ทำเนียบขาวกำลังจับตาอย่างระมัดระวังต่อสถานการณ์ ณ ธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก และธนาคารขนาดเล็กกว่าอื่นๆ หลังจากเคลื่อนไหวปกป้องผู้ฝากเงิน ตามหลังการล้มครืนของซิลลิคอน แวลลีย์ แบงก์ (เอสวีบี) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งในวันอังคาร (14 มี.ค.)
เมื่อถามว่ายังคงมีอันตรายจากภาวะแห่ถอนเงินตามธนาคารท้องถิ่นอื่นๆ หรือไม่ เจ้าหน้าที่บอกว่าระบบธนาคารของสหรัฐฯ ในตอนนี้ "อยู่ในสถานะที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก" เมื่อเทียบกับหากไม่มีการดำเนินการใดๆ และพวกผู้ฝากเงินควรมั่นใจได้ว่าเงินฝากของพวกเขานั้นจะได้รับการปกป้อง
"เรากำลังอุทิศเวลาส่วนใหญ่สร้างความมั่นใจว่าเราจะผ่านพ้นมันไปด้วยดี" เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าว พร้อมระบุว่า ทำเนียบขาวได้ติดต่ออย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการคลัง และสถาบันรับประกันเงินฝากสหรัฐฯ (เอฟดีไอซี) เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหากับธนาคารอื่นๆ ที่มีขนาดพอๆ กับเอสวีบี
การปิดตัวลงของเอสวีบีเมื่อวันศุกร์ (10 มี.ค.) ตามมาด้วยการพังครืนของธนาคารซิกเนเจอร์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์ก ในอีก 2 วันต่อมา ก่อความหวาดวิตกแก่ตลาดหุ้นทั่วโลก และบีบให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน รุดออกมารับประกันว่าระบบการเงินของสหรัฐฯ มีความปลอดภัย และกระตุ้นให้อเมริกาคลอดมาตรการฉุกเฉินต่างๆ เปิดทางให้สถาบันการเงินทั้งหลายเข้าถึงเงินทุนเพิ่มเติม
"แน่นอนเรากำลังจับตาสิ่งที่เกิดขึ้นกับเฟิร์สท์ รีพับลิก พวกเขาเป็นหนึ่งในหลายธนาคารที่อยู่ภายใต้ความตึงเครียดมากกว่าเดิมเล็กน้อย แต่เรายังไม่มีคำแถลงในตอนนี้เกี่ยวกับมาตรการใดๆ ที่เราจะใช้" เจ้าหน้าที่รายนี้เผย
เจ้าหน้าที่เผยด้วยว่า นอกจากนี้ทำเนียบขาว ยังกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดเพื่อดูแลว่ามีกระแสเงินไหลออกจากธนาคารรายใหญ่กว่าหรือไม่ และยังมุ่งมั่นรับประกันการแข่งขันที่เข้มข้นในภาคธนาคาร
มีรายงานว่า บรรดาลูกค้าสหรัฐฯ ได้รุดเคลื่อนย้ายเงินฝากไปธนาคารรายใหญ่ทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แบงก์ออฟอเมริกา และซิตี กรุ๊ป ตามหลังการพังครืนของเอสวีบี รอยเตอร์รายงานในวันอังคาร (14 มี.ค.) อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับประเด็นนี้
การโอนย้ายดังกล่าว ซึ่งแหล่งข่าวรายนี้ระบุว่ามีจำนวนแตะระดับหลายพันล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของบรรดาธนาคารท้องถิ่นที่มีขนาดเล็กกว่า แม้ว่า ไบเดน พยายามสร้างความเชื่อมั่นและให้คำรับประกันเมื่อวันจันทร์ (13 มี.ค.) ก็ตาม
"ประธานาธิบดีมีวาระการแข่งขันที่เข้มข้น เราต้องการเห็นความรุ่งเรืองของภาคธนาคาร โดยธนาคารขนาดเล็กจำนวนมาก ธนาคารชุมชนจำนวนมาก สามารถยืนหยัดและแข่งขันกับธนาคารขนาดใหญ่" เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุ "มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใช้โมเดลธุรกิจที่สามารถอยู่รอดได้"
เจ้าหน้าที่รายนี้ชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่ผู้คนที่เคลื่อนย้ายเงินไปสถาบันการเงินที่มีขนาดใหญ่กว่า จะโยกย้ายเงินกลับสู่ธนาคารขนาดเล็ก ครั้งที่พวกเขาเข้าใจความเป็นจริงว่า ระบบยังคงทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวบอกว่าเป็นเรื่องดีที่เห็นตลาดค่อนข้างสงบ แต่ยืนยันว่ามาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลใช้นั้นมีเป้าหมายเพื่อปกป้องผู้ฝากเงิน ลูกค้า และธุรกิจขนาดเล็ก ไม่ใช่นักลงทุน
(ที่มา : รอยเตอร์)