จอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ออกมาตอบโต้เมื่อวันจันทร์ (13 ก.พ.) ว่าไม่มีอากาศยานสอดแนมสหรัฐฯ ในน่านฟ้าของจีน พร้อมเผยยังไม่สามารถระบุตัวตนของวัตถุบินปริศนาที่พบเห็นหลายครั้งในอเมริกา แต่ยืนยันมันไม่ใช่ยานบินของมนุษย์ต่างดาว
รัฐบาลสหรัฐฯ รุดออกมาปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ต่อคำกล่าวหาของจีน ที่อ้างว่าบอลลูนบินระดับสูงของอเมริกา ลอยอยู่เหนือน่านฟ้าของพวกเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตมากกว่า 10 ครั้ง นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022
จีนกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำพิพาทในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ พื้นที่ที่กองทัพสหรัฐฯ ปฏิบัติการอยู่เป็นประจำ พร้อมตอกย้ำว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งในดินแดนของพวกเขา
"ไม่มีอากาศยานสอดแนมของสหรัฐฯ ในน่านฟ้าของจีน" เคอร์บี เน้นย้ำระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว หลังถูกถามว่าสหรัฐฯ ปฏิบัติการอากาศยานในน่านฟ้าที่จีนกล่าวอ้างใช่หรือไม่
ส่วน เวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงแยกกัน ระบุเช่นกันว่าไม่มีบอลลูนของรัฐบาลสหรัฐฯ เหนือน่านฟ้าจีน "ไม่มี ไม่มีเลย" เธอกล่าวในวอชิงตัน ระหว่างแถลงข่าวร่วมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
จีนกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่อันกว้างขวางของทะเลจีนใต้ ดินแดนที่ประเทศอื่นๆ ในนั้นรวมถึงบรูไน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม ก็อ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่บางส่วนเช่นกัน
สหรัฐฯ สนับสนุนคำพิพากษาหนึ่งในปี 2016 ภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ที่บอกว่าคำกล่าวอ้างทั้งหมดของจีนในด้านสิทธิทางทะเลในทะเลจีนใต้ ไม่มีความชอบธรรม และช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กองทัพสหรัฐฯ ปฏิบัติการในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "เสรีภาพในการล่องเรือ" ในน่านน้ำพิพาท ใกล้เกาะปะการังต่างๆ ที่ปักกิ่งสร้างฐานทัพทหารที่นั่น
ปฏิบัติการต่างๆ เหล่านี้ก่อความโกรธเคืองแก่จีน ซึ่งกล่าวหาวอชิงตันทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค และโหมกระพือข้อพิาททางทะเล
คำกล่าวหาของจีนเกี่ยวกับบอลลูน ทำให้ประเด็นพิพาทระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตันดุเดือดยิ่งขึ้นอีก โดยในเรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นหลังจากกองทัพสหรัฐฯ ยิงวัตถุบินหนึ่งตกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ และบอกว่ามันคือบอลลูนสอดแนมของจีน เหตุการณ์นี้กระตุ้นให้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกายกเลิกการเดินทางเยือนปักกิ่ง ทั้งที่มันถูกออกแบบมาเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดระหว่าง 2 ชาติ
นับตั้งแต่นั้น กองทัพสหรัฐฯ ได้สอยร่วงวัตถุบินปริศนาอื่นๆ อีก 3 ลำ เหนืออเมริกาเหนือ โดยล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (12 ก.พ.) เป็นการยิงตกวัตถุบินรูปทรงแปดเหลี่ยมเหนือทะเลสาบฮูรอน จากการเปิดเผยของเพนตากอน
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ระบุในวันจันทร์ (13 ก.พ.) ยังคงไม่ทราบแหล่งที่มาและวัตถุประสงค์ของวัตถุบินปริศนา 3 ลำหลังสุดที่กองทัพของพวกเขาสอยร่วงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยืนยันว่ามันไม่ใช่ยานบินของมนุษย์ต่างดาว ตามความเชื่อของผู้คนบางส่วนแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่อเมริกาและแคนาดา ไม่สามารถอธิบายที่มาของวัตถุบินปริศนา 3 ลำที่เครื่องบินรบสหรัฐฯ ยิงตกเหนือน่านฟ้าของอเมริกาเหนือ หลังจากเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พวกเขาได้สอยร่วงวัตถุบินที่ต้องสงสัยว่าเป็นบอลลูนของจีน นอกชายฝั่งเซาท์แคโรไลนา หลังพบเห็นมันลอยข้ามสหรัฐฯ
ในเหตุการณ์วันที่ 4 กุมภาพันธ์ วอชิงตันเชื่ออย่างหนักแน่นว่ามันเป็นบอลลูนเพื่อการสอดแนมของจีน แต่ปักกิ่งชี้แจงว่ามันเป็นเพียงยานตรวจสอบสภาพอากาศของเขาที่พลัดหลุดออกนอกเส้นทาง
กระนั้นก็ตาม ในช่วงวัตถุบิน 3 ลำที่พบเห็นหลังสุด กองทัพสหรัฐฯ ไม่สามารถระบุตัวตนของมันได้ รวมถึงวิธีที่มันลอยอยู่กลางอากาศหรือว่าพวกมันลอยมาจากไหน "เรายังไม่สามารถประเมินอย่างแน่ชัดว่าวัตถุที่พบหลังสุด นั้นคืออะไร" เคอร์บี กล่าว
วัตถุเหล่านั้นซึ่งบินที่ระดับความสูงระหว่าง 20,000 ฟุต ถึง 40,000 ฟุต ถูกมองว่าก่อความเสี่ยงด้านการสัญจรทางอากาศ แม้มันไม่ได้เป็นภัยคุกคามกับประชาชนที่อยู่ภาคพื้น เคอร์บีกล่าว พร้อมบอกว่าที่วัตถุเหล่านั้นถูกสอยร่วงเพราะเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ไม่อาจตัดความเป็นไปได้ว่ามันอาจเป็นยานสอดแนม
ขณะเดียวกัน คารีน ฌอง-ปิแอร์ เลขาธิการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว ออกมายืนยันในวันจันทร์ (13 ก.พ.) ว่าไม่พบสัญญาณความเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตนอกโลก ในความเกี่ยวข้องกับวัตถุบินที่สามารถระบุเอกลักษณ์ที่เครื่องบินรบสหรัฐฯ ยิงตกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
"กับสิ่งที่ถูกสอยร่วงเมื่อเร็วๆ นี้ ไม่มีข้อบ่งชี้เกี่ยวกับเอเลี่ยน ฉันอยากทำให้แน่ใจว่าประชาชนชาวอเมริกาได้รู้ในเรื่องนี้" คารีน ระบุ หนึ่งวันหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ รายหนึ่ง ปฏิเสธตัดความเป็นไปได้ในข้อสันนิษฐานดังกล่าว
เพนตากอนให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐฯ ยิงตกวัตถุรูปทรงแปดเหลี่ยมเหนือทะเลสาบฮูรอน ในวันอาทิตย์ (12 ก.พ.) หลังจากก่อนหน้านั้นในวันศุกร์ (10 ก.พ.) สอยร่วงวัตถุหนึ่งเหนือน้ำแข็งทะเลใกล้เมืองเดดฮอร์ส ของรัฐอะแลสกา ส่วนวัตถุบินอีกลำ มีลักษณะเป็นทรงกระบอก ถูกทำลายเหนือเมืองยูคอนของแคนาดาในวันเสาร์ (11 ก.พ.)
เคอร์บี เปิดเผยว่าปฏิบัติการค้นหายังคงไม่พบเศษซากของวัตถุเหล่านั้น และหากพบ "มันน่าจะบอกอะไรกับเราได้มากมาย" ส่วนจีนชี้แจงว่าพวกเขาไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับวัตถุบินปริศนาทั้ง 3 ลำ
(ที่มา : รอยเตอร์)