ราคาเบนซินในสหรัฐฯ ทุบสถติสูงสุดตลอดกาลอีกรอบ แตะระดับ 4.81 ดอลลาร์ต่อแกลลอนเมื่อตอนเช้าวันเสาร์ (4 มิ.ย.) สถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนักสำหรับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผิดกับทางฝั่งรัสเซีย ซึ่งคาดมหายว่าจะมีกำไรจากการส่งออกพลังงานเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แม้ว่าพวกเขาถูกสหภาพยุโรปและอเมริกากำหนดมาตรการคว่ำบาตรห้ามส่งออกน้ำมันก็ตาม
จากข้อมูลของสมาคมรถยนต์แห่งอเมริกา (AAA) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่ติดตามราคาตามสถานีบริการน้ำมันมากกว่า 60,000 แห่งทั่วสหรัฐฯ พบว่าเวลานี้ราคาเบนซินพุ่งขึ้นมาแล้วเท่าตัวนับตั้งแต่ ไจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยในช่วงสิ้นเดือนมกราคม 2021 ในช่วงสัปดาห์แรกในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของไบเดน ราคาเบนซินต่อแกลลอนอยู่ที่แค่ 2.39 ดอลลาร์เท่านั้น
ราคาเบนซินที่สูงที่สุดในประเทศพบในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเวลานี้พวกผู้ขับขี่ต้องจ่ายเงินเฉลี่ยแล้วราว 6.29 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
เวลานี้ราคาเชื้อเพลิงในสหรัฐฯ ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 4 สัปดาห์ติดต่อกัน หลังจากระลอกแรกเกิดขึ้นในช่วงปลายฤดูหนาว ครั้งที่รัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหารรุกรานยูเครน ซึ่งตามมาด้วยมาตรการคว่ำบาตรตอบโต้ของตะวันตก ความเคลื่อนไหวที่ผลักให้อุปทานพลังงานของรัสเซียที่ป้อนสู่ตลาดโลกตกอยู่ในความเสี่ยง
ก่อนหน้าความเคลื่อนไหวของอียูเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วอชิงตันได้กำหนดมาตรการห้ามนำเข้าน้ำมันรัสเซียมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม ทั้งนี้แม้อุปทานจากรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนแค่ 8% ของปริมาณการนำเข้าของสหรัฐฯ แต่ราคาเบนซินดีดตัวขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางการพุ่งทะยานของราคาน้ำมันโลก
ระหว่างการแถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (1 มิ.ย.) ไบเดนยอมรับว่าในระยะสั้นนี้ ดูเหมือนรัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่สามารถหาทางลดราคาเบนซินในประเทศได้เพียงพอ แม้ได้พยายามต่างๆ แล้วก็ตาม
ในขณะที่สหรัฐฯ กำลังได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทาง เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ชาติที่ถูกคว่ำบาตร อกมาระบุในวันเสาร์ (4 มิ.ย.) ว่ามาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกจะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของมอสโก และประมาณการว่าจะมีผลกำไรพุ่งขึ้นอย่างมากจากการส่งออกพลังงานในปีนี้
"เมื่อพิจารณาจากระดับราคาที่เกิดขึ้นจากผลลัพธ์ของนโยบายต่างๆ ของตะวันตก เราไม่ประสบความสูญเสียทางงบประมาณใดๆ ในทางกลับกัน ในปีนี้เราจะมีกำไรจากการส่งออกทรัพยากรพลังงานของเราเพิ่มขึ้นอย่างมาก"
เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (30 พ.ค.) บรรดาผู้นำสหภาพยุโรปเห็นพ้องกันในหลักการปรับลดนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย 90% ในช่วงสิ้นปีนี้ เพื่อลงโทษมอสโกกรณีรุกรานยูเครน "พูดทั่วๆ ไปนะ น้ำมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเมือง มีอุปสงค์สำหรับน้ำมัน เรามีตลาดอื่นๆ ตลาดที่เราขายได้เพิ่มมากขึ้นแล้ว" ลาฟรอฟระบุ
(ที่มา : รอยเตอร์/อาร์ทีนิวส์)