อัตราเงินเฟ้อรายปีของเยอรมนี พุ่งสู่ 7.9% ในเดือนพฤษภาคม แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบครึ่งศตวรรษ จากตัวเลขประมาณการอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (30 พ.ค.)
ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้งในยูเครน และมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซีย หนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยราคาพลังงานที่ดีดตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบอย่างมากต่ออัตราเงินเฟ้อมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ครั้งที่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารรุกรานยูเครน ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) ระบุ
สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อในชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรปแห่งนี้เมื่อเทียบเป็นรายปี เพิ่มขึ้นจากระดับ 7.4% ในเดือนเมษายน ด้วยราคาพลังงานสูงกว่าเดือนพฤษภาคมปีก่อนถึง 38.3% และราคาอาหารสูงกว่าช่วยเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 11.1%
ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดของเยอรมนีนับตั้งแต่ช่วงฤดูหนาวปี 1973-1974 ครั้งที่วิกฤตน้ำมันโหมกระพือราคาให้พุ่งสูงเช่นกัน ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนี ดีดตัวสูงขึ้นอยู่ก่อนแล้ว แตะระดับ 5.1% ในเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนพุ่งทะยานเหนือ 7% ในเดือนมีนาคม ตามหลังรัสเซียรุกรานยูเครน
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนพฤษภาคม
ในรายงานอีกฉบับ สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีระบุว่า รายได้ที่แท้จริงของประชาชนในเยอรมนี ลดลง 1.8% ในไตรมาสแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผลจากภาวะเงินเฟ้อ
ไม่นานก่อนข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดถูกเผยแพร่ออกมา คริสเตียน ลินด์เนอร์ รัฐมนตรีคลังของเยอรมนี ระบุว่า เป้าหมายสูงสุดเวลานี้ควรเป็นการต่อสู้ภับเงินเฟ้อ "เงินเฟ้อคือความเสี่ยงทางเศรษฐกิจใหญ่หลวง และเราต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อนี้ เพื่อไม่ให้วิกฤตเศรษฐกิจลุกลาม"
(ที่มา : เอพี/อาร์ทีนิวส์)