xs
xsm
sm
md
lg

ไบเดนว่าไง?? เครมลินเผย ‘ปูติน’ นัดถก ‘สีจิ้นผิง’ ปลายเดือนนี้ คุย ‘เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2022’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ภาพจากแฟ้ม) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน ณ การประชุมซัมมิตขยายวงขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ที่เมืองซามาร์กันด์
โฆษกวังเครมลิน ดมิตริ เปสคอฟ เผย ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน นัดพบกับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนปลายเดือนนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2022 พร้อมกับระบุว่า ผู้นำ 2 คนนี้ “ติดต่อกันสม่ำเสมอ” ขณะเดียวกัน โฆษกวังเครมลินผู้นี้ยังแถลงคัดค้านแผนสันติภาพที่เซเลนสกี เสนอต่อผู้นำจี7 ติงเคียฟต้องยอมรับความจริง ซึ่งรวมถึงการที่มอสโกได้เข้าผนวกดินแดนหลายแห่งในยูเครนไปแล้ว

เวโดมอสตี หนังสือพิมพ์แนวธุรกิจของรัสเซีย รายงานก่อนใครเพื่อนในฉบับวันอังคาร (13 ธ.ค.) เรื่องที่ ปูติน จะหารือกับ สี ในปลายเดือนธันวาคมนี้ โดยอ้างอิง เปสคอฟ ซึ่งบอกอีกว่าทราบกันแล้วว่าการพบปะนี้จะมีขึ้นวันไหน รวมทั้งวาระที่จะคุยกันด้วย แต่สื่อจะต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการในเวลาต่อไป

จากนั้นในการแถลงข่าวประจำวันกับสื่อมวลชนวันอังคาร เปสคอฟ กล่าวว่า สี กับ ปูติน มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอ และกล่าวต่อไปว่า “เรากำลังเตรียมพร้อมเพื่อทำให้การติดต่อสื่อสารนี้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เราจะแจ้งให้พวกคุณทราบอย่างทันการณ์ว่าการติดต่อพบปะในอนาคต (ระหว่าง สี กับ ปูติน) จะเกิดขึ้นเมื่อใดและติดต่อพบปะกันอย่างไร”

ขณะที่ เวโดมอสตี อ้างอิงแหล่งข่าวคนหนึ่งที่ใกล้ชิดกับคณะบริหารของรัสเซียแต่ไม่ขอเปิดเผยนาม บอกว่า การประชุมของผู้นำจีน-รัสเซีย ไม่น่าที่จะเป็นแบบเจอกันตัวเป็นๆ

นับจากส่งทหารบุกยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ รัสเซียก็เข้าหาจีนใกล้ชิดยิ่งขึ้น รวมทั้งพยายามกระชับสัมพันธ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคงกับพวกประเทศนอกกลุ่มตะวันตก

อีกด้านหนึ่ง ระหว่างการแถลงข่าววันอังคาร เปสคอฟได้แสดงความคิดเห็นคัดค้านข้อเสนอสันติภาพ 3 ขั้นตอน ซึ่งประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนแบออกมาระหว่างที่เขาประชุมซัมมิตครั้งพิเศษกับพวกผู้นำของกลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี7) เมื่อวันจันทร์ (12) โดยโฆษกวังเครมลินกล่าวว่า การเจรจาสันติภาพไม่มีทางคืบหน้าถ้าไม่คำนึงถึง “ความเป็นจริง” ซึ่งรวมถึงการที่รัสเซียได้เข้าผนวกดินแดนต่างๆ ในยูเครน

ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ เซเลนสกีเรียกร้องให้พวกผู้นำจี7 จัดส่งอาวุธเพิ่ม สนับสนุนเสถียรภาพทางการเงินและพลังงานของยูเครน รวมทั้งสนับสนุนข้อตกลงสันติภาพที่เริ่มต้นด้วยการที่รัสเซียถอนทหารออกไปและคืนดินแดนที่ยึดครองให้ยูเครน

ด้านผู้นำจี7 ให้สัญญาตอบสนองความต้องการเร่งด่วนของเคียฟ หลังเซเลนสกีเรียกร้องขอรถถังและปืนใหญ่รุ่นใหม่ รวมทั้งอาวุธระยะไกล

รัสเซียนั้นยืนยันมาตลอดว่า ยินดีเจรจาสันติภาพ แต่โทษว่า ฝ่ายยูเครนและตะวันตกต่างหากที่ไม่พร้อม

ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ เปสคอฟยังยืนยันว่า ปูตินจะงดการแถลงข่าวประจำปีเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยไม่ได้ให้เหตุผลใดๆ ทำให้นักวิจารณ์หลายคนฟันธงว่า ผู้นำรัสเซียลังเลที่จะต้องเผชิญคำถามไม่พึงประสงค์เกี่ยวกับ “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ในยูเครน รวมทั้งยังมีความกังวลมากขึ้นในเครมลินเกี่ยวกับกระแสต่อต้านสงครามในรัสเซีย

ที่ผ่านมา การแถลงข่าวประจำปีจะเป็นโอกาสที่เครมลินใช้เพื่อขัดเกลาเสริมสร้างภาพลักษณ์ของปูติน โดยการแถลงข่าวที่มีการจัดการอย่างเข้มงวดและถ่ายทอดสดทางทีวีนั้น บางปียืดเยื้อใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อให้ปูตินร่ายยาวเกี่ยวกับนโยบายภายในประเทศ และนโยบายการต่างประเทศ

สำหรับสถานการณ์การสู้รบในยูเครนนั้นยังคงมีการสู้รบอย่างหนักทางภาคตะวันออกที่รัสเซียต้องการเข้าควบคุมทั้งแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ ซึ่งเป็นดินแดน 2 จาก 4 แห่งที่เครมลินผนวกหลังการทำประชามติที่ประเทศส่วนใหญ่โจมตีว่าผิดกฎหมาย

กองเสนาธิการของกองทัพยูเครนแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า รัสเซียยังไม่ลดละความพยายามในการโจมตีเพื่อเข้ายึดเมืองบัคห์มุต และ แอฟดิฟกา ซึ่งอยู่ในแคว้นโดเนตสก์

มอสโกยังเดินหน้าถล่มโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนด้วยขีปนาวุธและโดรน ส่งผลให้ยูเครนต้องดับไฟฟ้าและกระทบต่อพลเรือนยูเครนนับล้าน

ยาโรสลาฟ ยานูเชวิช ผู้ว่าการแคว้นเคียร์ซอน เผยว่า ถูกรัสเซียโจมตีถึง 57 ระลอกในวันจันทร์

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมของเบลารุส ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรใกล้ชิดของรัสเซีย แถลงว่า ได้เริ่มดำเนินการตรวจสอบแบบฉันพลันเกี่ยวกับความพร้อมของกองทัพหลังได้รับคำสั่งจากประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก

ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการดำเนินการทางทหารครั้งล่าสุดของเบลารุส จากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่มีการฝึกซ้อมต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความกังวลว่า รัสเซียอาจโจมตียูเครน โดยเคลื่อนพลออกมาจากทางฝั่งเบลารุสในอีกไม่กี่เดือนนี้

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น