นายทหารใหญ่อเมริกาเตือนหากจีนโจมตีได้หวันจะถือเป็นความผิดพลาดด้านยุทธศาสตร์ที่เลวร้ายพอๆ กับการที่รัสเซียรุกรานยูเครน อย่างไรก็ดี เขาเชื่อว่า สีจิ้นผิง มีเหตุมีผล สามารถประเมินสถานการณ์ และตระหนักว่าการโจมตีไต้หวันในอนาคตอันใกล้มีความเสี่ยงสูง
พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธฯ (16) ว่า เขาคิดว่าการโจมตีไต้หวันไม่ใช่การกระทำที่ฉลาด แต่เป็นความผิดพลาดทางการเมือง ภูมิรัฐศาสตร์ และยุทธศาสตร์ เช่นเดียวกับความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ก่อขึ้นในยูเครน
กระนั้น มิลลีย์ไม่ได้ระบุว่า จีนกำลังจะโจมตีไต้หวันในเร็วๆ นี้ แต่เขาเชื่อว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนที่เพิ่งได้รับการรับรองเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัยที่ 3 และประกาศว่า การรวมไต้หวันเป็นเป้าหมายสำคัญอันดับต้นๆ ของจีนนั้นเป็นผู้นำที่มีเหตุผล
มิลลีย์ คิดว่า สีจะประเมินต้นทุน ผลประโยชน์ และความเสี่ยงในทุกสิ่ง และได้ข้อสรุปว่า การโจมตีไต้หวันในอนาคตอันใกล้มีความเสี่ยงสูง อีกทั้งจะจบลงด้วยหายนะของกองทัพจีน ซึ่งจะทำให้เป้าหมายในการผลักดันจีนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและการทหารสะดุด
ประธานเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ สำทับว่า การรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งชะงักงันจากการต้านทานอย่างเข้มแข็งเกินคาดของเคียฟและอาวุธของตะวันตก คือบทเรียนที่ชัดเจน
เขาแจกแจงว่า สิ่งหนึ่งที่ผู้คนกำลังเรียนรู้คือ สงครามในกระดาษเป็นคนละเรื่องกับสงครามจริงที่มีผู้คนล้มตาย รถถังระเบิด และเต็มไปด้วยอุปสรรคทางกายภาพต่อปฏิบัติการทางทหารและการที่ผู้บัญชาการขาดข้อมูลที่ชัดเจน
มิลลีย์ตั้งข้อสังเกตว่า กองทัพจีนไม่ได้ข้องเกี่ยวกับการรบนับจากต่อสู้กับเวียดนามในปี 1979 นอกจากนั้น แม้กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนสามารถเปิดฉากโจมตีไต้หวันอย่างง่ายดายด้วยระเบิดและขีปนาวุธ แต่การบุกยึดเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาและมีประชากรหนาแน่นจะเป็นภารกิจทางทหารที่ยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการข้ามช่องแคบและบุกขึ้นเกาะไต้หวัน ซึ่งทหารจีนไม่เคยมีประสบการณ์ หรือได้รับการฝึกฝนให้ทำภารกิจนี้มาก่อน
(ที่มา : เอเอฟพี)