xs
xsm
sm
md
lg

ไม่เคลียร์!! ‘ปูติน’ยันไม่เป็นฝ่ายเริ่มใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่ก็บอกว่าถ้าไม่ได้เป็นฝ่ายแรกที่ใช้ ‘นุก’ ก็คงไม่มีโอกาสได้ตอบโต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ขณะพูดกับที่ประชุมประจำปีของสภาของประธานาธิบดีเพื่อภาคประชาสังคมและสิทธิมนุษยชน ผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์  จากกรุงมอสโกในวันพุธ (7 ธ.ค.)
ปูตินเผยไม่เสียใจบุกยูเครน เตือนปฏิบัติการทางทหารอาจเป็น “กระบวนการระยะยาว” และมีความตึงเครียดด้านนิวเคลียร์เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็พูดคลุมเครือเรื่อง “นุก” โดยบอกว่ารัสเซียจะไม่เป็นฝ่ายเริ่มใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่ก็ระบุว่าการรอเป็นฝ่ายตอบโต้จะเป็นการสายเกินไป ด้านวอชิงตันออกมาวิจารณ์ทันควันว่า ประมุขวังเครมลินพูดจาไม่ยั้งคิดและไร้ความรับผิดชอบ

กองกำลังรัสเซียพลาดเป้าหมายสำคัญทางทหารหลายอย่างนับจากเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ จุดชนวนความกังวลว่า มอสโกอาจหันไปพึ่งอาวุธนิวเคลียร์เพื่อให้เป้าหมายบรรลุผล

ทว่า เมื่อวันพุธ (7 ธ.ค.) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยืนยันระหว่างการประชุมแบบเสมือนจริงกับสภาเพื่อภาคประชาสังคมและสิทธิมนุษยชนของรัสเซีย โดยที่มีการถ่ายทอดออกโทรทัศน์ว่า มอสโกไม่ได้บ้าและตระหนักดีว่า อาวุธนิวเคลียร์คืออะไร “เราไม่ได้กำลังเที่ยวกวัดแกว่งมันเหมือนกับว่าเป็นมีดโกนขณะที่กำลังวิ่งพล่านไปรอบโลก”

กระนั้น เขายอมรับว่า มีความตึงเครียดด้านนิวเคลียร์มากขึ้น โดยกล่าวว่า “ภัยคุกคามดังกล่าวนี้กำลังเพิ่มสูงขึ้น ทำไม ณ ที่นี้จะต้องปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับด้วย”

อย่างไรก็ตาม เขากล่าวต่อไปว่า รัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ก็เฉพาะในการตอบโต้การโจมตีของศัตรู “เมื่อเราถูกโจมตี เราก็โจมตีกลับ” ปูติน บอก ซึ่งเป็นการย้ำยุทธศาสตร์ของมอสโกที่ยึดโยงอยู่กับนโยบาย “ที่เรียกกันว่าการโจมตีเพื่อตอบโต้แก้เผ็ด”

กระนั้น ตอนที่มีสมาชิกผู้หนึ่งของสภา ขอให้เขาให้คำมั่นว่ารัสเซียจะไม่เป็นคนแรกที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ ปูตินก็แสดงความไม่เห็นด้วย โดยกล่าวว่า ถ้ารัสเซียยินยอมจะไม่เป็นฝ่ายแรกที่ใช้แล้ว ก็จะตกอยู่ใต้การถูกถล่มด้วยอาวุธนิวเคลียร์

“แต่ถ้ารัสเซียไม่ได้เป็นฝ่ายแรกที่ใช้มันไม่ว่าอยู่ภายใต้สถานการณ์ใดๆ ก็ตาม รัสเซียก็จะไม่ได้เป็นฝ่ายที่สองที่จะใช้อาวุธนี้เหมือนกัน เพราะความเป็นไปได้ที่จะใช้มันในกรณีที่ดินแดนของเราถูกโจมตีด้วยนิวเคลียร์นั้น จะถูกจำกัดอย่างแรง” เขาบอก

ทางด้านอเมริกาได้ออกมาประณามคำประกาศนี้ของ ปูติน ทันที โดยเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ วิจารณ์ว่า การพูดจาโดยไม่ยั้งคิดเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ของปูตินเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง อีกทั้งยังอันตรายและขัดกับหลักการการไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ที่ยึดถือกันมาตั้งแต่สงครามเย็น

ทว่า นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ของเยอรมนี กลับมองว่า คำประกาศของปูตินสะท้อนว่า ความเสี่ยงที่จะมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครนลดลงแล้ว เนื่องจากนานาชาติช่วยกันกดดันรัสเซีย และสำทับว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับรัสเซียในขณะนี้คือยุติสงครามและถอนทหารออกจากยูเครนทันที

ระหว่างการประชุมกับสภาสิทธิมนุษยชนเมื่อวันพุธ (7) ปูตินพูดถึงการปฏิบัติการทางทหารในยูเครนว่า อาจเป็น “กระบวนการระยะยาว”

แต่ผู้นำรัสเซียเสริมว่า ไม่เสียใจเลยที่เปิดสงครามที่กลายเป็นสงครามที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในยุโรปนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และยังประกาศว่า รัสเซียประสบความสำเร็จอย่างชัดเจนจากการผนวกดินแดนในยูเครนเพิ่มขึ้นอีก 4 แคว้น ได้แก่ โดเนตสก์ ลูกันสก์ (ลูฮันสก์) เคียร์ซอน และซาโปริซเซีย ภายหลังการทำประชามติเมื่อเดือนกันยายน ถึงแม้ทางตะวันตกประณามว่า เป็นประชามติจอมปลอม

ปูตินยังบอกว่า การผนวกดินแดนเช่นนี้ทำให้เวลานี้ ทะเลอาซอฟกลายเป็นส่วนหนึ่งของน่านน้ำรัสเซียไปแล้ว

นอกจากนี้ ปูตินยืนยันว่า รัสเซียไม่จำเป็นต้องระดมพลครั้งใหม่ เนื่องจากขณะนี้มีทหารราว 150,000 นาย จากที่เกณฑ์มา 300,000 นายเมื่อเดือนกันยายนและตุลาคม เข้าประจำอยู่ในยูเครนแล้ว และ 77,000 นายอยู่ในหน่วยรบ ส่วนที่เหลืออีก 150,000 นายกำลังอยู่ในศูนย์ฝึก

ในอีกด้าน นิตยสารไทม์ ของสหรัฐฯประกาศเลือกประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครนให้เป็นบุคคลแห่งปี 2022 โดยที่ตำแหน่งนี้ ปูติน เคยได้รับมาก่อนเมื่อปี 2007

(ที่มา: เอเอฟพี, เอพี, รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น