xs
xsm
sm
md
lg

จีนบอกไม่สามารถติดตามเชื้อโควิดได้เหมือนเดิมภายหลังผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม ขณะที่การแพร่ระบาดทำท่ารุนแรงขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้คนเข้าแถวกันยาวเหยียดที่ด้านนอกของคลินิกตรวจไข้แห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ (14 ธ.ค.) ภาพสะท้อนให้เห็นว่าโรคโควิดกำลังระบาดในเมืองหลวงของจีน  เวลาเดียวกับที่ประชาชนแดนมังกรเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับไวรัสตัวนี้ หลังจากทางการผ่อนคลายนโยบาย “โควิดต้องเป็นศูนย์” อย่างรวดเร็ว
จีนระบุในวันพุธ (14 ธ.ค.) สืบเนื่องจากการผ่อนปรนมาตรการคุมเข้ม เวลานี้จึงไม่สามารถติดตามระดับการระบาดที่แท้จริงของโรคโควิดได้ ด้าน WHO เตือนแดนมังกรจะต้องเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างมาก ขณะที่สื่อของทางการรายงานว่า พบผู้ป่วยอาการรุนแรงในปักกิ่ง

หลังจากวันพุธที่แล้ว (7) จีนประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกี่ยวกับกฎการตรวจโควิดและการกักตัว ภายหลังมีการประท้วงทั่วประเทศต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบหลายสิบปี

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อที่มีการรายงานอย่างเป็นทางการลดฮวบจากที่ทำสถิติสูงสุดเมื่อเดือนที่แล้ว

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นเอชซี) แถลงเมื่อวันพุธ (14) ว่า ตัวเลขดังกล่าวย่อมไม่ได้แสดงจำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริง เนื่องจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศยกเลิกกฎบังคับตรวจโควิดไปแล้ว ทำให้ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการไม่ต้องเข้ารับการตรวจสารพันธุกรรมอีกต่อไป ดังนั้น จากนี้ไป เอ็นเอชซีจะยกเลิกการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ไม่แสดงอาการเช่นเดียวกัน

คำแถลงนี้มีขึ้นหลังจากรองนายกรัฐมนตรีซุน ชุนหลาน ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในปักกิ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ผู้นำจีนตัดสินใจเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ในเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญการระบาดรอบใหม่ ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายที่ว่า จีนไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือดีพอ เนื่องจากประชากรกลุ่มผู้สูงวัยจำนวนมากยังฉีดวัคซีนไม่ครบ ขณะที่โรงพยาบาลขาดแคลนทรัพยากรลลลหากต้องรับมือผู้ป่วยโควิดจำนวนมาก และประชากรจีนยังไม่มีภูมิคุ้มกันหมู่

กระนั้น ในวันพุธทางการจีนประกาศว่า จะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กลุ่มเสี่ยง ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกครบ 6 เดือน

นอกจากนั้น เมื่อวันอังคาร (13) มาร์กาเร็ต แฮร์ริส โฆษกองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงว่า ประเทศที่มีมาตรการป้องกันโควิดเข้มงวดมากมักเผชิญปัญหาอย่างมากระหว่างดำเนินการผ่อนคลายมาตรการเหล่านั้น และเสริมว่า จีนจะเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างยิ่ง

ในคืนวันอังคารสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า พบผู้ป่วยโควิดที่มีอาการรุนแรงและอาการวิกฤต 50 คนในปักกิ่ง ซึ่งส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว

แม้ตัวเลขดังกล่าวถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร 1,400 ล้านคน แต่มากพอที่จะกระตุ้นให้หลายฝ่ายเกิดความความกังวลว่า นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดระลอกใหม่

ขณะเดียวกัน เหตุการณ์ที่มีคนต่อคิวยาวเหยียดหน้าคลินิกตรวจไข้ ซึ่งเป็นอาคารที่เชื่อมต่อกับโรงพยาบาลและเป็นพื้นที่คัดกรองโรคติดเชื้อนั้น เป็นภาพที่เห็นได้ทั่วไปในปักกิ่งและเมืองอื่นๆ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

ที่เซี่ยงไฮ้ เมืองที่มีประชากรมากที่สุดในจีน โรงเรียนอย่างน้อย 7 แห่งเปลี่ยนไปสอนออนไลน์เนื่องจากพบผู้ติดโควิด

ทั้งนี้ คาดว่าโควิดจะระบาดทั่วจีนในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ เนื่องจากประชาชนบางส่วนที่ก่อนหน้านี้ถูกจำกัดการเดินทางรีบพากันกลับบ้านเกิด

การเดินทางของประชาชนจะเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงวันหยุดตรุษจีนซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 22 มกราคม หลังจากมีการจำกัดการเดินทางทั่วประเทศตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน แม้ร้านอาหาร ร้านค้า และสวนสาธารณะได้รับอนุญาตให้เปิดอีกครั้ง แต่ดูเหมือนคนจีนจะยังไม่พบเส้นทางในการอยู่ร่วมกับไวรัสในทันที

ผู้ติดเชื้อจำนวนมากเลือกรักษาตัวอยู่บ้าน ขณะที่คนที่ปกติดีเลือกอยู่บ้านเช่นเดียวกันเพราะไม่ต้องการติดโควิด ส่งผลให้ท้องถนนในปักกิ่งเงียบเหงาเป็นส่วนใหญ่

ประชาชนในเมืองหลวงของจีนยังร้องเรียนว่า ยาแก้หวัดขาดตลาด และผู้คนมากมายไปยืนเข้าคิวหน้าร้านขายยายาวเหยียด ขณะที่ ไป่ตู้ เว็บไซต์ search engine ยอดนิยมเผยว่า การค้นหาคำว่า ไอบูโพรเฟน ซึ่งเป็นชื่อยาลดไข้ เพิ่มขึ้นถึง 430% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากนั้น ความต้องการชุดตรวจโควิดและยาที่พุ่งทะยานยังทำให้เกิดตลาดมืดและราคาขายพุ่งพรวด สื่อท้องถิ่นในปักกิ่งรายงานเมื่อวันอังคารว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้ากวาดล้างร้านค้าแห่งหนึ่งที่ฉวยโอกาสโก่งราคาขายชุดตรวจ และปรับเป็นเงิน 300,000 หยวน (43,000 ดอลลาร์)

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น