พบอีกแล้ววัตถุปริศนาโผล่อเมริกาเหนือ สหรัฐฯ-แคนาดาส่งเครื่องบินรบสอยร่วง

เอเจนซีส์ - อเมริกาส่งเครื่องบินขับไล่ยิงวัตถุปริศนาเหนือน่านฟ้าแคนาดาเมื่อวันเสาร์ (11 ก.พ.) ซึ่งนับเป็นอีกครั้งที่พบวัตถุต้องสงสัยในอเมริกาเหนือ หลังจากที่เพนตากอนยิงบอลลูนสอดแนมต้องสงสัยของจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดว์ ของแคนาดาทวิตเมื่อวันเสาร์ว่า กองทัพแคนาดาและอเมริกาได้ทำปฏิบัติการร่วมกันโดยส่งเครื่องบินขับไล่เอฟ-22 ของอเมริกาขึ้นไปยิงวัตถุปริศนา และกองทัพแคนาดาในยูคอนจะกู้ซากวัตถุดังกล่าวเพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อไป

ทรูโดว์เสริมว่า ได้หารือเรื่องนี้กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ขณะที่ทำเนียบขาวแถลงว่า ทั้งสองผู้นำเห็นพ้องในการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดต่อไปเพื่อปกป้องน่านฟ้าของสองประเทศ

ด้านกองบัญชาการภาคเหนือของสหรัฐฯ แถลงว่า หลังจากยิงวัตถุต้องสงสัยเมื่อเวลา 15.41 น. ได้ไม่นาน หน่วยงานการบินได้ปิดน่านฟ้าบางส่วนในรัฐมอนทานาทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ หลังจากตรวจพบ “ความผิดปกติของสัญญาณเรดาร์”

อย่างไรก็ตาม เมื่อส่งเครื่องบินรบขึ้นไปสำรวจกลับไม่พบวัตถุใดที่เชื่อมโยงกับสัญญาณเรดาร์ดังกล่าว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงยกเลิกคำสั่งปิดน่านฟ้า

ขณะเดียวกัน แอนิตา อานันด์ รัฐมนตรีกลาโหมแคนาดา เปิดเผยว่า วัตถุที่ถูกยิงตกในยูคอนเมื่อวันเสาร์เป็นวัตถุทรงกระบอกขนาดเล็กกว่าบอลลูนจีนที่ถูกยิงตกก่อนหน้านี้ เคลื่อนที่อยู่ที่ระดับความสูง 12,200 เมตร และถือเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของการบินพลเรือน และได้หารือเรื่องนี้กับลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ แล้ว

การรุกล้ำน่านฟ้าในอะแลสกาและยูคอนเกิดขึ้นหลังจากอเมริการะบุเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (8 ก.พ.) ว่าบอลลูนสอดแนมต้องสงสัยของจีนแบบเดียวกับที่เพนตากอนส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นไปยิงตกเมื่อวันที่ 4 เป็นส่วนหนึ่งของฝูงอากาศยานที่พบใน 5 ทวีป ขณะที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) แสดงความกังวลในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม อานันด์เสริมว่า ยังไม่สามารถคาดเดาว่าวัตถุปริศนาล่าสุดมาจากที่ใด

แพต ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า ไบเดนสั่งการให้กองบัญชาการป้องกันอวกาศแห่งอเมริกาเหนือ (นอราด) ร่วมกับแคนาดายิงวัตถุปริศนาดังกล่าวเหนือแคนาดา โดยใช้เครื่องบินขับไล่เอฟ-22 และขีปนาวุธเอไอเอ็ม 9เอ็กซ์

เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นเหนือยูคอนซึ่งอยู่ติดกับอะแลสกาของอเมริกา เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ (10 ก.พ.) เครื่องบินขับไล่อเมริกาเพิ่งยิงวัตถุปริศนาตกนอกชายฝั่งทางเหนือใกล้หมู่บ้านเดดฮอร์ส

กองบัญชาการภาคเหนือของอเมริกาเสริมว่า ปฏิบัติการค้นหาและเก็บกู้ซากวัตถุดังกล่าวยังดำเนินต่อไปในวันเสาร์ แต่มีอุปสรรคจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด หิมะตก และแสงแดดที่มีเพียงจำกัด

ทั้งนี้ บอลลูนขนาดใหญ่ที่ภายในมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเพนตากอนระบุว่า เป็นบอลลูนสอดแนม ลอยเหนือแคนาดาและอเมริกาเมื่อเดือนที่แล้ว และทำให้เกิดความขัดแย้งทางการทูตกับจีนที่ยอมรับว่าเป็นบอลลูนของตนแต่มีจุดประสงค์ในการตรวจสอบสภาพอากาศและลอยออกนอกเส้นทาง จนทำให้แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ตัดสินใจยกเลิกการเยือนปักกิ่ง ก่อนที่บอลลูนดังกล่าวจะถูกยิงตกเหนือมหาสมุทรแอตแลนติกนอกชายฝังเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันที่ 4 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ก่อนถูกยิงตก บอลลูนลูกนั้นเคลื่อนผ่านที่ตั้งทางทหารของอเมริกาหลายแห่ง รวมถึงคลังเก็บขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์

ขณะนี้ทีมเก็บกู้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งประกอบด้วยทั้งนักประดาน้ำและเรือดำน้ำขนาดเล็กไร้คนขับ ยังคงสำรวจเพื่อค้นหาเศษซากบอลลูนดังกล่าวที่ตามภาพถ่ายนั้นพบว่า ภายในบอลลูนมีอุปกรณ์สอดแนมที่สามารถดักฟังอุปกรณ์โทรคมนาคม และแผงพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อจ่ายพลังงานแก่เซ็นเซอร์จำนวนมาก