ถ้าสหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตกจัดหารถถังหนักให้ยูเครน มันมีแต่จะก่อผลลัพธ์ในแง่ลบแก่เคียฟ และจะไม่ก่อผลกระทบรุนแรงใดๆ กับปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารของรัสเซียในยูเครน จากคำกล่าวอ้างของ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินเมื่อวันศุกร์ (20 ม.ค.)
ความเห็นของ เปสคอฟ มีขึ้นในระหว่างที่บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านกลาโหมของวอชิงตัน และบรรดาพันธมิตรประชุมกันที่ฐานทัพแรมสไตน์ของสหรัฐฯ ในเยอรมนี เพื่อพูดคุยหารือเกี่ยวกับการมอบความช่วยเหลือด้านการทหารเพิ่มเติมแก่ยูเครน
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เคยเปิดเผยว่าหนึ่งในเป้าหมายลำดับต้นๆ ของการประชุมดังกล่าว คือ เพื่อโน้มน้าวเยอรมนีให้มอบรถถังลีโอพาร์ด 2 แก่เคียฟ หรืออย่างน้อยๆ ก็ยอมอนุญาตให้ประเทศอื่นๆ อย่างเช่นโปแลนด์ และฟินแลนด์ส่งมอบรถถังรุ่นนี้ของพวกเขาที่ผลิตโดยเยอรมนีให้แก่ยูเครน
อย่างไรก็ตาม ตามคำกล่าวของ บอริส พิสโตริอุส รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี พบว่าบรรดารัฐมนตรีกลาโหมทั้งหลายไม่สามารถตัดสินใจอย่างเป็นเอกฉันท์ในประเด็นดังกล่าว ในขณะที่ เบอร์ลิน แสดงความลังเลมานานเกี่ยวกับการอนุญาตให้ประเทศอื่นๆ ส่งออกรถถังลีโอพาร์ดไปยังเคียฟ
มีรายงานว่า เยอรมนีกำลังรอให้สหรัฐฯ ส่งรถถัง M1 เอบรามส์ ไปให้เคียฟเสียก่อน แต่กระนั้นทางเพนตากอน ปฏิเสธนับรวม M1 เอบรามส์ ในแพกเกจความช่วยเหลือล่าสุดที่มอบแก่ยูเครน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศมอบรถถังประจัญบานชาลเลนเจอร์ 2 จำนวน 14 คัน ไปให้เคียฟ
เปสคอฟ เน้นว่ายุทโธปกรณ์เหล่านั้นรังแต่จะก่อปัญหาเพิ่มเติมแก่ยูเครน และท้ายที่สุดแล้วจะล้มเหลวในการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในเรื่องเกี่ยวกับความคืบหน้าของรัสเซียในสนามรบ
โฆษกรายนี้บอกว่า "ไม่ควรพูดเกินจริงเกี่ยวกับความสำคัญของยุทโธปกรณ์เหล่านี้ ในแง่ศักยภาพเปลี่ยนแปลงบางอย่างของมัน นอกจากนี้ รถถังเหล่านี้ยังจำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาและซ่อมบำรุง ดังนั้นด้วยเหตุนี้มันรังแต่จะก่อปัญหาเพิ่มเติมแก่ทหารเคียฟ"
รัสเซียเน้นย้ำมาตลอดว่า อาวุธใดๆ ที่ส่งมอบแก่ยูเครน รังแต่จะทำให้ความขัดแย้งลากยาวออกไป และนำมาซึ่งการนองเลือดที่ไม่จำเป็น ทั้งนี้ สำหรับรถถังก็เช่นกัน เปสคอฟบอกว่าหากมันจบลงด้วยการถูกส่งมอบไปยูเครน "พวกมันจะถูกแผดเผาเหมือนกับอาวุธที่เหลือของตะวันตก"
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)