ในขณะที่สหรัฐฯ และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กำลังเร่งตรวจสอบเหตุระเบิดซึ่งคร่าชีวิตผู้คน 2 รายในโปแลนด์ ล่าสุด ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ออกมาชี้ว่า “จากข้อมูลในเบื้องต้น” พบว่าเหตุโจมตีดังกล่าวอาจจะไม่ได้เกิดจากขีปนาวุธที่ยิงมาจาก “รัสเซีย” ก็เป็นได้
ไบเดน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังจากที่ผู้นำกลุ่ม G20 ได้เปิดการประชุมหารือฉุกเฉินที่เกาะบาหลีวันนี้ (16 พ.ย.) กรณีมีเหตุระเบิดที่หมู่บ้านพาร์เซโวโด (Przewodow) ทางตะวันออกของโปแลนด์ ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนยูเครน โดยทางการยูเครนและโปแลนด์ได้ออกมากล่าวโทษว่าเกิดจากขีปนาวุธที่ผลิตโดยรัสเซีย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้สามารถสรุปได้แล้วหรือยังว่าต้นตอขีปนาวุธถูกยิงมาจากรัสเซีย? ผู้นำสหรัฐฯ ก็ตอบว่า หากดูจาก “วิถีการยิง” (trajectory) พบว่าไม่น่าจะใช่
“มีข้อมูลเบื้องต้นที่ขัดแย้งกับข้อสรุปเช่นนั้น ผมยังไม่อยากพูดอะไรจนกว่าเราจะตรวจสอบแน่ชัด แต่มัน... ไม่น่าจะถูกยิงมาจากฝั่งรัสเซีย เดี๋ยวคงได้ทราบกัน” ไบเดน กล่าว
ไบเดน ยืนยันว่าสหรัฐฯ และนาโตจะสอบสวนเหตุโจมตีครั้งนี้โดยละเอียด ก่อนที่จะมีมาตรการตอบโต้ใดๆ
แน่นอนว่าคำแถลงของผู้นำสหรัฐฯ ก่อให้เกิดคำถามตามมามากมาย ทั้งในแง่ที่ว่า ไบเดน เชื่อว่ารัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใช่หรือไม่? ขณะที่ทำเนียบขาวเองก็ยังไม่ออกมาชี้แจงเพิ่มเติม
กระนั้นก็ตาม ไบเดน ยังคงประณามรัสเซียที่ยิงขีปนาวุธถล่มดินแดนยูเครนหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม และชี้ว่าเหตุโจมตี และการสูญเสียชีวิตพลเรือนที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ “ไม่อาจยอมรับได้”
ไบเดน ระบุว่า บรรดาผู้นำ G20 “ลงความเห็นพ้องสนับสนุนกระบวนการสอบสวนของโปแลนด์ต่อเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในชนบทใกล้ชายแดนยูเครน เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จากนั้นจึงจะร่วมกันพิจารณาแนวทางตอบสนองขั้นต่อไป”
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวคนหนึ่งออกมาให้ข้อมูลในภายหลังว่า ไบเดน พร้อมที่จะสนับสนุน “กระบวนการสอบสวน” เรื่องนี้ แต่อาจไม่รวมถึง “ข้อสรุป” ที่ได้รับจากฝ่ายโปแลนด์
ทั้งนี้ หากมีข้อสรุปยืนยันว่ามอสโกเป็นผู้ลงมือทำจริง อาจนำไปสู่การประกาศใช้ “บทบัญญัติมาตรา 5” ในสนธิสัญญานาโตซึ่งระบุว่า “การโจมตีดินแดนของประเทศสมาชิกชาติใดชาติหนึ่ง เทียบเท่ากับการโจมตีนาโตทั้งหมด” และอาจเป็นจุดเริ่มต้นให้นาโตต้องใช้ปฏิบัติการทางทหารตอบโต้รัสเซีย
รัฐบาลโปแลนด์ระบุว่า พวกเขากำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องร้องขอการปรึกษาหารือตามบทบัญญัติมาตรา 4 ของสนธิสัญญานาโต ซึ่งเปิดโอกาสให้รัฐสมาชิกหยิบยกข้อกังวล โดยเฉพาะในด้านความมั่นคง ขึ้นมาหารือในคณะมนตรีแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Council)
รัฐบาลโปแลนด์ยังได้เรียกทูตรัสเซียประจำกรุงวอร์ซอเข้าพบเพื่อขอคำอธิบายเกี่ยวกับเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น ซึ่งมอสโกยืนยันว่าพวกเขา “ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง”
ที่มา : รอยเตอร์