xs
xsm
sm
md
lg

ปักกิ่งเตรียมพร้อมรับโควิดระลอกใหม่ ผู้เชี่ยวชาญเตือนจำนวนผู้ป่วยหนักพุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - รถบรรทุกศพหลายสิบคันจอดเรียงกันหน้าฌาปนสถานในกรุงปักกิ่งในวันพุธ (21 ธ.ค.) แม้จีนไม่ได้รายงานว่า พบผู้เสียชีวิตจากโควิดเพิ่ม จุดชนวนการวิจารณ์เกี่ยวกับการรายงานของทางการ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญแนะปักกิ่งเตรียมพร้อมรับสถานการณ์การระบาดที่คาดว่าจะมีผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้นจำนวนมากในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ภายหลังการประท้วงอย่างกว้างขวาง เดือนนี้จีนเริ่มยกเลิกคำสั่งล็อกดาวน์และการตรวจโควิดภายใต้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ซึ่งสามารถควบคุมการระบาดได้เป็นส่วนใหญ่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา แต่ต้องแลกด้วยต้นทุนมหาศาลทั้งด้านเศรษฐกิจ และสุขภาพจิตของประชาชน

การเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกะทันหันทำให้ระบบสาธารณสุขที่เปราะบางของจีนขาดการเตรียมพร้อม โรงพยาบาลหลายแห่งขาดแคลนเตียงและเลือด ร้านขายยาไม่มียาขาย และเจ้าหน้าที่รีบเร่งสร้างคลินิกพิเศษ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า จีนอาจมีผู้เสียชีวิตจากโควิดกว่า 1 ล้านคนในปีหน้า

ที่ฌาปนสถานในเขตถงโจวของปักกิ่ง ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เห็นรถบรรทุกศพราว 40 คันจอดรอเนื่องจากที่จอดรถเต็มหมด และมีกำลังตำรวจคอยรักษาความสงบเรียบร้อยที่ด้านนอก อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ไม่สามารถตรวจยืนยันได้ว่าผู้เสียชีวิตเหล่านั้นมีสาเหตุมาจากโควิด

ทั้งนี้ จีนไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิดเมื่อวันอังคาร (20 ธ.ค.) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตลอด 3 ปีอยู่ที่เพียง 5,241 คน ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

เมื่อวันอังคาร คณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติแถลงว่า เฉพาะผู้เสียชีวิตจากภาวะปอดอักเสบจากการติดเชื้อและภาวะการหายใจล้มเหลวหลังติดโควิดเท่านั้นจึงจะถือเป็นการเสียชีวิตจากโควิด

เบนจามิน เมเซอร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สาขาพยาธิวิทยา ของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ แย้งว่า การจำแนกดังกล่าวอาจทำให้ผู้เสียชีวิตจำนวนมากถูกตัดออก โดยเฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนและมีแนวโน้มน้อยที่จะเสียชีวิตจากภาวะปอดอักเสบจากการติดเชื้อ

เมเซอร์ สำทับว่า การจำแนกดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากเป็นแนวคิดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ที่มีเพียงภาวะปอดอักเสบจากการติดโควิดเท่านั้นที่เป็นที่รับรู้ว่าทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต แต่หลังจากมีการพัฒนาวัคซีน มีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ มากมาย เช่น เส้นเลือดอุดตัน ปัญหาระบบหัวใจ และการติดเชื้อในกระแสเลือด ที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิดมากมายนับไม่ถ้วนทั่วโลก

ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์โกลบัล ไทมส์ของทางการจีน รายงานโดยอ้างอิงคำบอกเล่าของ หวัง กวงฟา ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบหายใจจากโรงพยาบาลเฟิร์สต์ ของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง คาดว่าปักกิ่งจะมีผู้ป่วยโควิดอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นจำนวนมากในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จึงต้องลงมืออย่างรวดเร็วและเตรียมคลินิกสแกนผู้ป่วยที่มีไข้ รวมทั้งทรัพยากรการรักษา

เมื่อวันอังคารจีนพบผู้ป่วยอาการรุนแรงเพิ่มขึ้น 53 คน เทียบกับ 23 คนในวันจันทร์ (19 ธ.ค.)

หวัง กวงฟา คาดว่า การระบาดระลอกปัจจุบันจะถึงจุดสูงสุดปลายเดือนมกราคมและสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคม

เอ็นเอชซียังพยายามคลายความกังวลที่อเมริกาและนักระบาดวิทยาบางคนหยิบยกขึ้นมาเรื่องการกลายพันธุ์ของไวรัส โดยบอกว่า มีความเป็นไปได้ต่ำ

พอล แทมบ์ยาห์ ประธานสมาคมจุลชีววิทยาคลินิกและโรคติดเชื้อแห่งเอเชีย-แปซิฟิก ขานรับว่า ไม่คิดว่าการระบาดของโควิดในจีนขณะนี้จะเป็นภัยคุกคามต่อทั่วโลก เนื่องจากไวรัสโคโรนาจะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเช่นเดียวกับไวรัสอื่นๆ เพื่อให้ระบาดง่ายขึ้นแต่มีความรุนแรงลดลง

นักวิจัยชั้นนำหลายคน รวมทั้งที่ปรึกษาขององค์การอนามัยโลก (ฮู) กล่าวว่า แนวโน้มการระบาดรุนแรงในจีนทำให้ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศสิ้นสุดภาวะฉุกเฉินด้านโรคระบาดทั่วโลกจากโควิด

เมื่อวันอังคาร อเมริกาประกาศว่า พร้อมให้ความช่วยเหลือจีนรับมือการระบาดของโควิด และเตือนว่าการระบาดที่ไม่สามารถควบคุมได้อาจกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

ในวันเดียวกันนั้น ธนาคารโลกปรับลดแนวโน้มการเติบโตของจีนประจำปีนี้และปีหน้า โดยระบุว่า หนึ่งในปัจจัยลบคือการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดอย่างกะทันหัน
กำลังโหลดความคิดเห็น