รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 26 พ.ย.นี้ไต้หวันจะจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์ว่าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือดีพีพี ( Democratic Progressive Party) ซึ่งมีนางไช่ อิงเหวิน เป็นหัวหน้าพรรคและประธานาธิบดีไต้หวันคนปัจจุบัน จะคว้าคะแนนนิยมจากชาวไต้หวันอีกมากน้อยแค่ไหน หลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าล้มเหลวในการบริหารจัดการกับการระบาดของเชื้อโควิด-19
การเลือกตั้งครั้งนี้ดีพีพีต้องการเพิ่มที่นั่ง 7 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคก๊กมินตั๋ง หรือเคเอ็มที (Kuomintang Party) เป็นพรรคฝ่ายค้านหวังรักษา 14 ที่นั่งไว้และต้องการชนะอีก 6 เมืองใหญ่ที่สุดของไต้หวันซึ่งครอบคลุมจำนวนประชากรกว่า 70 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่พรรคประชาชนไต้หวัน หรือทีพีพี (Taiwan People's Party) มีกระแสนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในหมู่คนหนุ่มสาวเนื่องจากวางตัวเป็นกลางมุ่งปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไต้หวันไม่เน้นเรื่องของความเป็นเอกราชเหมือนพรรคดีพีพี
เป็นที่รู้กันว่า “ดีพีพี” มีแนวทางต้านจีนแผ่นดินใหญ่ นอกเหนือจาก”ฝ "ไช่ อิงเหวิน" ยังมี "เค่อ เจียนหมิง" (Ke Jianming) ส.ส.บัญชีรายชื่อ ดีพีพี วัย 70 ปี ผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนพรรค
ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง มีการโจมตี "เค่อ เจียนหมิง" ว่าเป็นนักฉวยโอกาส เบื้องหน้าแสดงตัวต่อต้านจีนแต่เบื้องหลังแอบขุดทองในแดนมังกร
“เค่อ เจียนหมิง” เรียนแพทย์จากวิทยาลัยแพทย์ซุนยัดเซ็น จบปริญญาโทด้านการจัดการบริหาร ตั้งคลินิกทำฟันและเข้ามาร่วมงานการเมืองกับ "ดีพีพี" มานานกว่า 30 ปี เป็นผู้จัดการตัวจริงเสียงจริงของพรรค
มีคนไปขุดคุ้ยเบื้องหลังของ "เค่อ เจียนหมิง" ที่แสดงให้เห็นว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน เช่น “เค่อ เหว่ยเหริน” (Ke Weiren) ลูกชายทำธุรกิจในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และฮ่องกงและไทเป ซึ่งเป็นธุรกิจชิป
ความขัดแย้งระหว่างจีนกับไต้หวันปะทุขึ้นอย่างรุนแรงในเดือนสิงหาคม ขณะนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ ไปเยือนไต้หวัน จีนประกาศปิดล้อมใช้กระสุนจริงซ้อมรบและคว่ำบาตรการค้ากับไต้หวัน ทำให้ธุรกิจตระกูล "เค่อ" สั่นสะเทือนอย่างหนัก
การเลือกตั้งที่เมืองซินจู๋ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของ "เค่อ เจียนหมิง" เพราะเป็นบ้านเกิด จะถูกพรรคประชาชนไต้หวันแย่งชิงตำแหน่งหรือไม่ต้องจับตาดู