จีนยิ้มกริ่ม! 'ปธน.ไช่อิงเหวิน' ลาออก หน.พรรค หลังพ่ายฝ่ายเป็นมิตรปักกิ่งศึกเลือกตั้งท้องถิ่นไต้หวัน

ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน ลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ในวันเสาร์ (26 พ.ย.) หลังจากยุทธศาสตร์ของเธอในการวางกรอบศึกเลือกตั้งท้องถิ่น ในฐานะการแสดงออกซึ่งการต่อต้านความก้าวร้าวของจีน ประสบความล้มเหลวและไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชน ขณะที่ปักกิ่งได้ที ชี้คนไต้หวันได้ส่งเสียงอย่างชัดเจนแล้วว่าต้องการสันติภาพ เสถียรภาพ และชีวิตที่ดี

แม้สื่อตะวันตกหลายแห่งชี้ว่าการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี หัวหน้าเขตและสมาชิกสภาท้องถิ่น เป็นเรื่องเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ภายในประเทศ เช่น โรคระบาดใหญ่โควิด-19 และอาชญากรรม และการเลือกตั้งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนโยบายจีน

แต่ ไช่ ให้คำจำกัดความศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ว่าเป็นอะไรที่มากกว่าการลงคะแนนโหวตระดับท้องถิ่น โดยบอกว่าโลกกำลังจับตาแนวทางของไต้หวันในการปกป้องประชาธิปไตย ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการทหารกับจีน ซึ่งอ้างว่าเกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน

พรรคก๊กมินตั๋ง พรรคฝ่ายค้านหลักมีคะแนนนำ หรืออ้างชัยชนะในเลือกตั้งเก้าอี้นายกเทศมนตรีเมืองและหัวหน้าเขต 13 จากทั้งหมด 21 แห่ง ในนั้นรวมถึงในกรุงไทเป ส่วนพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าได้มาเพียง 5 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ระบุว่าส่วนใหญ่แล้วมันไปตามความคาดหมายและคล้ายคลึงกับศึกเลือกตั้งท้องถิ่นหนที่แล้วในปี 2018

กระนั้น ไช่ ให้สัมภาษณ์กัยผู้สื่อข่าวที่สำนักงานใหญ่ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค แบบเดียวกับที่เคยทำครั้งที่พรรคการเมืองของเธอทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในศึกเลือกตั้งปี 2018 ว่า "ผลเลือกตั้งไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง เราน้อมรับผลการเลือกตั้งและยอมรับการตัดสินใจของประชาชนชาวไต้หวัน"

"มันไม่ใช่ว่าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าไม่เคยประสบความล้มเหลวมาก่อน เราไม่มีเวลามานั่งเสียใจ เราจะลุกขึ้นอีกครั้ง" เธอกล่าว ทั้งนี้ ไช่ จะยังคงทำหน้าที่ประธานาธิบดีต่อไปจนถึงปี 2024

นอกจากนี้ ไช่ เผยด้วยว่าเธอปฏิเสธการลาออกจากตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีซูเจินชาง ซึ่งเป็นสมาชิกระดับอาวุโสของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พร้อมกับขอให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่อไป เพื่อรับประกันว่านโยบายของเธอจะถูกนำไปปฏิบัติอย่างเหมาะสม

คณะรัฐมนตรีเผยว่า ซู ตอบตกลงอยู่ในตำแหน่งต่อไป สืบเนื่องจากความจำเป็นที่ต้องรักษาเสถียรภาพ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

สำนักงานกิจการไต้หวันของจีน ระบุว่า ผลการเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่าความคิดเห็นกระแสหลักของกระชาชนชาวไต้หวันต่างต้องการสันติภาพ เสถียรภาพ และชีวิตที่ดี และปักกิ่งจะเดินหน้าทำงานร่วมกับประชาชนชาวไต้หวัน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันสันติ ต่อต้านการประกาศเอกราชของไต้หวันและการแทรกแซงของต่างชาติ

พรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งปรารถนามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน แต่ปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าไม่ได้เป็นฝ่ายโปรจีน กล่าวหา ไช่ และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ว่ากำลังเผชิญหน้ากับจีนเลยเถิดเกินไป และพยายามสร้างความแปดเปื้อนแก่พรรคของพวกเขา โดยกล่าวหาว่าเป็นพรรค "สีแดง" อ้างถึงสีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ทางพรรคก๊กมินตั๋ง มุ่งเน้นการหาเสียงไปที่วิพากษ์วิจารณ์แนวทางตอบสนองโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามหลังเคสผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงอีกรอบในปีนี้

เอริค ชู ประธานพรรคก๊กมินตั๋ง ฉลองชัยชนะ แต่บอกว่าพวกเขาจะปกป้องเสรีภาพของไต้หวันเช่นกัน "เราจะยืนยันปกป้องสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และปกป้องประชาธิปไตยและเสรีภาพ" เขาบอกกับผู้สื่อข่าว "เราจะทำงานหนักเพื่อรักษาสันติภาพในภูมิภาค"

จีนดำเนินการซ้อมรบหลายรอบใกล้ไต้หวันในเดือนสิงหาคม ในการแสดงความโกรธเคืองต่อการเดินทางเยือนเกาะแห่งนี้ของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และจนถึงตอนนี้ปักกิ่งยังคงมีความเคลื่อนไหวทางทหาร แต่ลดระดับลงไปพอสมควร

การเลือกตั้งครั้งนี้มีขึ้นราวๆ 1 เดือนตามหลังการประชุมใหญ่พรรคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัย 3 อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเป็นประเด็นที่ ไช่ กล่าวพาดพิงถึงบ่อยครั้งระหว่างการหาเสียง

เวลานี้ความสนใจพุ่งเป้าไปที่ศึกเลือกตั้งรัฐสภาและประธานาธิบดี 2024 ซึ่ง ไช่ และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า คว้าชัยอย่างถล่มทลายในปี 2020 จากคำสัญญาจะยืนหยัดต่อต้านจีนและปกป้องเสรีภาพของชาวไต้หวัน

ไช่ ซึ่งกำลังดำรงตำแหน่งสมัย 2 จะไม่สามารถลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีได้ สืบเนื่องจากข้อจำกัดในวาระการดำรงตำแหน่ง

(ที่มา : รอยเตอร์)