สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-22 ยิงสอย “วัตถุบินได้ไม่ทราบชนิด” เหนือท้องฟ้ารัฐอะแลสกาเมื่อวันศุกร์ (10 ก.พ.) เพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์หลังจากที่กองทัพสหรัฐฯ ได้ยิงทำลาย “บอลลูนสอดแนม” ของจีนซึ่งลอยผ่านหลายเมืองในอเมริกา
แพทริก ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า เครื่องบินขับไล่ได้ยิงขีปนาวุธไซด์วินเดอร์ (Sidewinder) เข้าทำลายวัตถุบินดังกล่าวซึ่งมีขนาดพอๆ กับรถยนต์เล็ก 1 คัน
ด้าน จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกทำเนียบขาว ระบุว่า “เรายังไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของมัน” และไม่รู้ว่าเส้นทางของวัตถุดังกล่าวเริ่มต้นมาจากที่ใด
ทั้งนี้ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้มีคำสั่งตรงมาจากทำเนียบขาวให้กองทัพยิงทำลายวัตถุดังกล่าว
ทั้งเพนตากอน และทำเนียบขาวยังปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับวัตถุบินล่าสุดที่พบ โดยระบุแค่ว่า “มีขนาดเล็กกว่าบอลลูนสอดแนมจีนหลายเท่า”
อย่างไรก็ดี การที่เจ้าหน้าที่อเมริกันยังไม่ออกมาตั้งข้อสังเกตใดๆ หลังผ่านไปแล้วถึง 1 วัน ก็ทำให้ผู้คนยิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีกว่า วัตถุอะไรกันแน่ที่ขนาดนักบินผู้มีประสบการณ์สูงของสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองก็ยังยากที่ระบุชนิดได้
เพนตากอนให้ข้อมูลว่า วัตถุดังกล่าวถูกเรดาร์ภาคพื้นดินตรวจพบเมื่อวันพฤหัสบดี (9) และกองทัพได้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-35 ออกไปตรวจสอบ กระทั่งพบว่ามันกำลังมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และลอยอยู่เหนือพื้นดินในระดับ 40,000 ฟุต (12,190) ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงต่อเครื่องบินพลเรือน
วัตถุบินนี้ถูกยิงตกที่นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐอะแลสกาใกล้พรมแดนแคนาดา เมื่อเวลา 13.45 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (EST) ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าทำให้ “ง่ายต่อการเก็บกู้ซาก” เนื่องจากทะเลแถบนั้นยังคงเป็นน้ำแข็งอยู่
โฆษกเพนตากอนระบุด้วยว่า นักบินอเมริกันซึ่งนำเครื่องบินเข้าไปตรวจสอบใกล้ๆ วัตถุดังกล่าวพบว่ามัน “ไม่มีมนุษย์ควบคุม” อีกทั้งยังไม่สามารถบังคับทิศทาง และรูปร่างก็ไม่เหมือนเครื่องบินด้วย แต่ก็ไม่ฟันธงว่ามันจะเป็นแค่บอลลูนสภาพอากาศ หรือบอลลูนประเภทอื่นๆ หรือไม่
ย้อนไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ. สหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบิน F-22 ขึ้นไปยิงระเบิดทำลายสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นบอลลูนสอดแนมของจีนเหนือชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา หลังจากที่ปล่อยให้มันบินข้ามเมืองต่างๆ ในสหรัฐฯ และบางส่วนของแคนาดามานานถึง 1 สัปดาห์เต็ม ขณะที่รัฐบาลจีนแม้จะยอมรับว่าบอลลูนดังกล่าวเป็นของจีนจริง แต่อ้างว่าเป็นแค่ “บอลลูนพลเรือน” ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อด้านการวิจัยสภาพอากาศเท่านั้น
สมาชิกสภาคองเกรสบางคนตำหนิ ไบเดน ที่ไม่สั่งยิงบอลลูนให้เร็วกว่านี้ ทว่ากองทัพสหรัฐฯ ชี้แจงว่าได้แนะนำประธานาธิบดีให้รอจนกว่าบอลลูนจะเดินทางออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติกเสียก่อน เพื่อป้องกันเศษซากที่อาจตกลงมาเป็นอันตรายต่อประชาชน
ที่มา : รอยเตอร์
