เกาหลีเหนือคึกไม่หยุด ในวันพฤหัสบดี (3 พ.ย.) ยิงขีปนาวุธอีกหลายลูกต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 รวมถึงมิสไซล์บิ๊กเบิ้มระดับข้ามทวีป ทว่าประสบความล้มเหลวกลางอากาศ กระนั้นก็ทำให้ระบบเตือนภัยของญี่ปุ่นทำงานและประชาชนบางพื้นที่ตอนกลางและเหนือของแดนอาทิตย์อุทัยต้องหาที่หลบภัย ขณะเดียวกัน เหตุการณ์ล่าสุดนี้ทำให้วอชิงตัน และโซลตอบโต้ด้วยการประกาศต่อเวลาปฏิบัติการซ้อมรบใหญ่ที่เปียงยางกล่าวหาว่า เป็นการยั่วยุ
เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นระบุตรงกันว่า ขีปนาวุธที่ล้มเหลวประสบความล้มเหลว อาจเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ซึ่งเป็นอาวุธพิสัยไกลที่สุดของเกาหลีเหนือและออกแบบมาเพื่อติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์และโจมตีดินแดนในอีกซีกโลกหนึ่ง
คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้แถลงว่า ตรวจพบการยิงขีปนาวุธซึ่งเชื่อว่า เป็นไอซีบีเอ็ม จากย่านซูนาน ในกรุงเปียงยาง เมื่อเวลา 7.40 น. วันพฤหัสฯ (3) และมีแนวโน้มว่า ไอซีบีเอ็มลูกนี้ล้มเหลวระหว่างการแยกส่วนขั้นที่ 2 โดยขีปนาวุธลูกนี้มีพิสัยทำการไกล 760 กิโลเมตร ขึ้นถึงระดับความสูง 1,920 กิโลเมตร และมีความเร็วที่ มัค 15 (เร็วเป็น 15 เท่าของความเร็วเสียง)
นอกจากนั้น ตลอดวันพฤหัสฯ ยังตรวจพบเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้อีกอย่างน้อย 5 ลูก
ส่วนที่ญี่ปุ่นนั้น หลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธลูกแรก ประชาชนในจังหวัดมิยากิ ยามากาตะ และนีงาตะได้รับคำเตือนให้หาที่หลบภัยในบ้านหรืออาคาร
อย่างไรก็ดี ยาสึกาสึ ฮามาดะ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น แถลงในเวลาต่อมาว่า ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือหายไปจากจอเรดาร์บริเวณเหนือทะเลญี่ปุ่น ดังนั้น จรวดลูกนี้จึงไม่ได้บินข้ามญี่ปุ่นอย่างที่มีการประกาศในตอนแรก
พลเรือโทโยจิ โคดะ อดีตผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันทางนาวี ของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ชี้ว่า การที่ไอซีบีเอ็มหายไปจากจอเรดาร์หมายความว่า จรวดมีปัญหาบางอย่างระหว่างบินและชิ้นส่วนหลุดจากกัน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ทำให้ทางการญี่ปุ่นต้องออกประกาศเตือนประชาชนให้หาที่หลบภัย
สำหรับที่วอชิงตัน เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ประณามการทดสอบไอซีบีเอ็มของเกาหลีเหนือ โดยบอกว่าเป็นการละเมิดมติหลายข้อของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และยังสะท้อนภัยคุกคามจากอาวุธทำลายล้างสูงและโครงการขีปนาวุธทิ้งตัวของเกาหลีเหนือ
เอเดรียนน์ วัตสัน โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ แถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และทีมความมั่นคงแห่งชาติกำลังประเมินสถานการณ์ และอเมริกาจะใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อรับประกันความปลอดภัยของคาบสมุทรเกาหลี
การทดสอบขีปนาวุธระลอกล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากเปียงยางเรียกร้องให้อเมริกาและเกาหลีใต้ยุติการซ้อมรบขนาดใหญ่ โดยบอกว่า เกาหลีเหนืออาจไม่สามารถอดทนกับการยั่วยุทางทหารอีกต่อไป และสำทับว่า การยิงขีปนาวุธและกิจกรรมทางทหารหลายระลอกในช่วงนี้เป็นการประท้วงการซ้อมรบดังกล่าว
ขณะนี้ โซลและวอชิงตันอยู่ระหว่างการซ้อมรบใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง ครอบคลุมเครื่องบินรบหลายร้อยลำ โดยจำลองการสู้รบตลอด 24 ชั่วโมง และหลังจากที่เกาหลีเหนือยิงไอซีบีเอ็มในวันพฤหัสฯ สองชาติพันธมิตรเห็นพ้องให้ขยายเวลาปฏิบัติการซ้อมรบที่ตามแผนเดิมจะเสร็จสิ้นในวันศุกร์ (4)
ทั้งนี้ เมื่อวันพุธ (2) เกาหลีเหนือเพิ่งยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 23 ลูก ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดในวันเดียว และมีลูกหนึ่งไปตกใกล้ชายฝั่งเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก ในบริเวณห่างจากชายฝั่งไม่ถึง 60 กิโลเมตร และประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ระบุว่า เป็นการล่วงล้ำดินแดน หลังจากนั้นไม่นานกองทัพเกาหลีใต้ยิงขีปนาวุธจากเครื่องบินจำนวน 3 ลูกตอบโต้
ด้าน โช ฮุนดอง รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศเกาหลีใต้ และเวนดี้ เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศอเมริกา ซึ่งหารือกันทางโทรศัพท์ในวันพฤหัสฯ ได้ร่วมกันประณามการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือว่า น่าเสียใจและเลวร้าย
วันเดียวกันนั้น นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น กล่าวว่า การยิงขีปนาวุธซ้ำแล้วซ้ำอีกของเปียงยางเป็นการกระทำที่รับไม่ได้และไม่สามารถให้อภัยได้
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)