อัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี จากราคาพลังงานที่พุ่งทะยาน จากข้อมูลอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่ในวันพุธ (18 พ.ค.) โหมกระพือเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณฉุกเฉินเพื่อต่อสู้กับวิกฤตค่าครองชีพที่กำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ
เงินเฟ้อรายปีเพิ่มขึ้นแตะระดับ 9.0% ในเดือนเมษายน จากระดับ 7.0% ในเดือนมีนาคม สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุ ซ้ำเติมความเจ็บปวดแก่ประชาชนชาวสหราชอาณาจักร ที่ค่าจ้างก็ไม่เพียงพอรับมือกับราคาที่ดีดตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ อยู่ก่อนแล้ว
สำนักงานสถิติแห่งชาติสหราชอาณาจักรระบุว่า ตัวเลขในดือนเมษายนถือเป็นอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1982
บรรดาชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ทั้งหลายต่างต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ อันมีต้นตอจากสงครามยูเครน และการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์สกัดโควิด-19 โดยเฉพาะในส่วนของราคาพลังงานและราคาอาหาร
อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งทะยานส่งผลให้ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ในนั้นรวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางอังกฤษต้องตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติสหราชอาณาจักร พบว่า อีกปัจจัยที่ทำให้งบครัวเรือนซึ่งบีบรัดอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งตึงมือมากไปอีกในเดือนเมษายนคือ การปรับขึ้นภาษี ในขณะที่รัฐบาลหาทางเพิ่มเงินทุนของรัฐที่หมดไปกับการสนับสนุนเศรษฐกิจระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19
แม้มีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลคอฟเซอร์เวทีฟของสหราชอาณาจักร หาทางบรรเทาความเจ็บปวดจากเงินเฟ้อที่พุ่งทะยาน แต่ ริชิ ซูนัค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับว่ารัฐ "ไม่สามารถปกป้องประชาชนได้อย่างสมบูรณ์"
จากข้อมูลที่เผยแพร่ในวันพุธ (18 พ.ค.) เขากล่าวโทษสถานการณ์ "ความท้าทายต่างๆ ของโลก" และเน้นว่าสหราชอาณาจักรไม่ใช่ประเทศเดียวที่กำลังเผชิญราคาที่พุ่งทะยาน
ซูนัค กล่าวระหว่างร่วมประชุมสัมมนาสมาพันธ์อุตสาหกรรมสหราชอาณาจักร ว่า "เรามีความรับผิดชอบร่วมกันในการช่วยเหลือกลุ่มคนที่อ่อนแอที่สุดและเราพร้อมจะดำเนินการต่างๆ เพิ่มเติม" อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่า "สถานการณ์เศรษฐกิจจะเลวร้ายอย่างยิ่ง ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าจะหนักหนาสาหัส"
พรรคเลเบอร์ พรรคฝ่ายค้านหลีก เรียกร้องอีกครั้งให้จัดสรรงบประมาณฉุกเฉินเพื่อช่วยชาวสหราชอาณาจักรรับมือกับภัยคุกคามของเศรษฐกิจถดถอย "ประเทศของเรากำลังเผชิญวิกฤตค่าครองชีพ และวิกฤตการเติบโต" โฆษกพรรคเลเบอร์ระบุ "เราต้องการงบฉุกเฉินเดี๋ยวนี้เลย เพื่อจัดการกับวิกฤตค่าครองชีพ เราต้องการแผนที่แท้จริงสำหรับการเติบโต"
แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าธนาคารกลางอังกฤษ เตือนในวันจันทร์ (16 พ.ค.) ว่าสถานการณ์เกี่ยวกับค่าอาหารอยู่ในขั้นเลวร้าย โดยเขาบอกว่ามันมีต้นตอจากการที่ยูเครน ชาติผู้ผลิตข้าวสาลีและน้ำมันประกอบอาหารรายใหญ่ของโลกไม่สามารถส่งออกสินค้าได้
ธนาคารกลางอังกฤษ ประมาณการว่าสหราชอาณาจักรเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย หรือเศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติด ท่ามกลางความคาดหมายว่าเงินเฟ้อน่าจะแตะระดับ 10% ในปีนี้
การประมาณการที่มืดมนเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา มีขึ้นหลังจากธนาคารกลางแห่งนี้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็น 1% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ มันถือเป็นการปรับขึ้น 4 ครั้งติดต่อกันและทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2009
ข้อมูลอย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆ นี้พบว่าการที่เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรหดตัวในเดือนมีนาคม เป็นผลกระทบจากราคาผู้บริโภคที่ดีดตัวสูงขึ้น "งบทุนครัวเรือนถูกบดขยี้ภายใต้แรงกดดันของเงินเฟ้อ" เมสัน จ็อบสัน นักวิเคราะห์จากสถาบัน Interactive Investor ระบุ "แทบไม่มีที่หลบสำหรับผู้บริโภค เงินเฟ้อทำให้ค่าใช้จ่ายครัวเรือน เช่น อาหาร พลังงาน ที่อยู่อาศัยและการขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างเฉียบพลันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"
(ที่มา : เอเอฟพี)