รอยเตอร์ - จีนเร่งเพิ่มเตียงผู้ป่วยและสร้างคลินิกสแกนไข้ ขณะที่ทางการรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโควิดเพิ่มอีก 5 คนในวันอังคาร (20 ธ.ค.) ท่ามกลางความกังวลของสหรัฐฯ ว่าการตัดสินใจผ่อนปรนนโยบายโควิดเป็นศูนย์แบบปุบปับในจีนอาจทำให้ไวรัสกลายพันธุ์ และเป็นอันตรายต่อผู้คนในประเทศอื่นๆ
ต้นเดือนนี้ปักกิ่งเริ่มยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์มวลชนภายใต้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ หลังมีการประท้วงทั่วประเทศต่อต้านมาตรการควบคุมไวรัสที่ใช้มานาน 3 ปี และต้องแลกกับต้นทุนมหาศาลด้านสังคมและเศรษฐกิจ
แต่ขณะนี้ที่ไวรัสระบาดไปทั่วประเทศที่มีประชากร 1,400 ล้านคนที่ขาดภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ จึงมีความกังวลมากขึ้นว่า อาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม อาจมีไวรัสกลายพันธุ์ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้า
เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันจันทร์ (19 ธ.ค.) ว่าความเป็นไปได้ที่ไวรัสจะกลายพันธุ์ระหว่างระบาดในจีน ถือเป็นภัยคุกคามต่อประชาชนในประเทศอื่นๆ
อเล็กซ์ คุก รองคณบดีฝ่ายวิจัยของซอว์ สวี ฮ็อก สกูล ออฟ พับลิก เฮลธ์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ชี้ว่า การระบาดใหม่ทุกระลอกในประเทศต่างๆ เพิ่มความเสี่ยงเกิดสายพันธุ์ใหม่ ยิ่งระบาดมาก ความเสี่ยงยิ่งสูง และมีแนวโน้มว่าการระบาดระลอกปัจจุบันในจีนจะเป็นระลอกใหญ่
อย่างไรก็ตาม คุกกล่าวว่า การระบาดในจีนต้องถึงจุดที่โควิดถือเป็นโรคประจำถิ่นจึงจะสามารถผ่านพ้นการระบาดใหญ่ได้ในอนาคตโดยไม่ต้องล็อกดาวน์จนทำให้เศรษฐกิจและการเมืองเสียหาย
ทั้งนี้ ในวันอังคาร จีนรายงานพบผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโควิด 5 คน เพิ่มขึ้นจากที่พบ 2 คนในวันจันทร์ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิดนับจากที่ไวรัสโคโรนาอุบัติขึ้นในเมืองอู่ฮั่นเมื่อปลายปี 2019 ทั้งสิ้น 5,242 คน ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลก
ถึงกระนั้น ขณะนี้เริ่มมีความสงสัยมากขึ้นว่า มีการเก็บสถิติผลกระทบจากโควิดที่ระบาดไปทั่วอย่างครบถ้วนหรือไม่ หลังจากจีนยกเลิกมาตรการหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงยกเลิกการบังคับตรวจโควิดส่วนใหญ่เมื่อวันที่ 7 ที่ผ่านมา
นับจากนั้นมา โรงพยาบาลบางแห่งมีผู้ป่วยล้น ยาขาดแคลน ขณะที่ผู้คนจำนวนมากล็อกดาวน์ตัวเอง ทำให้บริการเดลิเวอรีต้องรับภาระหนัก
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบางคนประเมินว่า ประชาชน 60% ของจีน หรือ 10% ของประชากรโลกอาจติดโควิดในไม่กี่เดือนนี้ และอาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2 ล้านคน
ที่ปักกิ่ง ซึ่งกลายเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดหลักในขณะนี้ รถไฟและการจราจรบนท้องถนนกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากว่างเปล่าเป็นส่วนใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนที่เซี่ยงไฮ้ที่อัตราการระบาดใกล้ไล่ทันปักกิ่ง ถนนกลับว่างเปล่าลง และรถไฟมีผู้โดยสารเพียงครึ่งเดียว
หยาง เทรนเนอร์ในยิมแห่งหนึ่งที่เกือบร้างลูกค้าในเซี่ยงไฮ้ บอกว่า คนไม่ออกไปไหนเพราะป่วยหรือกลัวติดโควิด แต่เขาคิดว่า ส่วนใหญ่น่าจะติดแล้ว
ช่วงหลายสัปดาห์มานี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของจีนได้เปลี่ยนน้ำเสียงให้ดูเบาลงเกี่ยวกับภัยคุกคามจากโควิด ซึ่งถือเป็นการกลับลำครั้งใหญ่จากก่อนหน้านี้ที่ป่าวประกาศว่า จำเป็นต้องกำจัดไวรัสโคโรนาเพื่อปกป้องชีวิตประชาชน แม้ประเทศอื่นทั่วโลกยกเลิกมาตรการควบคุมไวรัสกันแล้วก็ตาม
ทางการจีนยังคลายความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สายพันธุ์โอมิครอนอาจกลายพันธุ์และระบาดง่ายขึ้น โดยจาง เหวินหง ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อชั้นนำ กล่าวในงานประชุมเมื่อวันอาทิตย์ (19 ธ.ค.) ว่ามีความเป็นไปได้ต่ำมากที่จะมีการกลายพันธุ์ขนาดใหญ่แบบปุบปับ
ถึงกระนั้น ก็มีสัญญาณชัดเจนขึ้นว่า โควิดกำลังโจมตีระบบสุขภาพที่เปราะบางของจีน เมืองใหญ่หลายแห่ง รวมถึงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เผยว่า สร้างคลินิกสแกนไข้เพื่อป้องกันการระบาดขนาดใหญ่ในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นหลายร้อยแห่ง
นอกจากนั้น โควิดยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน โดยคาดหมายว่าอัตราเติบโตปีนี้จะอยู่ที่ 3% ต่ำสุดในรอบเกือบศตวรรษ ขณะที่คนงานและคนขับรถบรรทุกพากันป่วย ทำให้ผลผลิต และโลจิสติกส์สะดุด
การสำรวจของเวิลด์ อิโคโนมิกส์ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ยังระบุว่า ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจจีนประจำเดือนธันวาคมลดลงต่ำสุดนับจากเดือนมกราคม 2013