระหว่างอิหร่านกับซาอุดีอาระเบีย

ผู้เข้าร่วมที่มีหลายสิบคนเหล่านี้ จำนวนมากเลยเคยดำรงตำแหน่งระดับคณะรัฐมนตรี หรือรองลงจากรัฐมนตรีมาแล้ว พวกเขาพบปะหารือกันครั้งนี้ภายใต้กฎระเบียบแบบ “ชาแธมเฮาส์” (Chatham House) ซึ่งก็คือห้ามเปิดเผยอัตลักษณ์ของผู้เข้าร่วมเป็นรายบุคคล แต่อนุญาตให้นำเอาตัวเนื้อหาที่คุยกันมาเสนอต่อสาธารณชนได้

อารมณ์ความรู้สึกของผู้เข้าร่วมเหล่านี้ ท่วมท้นไปด้วยความโน้มเอียงซึ่งต้องการมุ่งสู่การบานปลายขยายตัว ในรูปลักษณ์ของการจัดหาอาวุธเพิ่มเติมไปให้แก่ยูเครน นักวิเคราะห์คนสำคัญมากคนหนึ่งเสนอให้จัดตั้งกลุ่มนักรบที่มาจากประเทศอื่นๆ ในลักษณะ “กองทหารต่างด้าว” ขึ้นมา เพื่อเสริมเติมให้แก่กำลังพลที่ผ่านการฝึกของยูเครนซึ่งร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ

ผู้เข้าร่วมเกินครึ่งหนึ่งไปมากๆ ทีเดียว ปรารถนาที่จะให้ทุ่มเทยอมเสี่ยงทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้ชัยชนะอย่างสมบูรณ์เด็ดขาดเหนือรัสเซีย ไม่มีผู้เข้าร่วมคนไหนเลยอ้างอิงถึงความรู้สึกหวาดหวั่นอย่างที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งเสียงออกมาเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ในเรื่องความเสี่ยงที่จะเกิดการบานปลายขยายตัวทางนิวเคลียร์ขึ้นในยูเครน

คำถามที่ว่าสงครามรัสเซีย-ยูเครนอาจจะบานปลายกลายเป็นการสู้รบขัดแย้งที่มีขนาดใหญ่โตกว้างขวางยิ่งขึ้น ก็ไม่ได้รับความใส่ใจอะไร ตรงกันข้ามพวกเขามีความรู้สึกหงิดหงิดผิดหวังที่ยูเครนดูเหมือนจะพ่ายแพ้แก่รัสเซีย แม้กระทั่งหลังจากฝ่ายตะวันตกใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ที่สุดและเสี่ยงที่จะให้เกิดการบานปลายขยายตัวแล้วก็ตามที

หนึ่งในผู้นำในการเสนอความเห็น กล่าวในตอนท้ายของการชุมนุมหารือเป็นการภายในครั้งนี้ว่า เราไม่ควรรู้สึกประหลาดใจอะไรเลย ถ้าหากประธานาธิบดีเซเลนสกี ของยูเครนตกลงยอมรับแผนการสันติภาพของจีน ไม่มีใครในโลกตะวันตกเช่นกันที่คาดการณ์ไว้ก่อนว่าจีนจะเข้าเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่าน

ถึงแม้วอชิงตันปฏิเสธไม่เอาด้วยกับแผนการสันติภาพสำหรับยูเครนซึ่งจีนเสนอออกมานี้ ทว่าเซเลนสกีเองยังไม่ได้ปฏิเสธ รัสเซียจะได้ทะเลอาซอฟ และดินแดนส่วนใหญ่ของภูมิภาคดอนบาสเอาไว้ เป็นการประนีประนอมรอมชอมซึ่งจะอาจจะบีบบงคับให้ยูเครนต้องยอมรับ ในขณะที่พวกเขากำลังหมดสิ้นขาดแคลนทั้งกำลังคนและเครื่องกระสุน ทัศนะของอเมริกาต่อจีนนั้น “โบราณหยาบๆ มาก” ผู้เชี่ยวชาญคนนี้กล่าวต่อ อีกทั้งมีความโน้มเอียงที่จะประเมินความละเอียดประณีตของฝ่ายจีนอย่างต่ำกว่าความเป็นจริง

มีผู้ทำหน้าที่เป็นโฆษกให้แก่สภาความมั่นคงแห่งชาติผู้หนึ่ง ให้ความเห็นปฏิเสธแผนการริเริ่มของฝ่ายจีน ซึ่งเรียกร้องให้มีการหยุดยิงกันในทันที โดยชี้ว่าการหยุดยิงจะเปิดทางให้รัสเซียยังคงอยู่ในที่มั่นต่างๆ บนดินแดนที่พวกเขายึดเอาไปจากยูเครน

ยูเครนนั้นสามารถประคับประคองให้ฝ่ายตนเกิดการบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนเพียงประมาณสองในสามของฝ่ายรัสเซีย ทว่ายูเครนมีประชากรคิดเป็นหนึ่งในสามถึงหนึ่งในสี่ของประชากรของรัสเซียเท่านั้น จึงอยู่ในสภาพห่างไกลเกินกว่าที่จะประคับประคองสถานการณ์เช่นนี้เอาไว้ได้นานๆ ทั้งนี้ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งซึ่งเคยใช้เวลานานหลายเดือนในภาคสนามในยูเครน

กองทัพทั้งกองทัพที่นาโต้เคยฝึกอบรมเอาไว้ในช่วงระหว่างปี 2014 ถึงปี 2022 ในการเตรียมตัวเพื่อรับมือกับการโจมตีของฝ่ายรัสเซียนั้นได้ล้มหายตายจากไปหมดแล้ว และผู้ที่ถูกเกณฑ์เข้ามาใหม่กำลังถูกโยนเข้าสู่แนวหน้าในสมรภูมิโดยที่ผ่านการฝึกมาเพียงแค่ 3 สัปดาห์

กองทหารดีเยี่ยมที่สุดของยูเครน ซึ่งนาโต้อบรมฝึกฝนขึ้นมาในช่วงหลังจากรัสเซียเข้าผนวกแหลมไครเมียเมื่อปี 2014 จนถึงปี 2022 เพื่อเตรียมไว้รับมือกับการโจมตีของแดนหมีขาวนั้น เวลานี้เรียกได้ว่าถูกฆ่าตายไปในสงครามเสียแล้ว (ภาพเผยแพร่โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ)
มันไม่ใช่หมายความว่ายูเครนจะขาดแคลนหมดสิ้นร่างกายที่มีชีวิตแล้ว ตามความหมายในทางลายลักษณ์อักษร แต่หมายความว่าคุณภาพของกองทัพของยูเครน คุณภาพทั้งของพวกพลทหาร และพวกนายทหารกำลังเสื่อมถอยลง และส่วนที่สำคัญยิ่งยวดส่วนต่างๆ ของภาคเศรษฐกิจพลเรือนจะพังครืนลงมา ขณะที่มีการโยกย้ายกำลังคนจากภาคพลเรือนไปยังภาคการทหาร

ผู้เชี่ยวชาญคนนี้ให้ตัวเลขการบาดเจ็บล้มตาย “แบบไม่สามารถกอบกู้ฟื้นคืนได้” (“unrecoverable” casualties นั่นคือถูกฆ่าหรือได้รับบาดเจ็บสาหัส) ของยูเครน ว่าอยู่ในระดับสองในสามของรัสเซีย คิดเป็นตัวเลขก็คือ มีทหารยูเครนตายหรือบาดเจ็บสาหัสจำนวน 120,000 คน ต่อทหารรัสเซียที่ตายหรือบาดเจ็บสาหัสเช่นกันจำนวน 150,000-200,000 คน

การประเมินอื่นๆ ของพวกนักวิเคราะห์สหรัฐฯนอกเหนือจากผู้เชี่ยวชาญรายนี้ให้ตัวเลขที่สูงขึ้นไปเล็กน้อยสำหรับฝ่ายยูเครน แต่ข้อสรุปในทางยุทธศาสตร์ยังคงเป็นอย่างเดียวกัน นั่นคือ ด้วยกำลังทหารที่ใหญ่โตกว่ามากมายนัก รัสเซียจะเป็นผู้ชนะในการทำสงครามพร่ากำลัง (war of attrition) ทั้งนี้มีกองพันทหารยูเครนกองพันหนึ่งสูญเสียทหารไป 600 คนในเดือนมกราคม แล้วได้รับกำลังเสริมเข้ามาทดแทน 700 คน จากนั้นก็สูญเสียไปอีก 800 คนในเดือนกุมภาพันธ์ –เท่ากับมีอัตราการบาดเจ็บล้มตาย 60% ในช่วงเวลา 2 เดือน

ลู่ทางโอกาสที่จะสามารถเจาะทะลุทะลวง เพื่อทำลายภาวะชะงักงันจนเกิดการตรึงกันอยู่ตามแนวเส้นปะทะ (Line of Contact) ระหว่างกองกำลังของทั้งสองฝ่ายนั้นต่ำมากๆ ผู้เสนอรายงานต่อการชุมนุมหารือผู้นี้กล่าวต่อ การรุกใหญ่ช่วงฤดูใบไม้ผลิของฝ่ายยูเครนตามที่คาดหมายกัน เวลานี้กลายเป็นความเคลื่อนไหวทางกำลังพลที่ได้รับการคาดการณ์กันเอาไว้มากที่สุดในประวัติศาสตร์การทหารไปเสียแล้ว และรัสเซียย่อมมีเวลามากมายเหลือเฟือสำหรับตระเตรียมที่มั่นต่างๆ เพื่อการตั้งรับ ยูเครนจำเป็นจะต้องได้รถถังหลัก (main battle tank) สมัยใหม่ 650 คัน และยานลำเลียงพลติดอาวุธ 1,000 คัน จึงจะสามารถสร้างความแตกต่างขึ้นมาได้ นี่เป็นความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง

อดีตผู้บังคับบัญชาทหารระดับอาวุโสของสหรัฐฯ อีกคนหนึ่งเสนอทัศนะว่า สหรัฐฯ ควรจัดส่งรถถังอะบรามส์ เอ็ม1 (Abrams M1 รถถังหลักของกองทัพสหรัฐฯ) 1,000 คันไปให้ยูเครน ถึงแม้เขาไม่ได้อธิบายว่าจะเอารถถังเหล่านี้มาจากไหน เขากล่าวต่อไปว่า ยูเครนสมควรได้รับพวกอาวุธที่สามารถโจมตีเป้าหมายต่างๆ ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในรัสเซีย และสหรัฐฯ “สมควรกำจัดเส้นแบ่งปลอมๆ ที่สร้างขึ้นมาซึ่งบอกว่า ยูเครนไม่สามารถโจมตีเข้าไปในรัสเซียได้ รัสเซียนั้นเป็นส่วนหนึ่งของสมรภูมิอยู่แล้ว”

อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสผู้หนึ่งของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) คัดค้านว่า อเมริกันมีความจำกัดในทางการเมืองในเรื่องการให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครน ดังนั้น ถ้าหากเราไม่สามารถจัดหาความช่วยเหลือในจำนวนใหญ่ๆ ไปให้แก่ยูเครนในช่วงเวลา 2 ปีนับจากตอนนี้ ก็เป็นการดีกว่าที่เราจะตัดการสูญเสียของเราเสียตั้งแต่ตอนนี้

นักวิเคราะห์ด้านนโยบายการต่างประเทศรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ให้คำปรึกษาแก่เพนตากอน ชี้ว่าปูตินสามารถเรียกระดมกองหนุนได้มากถึง 1.7 ล้านคนถ้าหากเขาจำเป็นต้องทำเช่นนั้น “มันอาจจะเป็นเรื่องสนุกสนานที่จะจมเรือรัสเซียในทะเลดำ หรือทำลายเป้าหมายต่างๆ ภายในรัสเซีย” เขากล่าว “แต่มันไม่ได้บรรเทาความบีบคั้นที่มีต่อยูเครน มันก็เหมือนกับสงครามกลางเมืองของอเมริกันนั่นแหละ ฝ่ายใต้สู้รบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ฝ่ายเหนือมีความได้เปรียบอย่างล้นเหลือในเรื่องกำลังคนและเครื่องกระสุน เมื่อถึงปี 1865 ฝ่ายใต้ก็ไม่มีทหารเพียงพอที่จะป้องกันริชมอนด์ (เมืองหลวงของฝ่ายใต้) เสียแล้ว” เขาเสนอให้จัดตั้งกองทหารอาสาสมัครนานาชาติขึ้นมาสู้รบเพื่อยูเครน

มีอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านนโยบายการต่างประเทศผู้หนึ่งเสนอให้สหรัฐฯ ข่มขู่จีนด้วยการแซงก์ชัน เพื่อจำกัดการสนับสนุนที่จีนให้แก่รัสเซีย ถึงแม้การแซงก์ชันต่างๆ ที่กระทำต่อรัสเซียไม่ได้ผลก็ตามที แต่เขาโต้แย้งว่ากรณีของจีนนั้นแตกต่างออกไป เพราะจีนมีการบูรณาการเข้าไปอยู่ในระบบเศรษฐกิจโลกมากกว่ารัสเซีย

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย พบปะหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ที่วังเครมลิน ในกรุงมอสโก เมื่อวันจันทร์ (20 มี.ค. 2023) โดยคาดกันว่าหนึ่งในเรื่องสำคัญที่พูดจากันคือเรื่องยูเครน
เขากล่าวต่อไปว่า ในจีนนั้นมีอารมณ์ความรู้สึกต่อต้านรัสเซียอยู่มาก และประชาชนชาวจีนก็ไม่ได้ชื่นชอบความคิดที่จะให้ยอมรับว่าต้องทนอยู่ในความยากลำบากเพื่อช่วยเหลือรัสเซีย เขากล่าวอีกว่า ยูเครนกับจีนนั้น “มีความเป็นหุ้นส่วนกันที่เข้มแข็งย้อนหลังกลับไปได้หลายทศวรรษ”

ตัวผมนั้นมีอิสรภาพที่จะรายงานสิ่งที่ผมบอกกับกลุ่มที่มาชุมนุมหารือกันคราวนี้ ผมบอกว่าสงครามยูเครนกำลังทำให้เกิดความเคลื่อนไหวในการจับกลุ่มรวมตัวกันใหม่ในขอบเขตทั่วโลก โดยนี่ก็รวมทั้งการเกิดข้อตกลงจีน-อิหร่าน-ซาอุดีอาระเบียขึ้นมาด้วย เมื่อมองดูความผิดพลาดอย่างขาดการไตร่ตรองของอเมริกาในยูเครนแล้ว ฝ่ายซาอุดีก็มีข้อสรุปว่าอเมริกาจะไม่เอากำลังทหารภาคพื้นดินเข้ามาในตะวันออกกลางหรอก และจึงกำลังมองหาเพื่อนมิตรรายอื่นๆ

ตุรกีกำลังเฟื่องฟูอู้ฟู่ขึ้นมาจากการมีฐานะเป็นตัวกลางทางการค้าระหว่างจีนกับรัสเซีย และได้ซ่อมแซมรักษาความสัมพันธ์ที่เคยย่ำแย่กับพวกรัฐริมอ่าวเปอร์เซียรวมทั้งอิสราเอลด้วย อินเดียนั้นถูกทึกทักเอาไว้คือพันธมิตรรายหนึ่งในการต่อต้านคัดค้านจีน แต่อินเดียกลับกลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดทางด้านด้านน้ำของรัสเซีย รวมทั้งมีการขยายการค้าอย่างกว้างขวางมากกับจีน จนเวลานี้จีนคือผู้ที่จัดหาจัดส่งสินค้านำเข้าซึ่งไม่ใช่น้ำมันของอินเดียถึง 30% ทีเดียว

สหรัฐฯ กำลังสูญเสียอิทธิพลไปอย่างชนิดเป็นความหายนะจากการประเมินรัสเซียต่ำกว่าความเป็นจริง สหรัฐฯ ไม่ได้มีศักยภาพทางอุตสาหกรรมที่จะจัดหาเครื่องกระสุนสำหรับปืนใหญ่อาวุธยิงไกลไปให้แก่ยูเครนได้ นโยบายที่ดีที่สุดจึงเป็นการหยุดยิงในทันที ผมเสนอเหตุผลโต้แย้งเอาไว้เช่นนี้

นี่จะเป็นการสร้างความอับอายขายหน้าให้แก่สหรัฐฯ แต่ก็เป็นความอับอายขายหน้าซึ่งมีประโยชน์ ในช่วงทศวรรษ 1970 เวียดนามสร้างคุณงามความดีอย่างหนึ่งให้สหรัฐฯ ด้วยการยังความอับอายขายหน้าให้สหรัฐฯ ก่อนหน้าที่รัสเซียจะกระทำ การพังครืนในเวียดนาม ทำให้เกิดความเป็นไปได้ที่จะมีการขบคิดกันใหม่อย่างสมบูรณ์แบบเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ด้านกลาโหมของสหรัฐฯ และทำให้อเมริกาประสบชัยชนะในสงครามเย็นในท้ายที่สุด ด้วยเหตุนี้ ปูติน ก็อาจจะกำลังสร้างคุณงามความดีอย่างหนึ่งให้สหรัฐฯ ด้วยการยังความอับอายขายหน้าให้สหรัฐฯ ในตอนนี้

สเปงเกลอร์ เป็นนามปากกาของคอลัมนิสต์ผู้โด่งดังของเอเชียไทมส์มายาวนาน ในปัจจุบันมีการเปิดเผยแล้วว่า ตัวจริงของ สเปงเกลอร์ คือ เดวิด พี.โกลด์แมน (David P. Goldman) ที่เวลานี้ทั้งเป็นผู้ถือหุ้น และทั้งมีข้อเขียนเผยแพร่ในเอเชียไทมส์เป็นประจำ โดยใช้ชื่อจริงบ้าง นามแฝงนี้บ้าง


กำลังโหลดความคิดเห็น