ฮือฮา! ศรีลังกาไฟเขียวจนท.รัฐหยุดงานทุกวันศุกร์ไป “ปลูกข้าว” แก้ปัญหาวิกฤตอาหารหมดประเทศ

เอเจนซีส์ – รัฐบาลรานิล วิกรมสิงเหวานนี้(14 มิ.ย)ไฟเขียวให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถทำงานได้ 4 วันต่อสัปดาห์เพื่อช่วยให้คนเหล่านี้สามารถรับมือเชื้อเพลิงขาดแคลนยาวนานและกระตุ้นให้บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐใช้เวลาที่หยุดหันมาปลูกข้าวและพืชผักเพื่อเป็นอาหารรับประทานท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่

CNA สื่อสิงคโปร์รายงานเมื่อวานนี้(14 มิ.ย)ว่า ศรีลังกาที่ผ่านมาเกิดปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงเนื่องมาจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศในการซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ยาและอาหาร

มีประชาชนจำนวนมากต่างต้องออกมาต่อคิวหน้าปั้มน้ำมันเป็นเวลานานหลายชั่วโมงท่ามกลางปัญหานโยบายตัดกระแสไฟฟ้าเป็นเวลานานมาหลายเดือนแล้ว

ศรีลังกาทั่วทั้งประเทศมีประชาชนจำนวนราว 1 ล้านคนที่ทำงานในภาครัฐ เมื่อวันจันทร์(13)คณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี รานิล วิกรมสิงเห อนุมัติข้อเสนออนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถหยุดงานได้ทุกวันศุกร์เป็นเวลานาน 3 เดือนจากเหตุผลที่ว่าส่วนหนึ่งมาจากปัญหาด้านการขาดแคลนพลังงานส่งผลทำให้เป็นความยากลำบากที่จะเดินทางมาทำงานและเป็นการกระตุ้นให้คนเหล่านี้ใช้เวลาไปเพื่อการเกษตรสำหรับปลูกข้าวและผักผลไม้หรือเลี้ยงสัตว์เพื่อช่วยเหลือปัญหาวิกฤตอาหารไม่มีในประเทศ

“มันดูเหมือนมีความเหมาะสมที่จะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐในการหยุดวันทำงานจำนวน 1 วัน...เพื่อหันไปให้เวลากับการทำงานด้านเกษตรกรรมที่สวนหลังบ้านหรือที่อื่นใดในอันถือเป็นการแก้ปัญหาต่อวิกฤตการขาดแคลนอาหารที่คาดว่าจะเกิดขึ้น” รายงานจากแถลงการณ์ของรัฐบาลศรีลังกา

ทั้งนี้ศรีลังกากำลังอยู่ระหว่างการเจรจาการขอความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ IMF และนอกจากนี้ยังพบว่าสหรัฐฯได้เสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือ

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ออกแถลงการณ์ทางทวิตเตอร์หลังได้หารือทางโทรศัพท์กับวิกรมสิงเหเมื่อค่ำวันจันทร์(13)ที่มีใจความว่า “ระหว่างช่วงเวลาความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเมืองนี้ สหรัฐฯพร้อมที่จะทำงานร่วมกับศรีลังกาที่สอดคล้องไปกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศและประชาคมโลก”

วิกรมสิงเหกล่าวในเดือนนี้ว่า ศรีลังกาต้องการเงินไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านดอลลาร์เพื่อจ่ายค่าสินค้านำเข้าจำเป็นสำหรับตลอดทั้งปี