xs
xsm
sm
md
lg

คว่ำบาตรยังไง! สหรัฐฯ ยอมรับรัสเซียโกยรายได้ขายเชื้อเพลิงสูงกว่าตอนก่อนรุกรานยูเครน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เวลานี้รัสเซียอาจมีรายได้จากการขายเชื้อเพลิงฟอสซิล สูงกว่าในช่วงเวลาไม่นานก่อนเปิดปฏิบัติการรุกรานยูเครน ในขณะที่ราคาน้ำมันโลกที่พุ่งขึ้น ช่วยมอสโกชดเชยผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก ที่พยายามสกัดการขายน้ำมันของรัสเซีย จากการเปิดเผยของ อามอส โฮชสไตน์ ทูตพิเศษด้านความมั่นคงทางพลังงานของสหรัฐฯ ระหว่างให้ปากคำต่อสภาคองเกรสในวันพฤหัสบดี (9 มิ.ย.)

"ผมไม่สามารถปฏิเสธเรื่องนี้ได้" โฮชสไตน์บอกกับคณะอนุกรรมาธิการวุฒิสภา ในด้านยุโรปและความร่วมมือด้านความมั่นคงระดับภูมิภาค ตอบคำถามที่ว่าใช่หรือไม่ที่เวลานี้รัสเซียกำลังทำเงินจากการขายน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของพวกเขามากกว่าในช่วง 2 เดือนก่อนสงครามเริ่มต้นขึ้น

สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปเห็นพ้องห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย และยกระดับมาตรการคว่ำบาตรลงโทษประเทศแห่งนี้ ตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน

แม้ความเคลื่อนไหวดังกล่าวผลักตลาดโลกหมางเมินเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซีย แต่ขณะเดียวกันมันกลับกระตุ้นให้ราคาก๊าซธรรมชาติและน้ำมันโลกพุ่งสูงขึ้น โดยเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอนในวันพฤหัสบดี (9 มิ.ย.) ขยับขึ้นเหนือ 123 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน

โฮชสไตน์ ระบุว่า อุปสงค์น้ำมันโลกที่เพิ่มขึ้น จากการที่บรรดาผู้บริโภคออกจากมาตรการล็อกดาวน์สกัดโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ "แข็งแกร่งอย่างมาก แข็งแกร่งกว่าที่ทุกคนคาดหมายไว้"

ในขณะเดียวกัน รัสเซียยังคงสามารถขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแก่ผู้ซื้อรายอื่นๆ ในนั้นรวมถึงจีนและอินเดีย 2 ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยการปลดราคาน้ำมันลงอย่างมาก

โฮชสไตน์ กล่าวว่า แม้รัสเซียจะปรับลดราคาขายน้ำมันแก่จีนและอินเดียลงเมื่อเทียบกับอุปทานจากประเทศอื่นๆ แต่ด้วยราคาตลาดโลกที่พุ่งทะยาน นั่นจึงหมายความว่าเวลานี้ รายได้ของรัสเซียน่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ทบวงพลังงานสากลเคยเปิดเผยเมื่อเดือนพฤษภาคม ว่ารายได้ด้านน้ำมันของรัสเซีย เพิ่มขึ้นถึง 50% นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2022 เป็น 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน โดยมีอียูเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุด ทั้งนี้ประมาณการว่ามาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียของอียู ซึ่งคาดหมายว่าจะบังคับใช้โดยสมบูรณ์ในช่วงสิ้นปี จะทำให้รายได้ของรัสเซียลดลง

จากข้อมูลของ Kpler บริษัทวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ พบว่า อินเดียซื้อน้ำมันรัสเซียเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวในเดือนพฤษภาคม จากหนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น แตะระดับสูงสุดตลอดกาล มากกว่า 840,000 บาร์เรลต่อวัน และดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นอีกในเดือนมิถุนายน

โฮชสไตน์ กล่าวว่าเขาได้ร้องขอเจ้าหน้าที่อินเดีย อย่าซื้อน้ำมันรัสเซียมากเกินไป และแจ้งกับนิวเดลีว่าสหรัฐฯ ไม่สามารถแบนอินเดียจากการซื้อน้ำมันดิบรัสเซียได้ เพราะไม่ได้คว่ำบาตรทางอ้อม (secondary sanctions) การขายเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม โฮชสไตน์ เชื่อว่าอินเดียมีเพดานในการจัดซื้อน้ำมันรัสเซีย แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

เมื่อถูกสอบถามมุมมองของเขาต่อการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางอ้อมต่อประเทศต่างๆ อย่างเช่นอินเดีย โฮชสไตน์ ตอบเพียงว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือลดรายได้ของรัสเซีย พร้อมๆ กับจำกัดผลกระทบของราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นในประเทศและในชาติพันธมิตร

ด้วยรัสเซียป้อนก๊าซธรรมชาติแก่อียูคิดเป็นสัดส่วนถึง 45% เมื่อปีที่แล้ว โฮชสไตน์เผยว่ากำลังหาทางลดการพึ่งพิงดังกล่าว ด้วยสนับสนุนให้เพิ่มความหลากหลายในการป้อนก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) แก่อียู ทั้งจากสหรัฐฯ กาตาร์ และออสเตรเลีย ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ สหรัฐฯ ป้อนก๊าซธรรมชาติเหลวแก่ยุโรปเพิ่มขึ้น 18% จากค่าเฉลี่ยของปี 2021

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น