สหรัฐฯ ใส่ชื่อบริษัทจีน 5 แห่งเข้าไปในบัญชีดำคว่ำบาตรในวันพฤหัสบดี (9 มี.ค.) โดยกล่าวหาบริษัทต่างๆ เหล่านั้นจัดหาชิ้นส่วนป้อนแก่บรรดาผู้ผลิตโดรนของอิหร่าน
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เชื่อมโยงบรรดาบริษัทจีนเหล่านี้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทางอ้อมกับปฏิบัติการโจมตีของรัสเซียในยูเครน และเหตุอิหร่านโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย โดยทั้ง 2 กรณีเป็นการใช้อากาศยานไร้คนขับชาเฮด-136 ที่ผลิตโดยบริษัท อิหร่าน แอร์คราฟต์ แมนูแฟคเจอริง โค (HESA)
บรรดาบริษัทที่ถูกคว่ำบาตร รวมไปถึงบริษัทสัญชาติจีนที่อยู่ในหางโจว เซินเจิ้น กุ้ยหลินและฮ่องกง ซึ่งทางกระทรวงการคลังสหรัฐฯ บอกว่าส่งออกเครื่องยนต์และส่วนประกอบอื่นๆ ของโดรนให้แก่ HESA ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงกลาโหมอิหร่าน
ถ้อยแถลงของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า "บริษัทเหล่านี้อยู่เบื้องหลังการขายและส่งออกชิ้นส่วนการบินและอวกาศหลายพันหลายการ ในนั้นรวมถึงชิ้นส่วนที่สามารถใช้สำหรับอากาศยานไร้คนขับ"
"อิหร่านเกี่ยวข้องโดยตรงในการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนยูเครน อันเป็นผลจากการที่รัสเซียใช้อากาศยานไร้คนขับของอิหร่านในยูเครน" ไบรอัน เนลสัน ปลัดกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุ
ในความเคลื่อนไหวคว่ำบาตรแยกกัน ทางกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังได้ใส่ชื่อบริษัทและนิติบุคคล 39 แห่งในอิหร่าน ฮ่องกง จีน ดูไบ และที่อื่นๆ เข้าในบัญชีดำ โทษฐานช่วยอิหร่านขายปิโตรเคมีระหว่างประเทศ ซึ่งละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานเตหะราน
มาตรการคว่ำบาตรต่างๆ ของสหรัฐฯ มีเป้าหมายขัดขวางบรรดาบริษัทที่อยู่ในบัญชีดำ เข้าถึงตลาดสากลและบริการทางการเงิน ด้วยการอายึดทรัพย์สินของพวกเขาที่อยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจศาลของอเมริกา และห้ามนิติบุคคลของสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงธนาคารระหว่างประเทศที่มีสาขาในอเมริกาทำธุรกรรมกับบริษัทเหล่านี้
(ที่มา : เอเอฟพี)