เครื่องบินขับไล่ของรัสเซียลำหนึ่งทิ้งเชื้อพลิงใส่โดรนของอเมริกา เหนือทะเลดำ เมื่อวันอังคาร (14 มี.ค.) จากนั้นก็เฉี่ยวชนจนโดรนร่วงลงสู่ผืนน้ำ จากการเปิดเผยของกองทัพสหรัฐฯ และประณามว่าเป็นการกระทำที่ขาดความยั้งคิด พร้อมกับเรียกทูตมอสโกประจำวอชิงตันเข้าพบเพื่อทำการประท้วง
กองบัญชาการยุโรปของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าเครื่องบินขับไล่ซู-27 ของรัสเซีย 2 ลำ เข้าสกัดอากาศยานไร้คนขับเอ็มคิว-9 รีปเปอร์ เหนือน่านน้ำสากล และทำให้ใบพัดของโดรนฉีกขาด "หลายครั้งก่อนการเฉี่ยวชน ซู-27 ทิ้งเชื้อเพลิงและบินอยู่ด้านหน้าของเอ็มคิว-9 รีปเปอร์ โดยขาดความยั้งคิด ในกรณีแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยและในลักษณะที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ"
มอสโกปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นต้นตอที่ทำให้โดรนตก ในขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ บอกว่าโดรนลำนี้กำลังประกอบภารกิจ ISR (ข่าวกรอง สอดแนม ลาดตระเวน) ตามปกติ
"ผลจากการหักเหอย่างรุนแรง อากาศยานไร้คนขับเอ็มคิว-9 เข้าสู่การบินที่ไม่สามารถควบคุมได้ สูญเสียระดับความสูงและตกกระทบกับพื้นผิวน้ำ" กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าว พร้อมระบุว่า เครื่องบินขับไล่ทั้ง 2 ลำของรัสเซีย ไม่ได้สัมผัสอากาศยานของสหรัฐฯ และไม่มีการใช้อาวุธใดๆ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกเอกอัครราชทูตรัสเซียเข้าพบเพื่อทำการประท้วง "เรากำลังประสานงานโดยตรงกับฝ่ายรัสเซียอีกครั้งในระดับสูง เพื่อถ่ายทอดเสียงคัดค้านอันแข็งกร้าวของเรา ต่อการบินสกัดที่ไม่ปลอดภัยและไม่เป็นมืออาชีพครั้งนี้ ซึ่งเป็นต้นเหตุให้อากาศยานไร้คนขับของสหรัฐฯ ตก" เนด ไพรซ์ โฆษกบอกกับผู้สื่อข่าว
ด้าน จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า การบินสกัดขอรัสเซียเหนือทะเลดำเป็นเรื่องปกติ แต่ครั้งนี้มันตอกย้ำถึงการบินสกัดที่ไม่ปลอดภัยและไร้ความเป็นมืออาชีพของพวกเขา และการขาดความยั้งคิดของพวกเขาอย่างแท้จริง"
บรรดาผู้แทนด้านการทูตของนาโต้ในบรัสเซลส์ ยืนยันเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง แต่ไม่คาดหมายว่ามันจะโหมกระพือสู่การเผชิญหน้ามากยิ่งขึ้นในทันที โดยแหล่งข่าวทหารตะวันตกรายหนึ่งเปิดเผยกับเอเอฟพี โดยไม่ประสงค์เอ่ยนาม เชื่อว่าช่องทางด้านการทูตระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ จะช่วยจำกัดผลกระทบของเหตุการณ์นี้
การเปิดฉากรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน นำมาซึ่งความตึงเครียดขั้นสูงสุดแห่งการเผชิญหน้าระหว่างมอสโกกับพันธมิตรนาโต้ ซึ่งจัดหาอาวุธมอบแก่เคียฟ สำหรับช่วยในการป้องกันตนเอง
สหรัฐฯ ใช้โดรนเอ็มคิว-9 รีปเปอร์ ทั้งในด้านลาดตระเวนและปฏิบัติการโจมตี และมันถูกส่งเข้าดำเนินภารกิจเหนือทะเลดำมาช้านาน เพื่อจับตาความเคลื่อนไหวของกองทัพเรือรัสเซีย "อากาศยานเอ็มคิว-9 ของเราปฏิบัติการเป็นประจำในน่านฟ้าสากล ตอนที่มันถูกสกัดและเฉี่ยวชนโดยอากาศยานรัสเซียลำหนึ่ง ผลก็คือตกลงทะเลและสูญเสียเอ็มคิว-9 โดยสิ้นเชิง" พล.อ.อ.เจมส์ เฮคเคอร์ ผู้บัญชาการภาคพื้นยุโรปแห่งกองทัพอากาศสหรัฐฯ กล่าว
"ข้อเท็จจริงคือ พฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยและไร้ความเป็นมืออาชีพของรัสเซีย เกือบทำให้อากาศยานทั้ง 2 ลำตก "อากาศยานของสหรัฐฯ และพันธมิตรจะเดินหน้าปฏิบัติการในน่านฟ้าสากล และเราเรียกร้องให้รัสเซียปฏิบัติตัวอย่างเป็นมืออาชีพและในแนวทางที่ปลอดภัย" เขากล่าว
นายพลจัตวาแพท ไรเดอร์ โฆษกของเพนตากอน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า "โดรนไม่สามารถบินต่อและไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้น เราจึงปล่อยให้มันตกลง" พร้อมระบุการเฉี่ยวชนดูเหมือนจะก่อความเสียหายแก่เครื่องบินของรัสเซียเช่นกัน แต่มันสามารถลงจอดได้หลังจากเกิดเหตุ
(ที่มา : เอเอฟพี)