ราคาน้ำมันดิ่งลงกว่า 5% ในวันจันทร์ (9 พ.ค.) และวอลล์สตรีทปิดลบหนัก ท่ามกลางความกังวลจีนล็อกดาวน์สกัดโควิด-19 และแนวโน้มเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย ในขณะที่ทองคำขยับลงหนักสุดในรอบ 1 สัปดาห์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 6.68 ดอลลาร์ ปิดที่ 103.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 6.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 105.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันโลกสั่นคลอนจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในขณะที่มาตรการล็อกดาวน์สกัดโควิด-19 ที่กว้างขวางขึ้นและเข้มงวดยิ่งขึ้นของจีน ก่อความวิตกอาจนำมาซึ่งการส่งออกชะลอตัวในชาติเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของโลกในเดือนเมษายน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (9 พ.ค.) ปิดลบหนัก นำโดยหุ้นที่มีการเติบโตสูง นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ
ดาวโจนส์ ลดลง 653.67 จุด (1.99 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 32,245.70 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 132.10 จุด (3.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,991.24 จุด แนสแดค ลดลง 521.41 จุด (4.29 ปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,623.25 จุด
นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับแนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่มีความจำเป็นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วธนาคารกลางแห่งนี้ปรับขึ้นดอกเบี้ยมากถึง 0.50%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในจีน หลังจากพบเคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นเร็วๆ นี้
ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ (9 พ.ค.) ขยับลงหนักสุดในรอบ 1 สัปดาห์ นักลงทุนหันไปถือครองดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ แทนโลหะมีค่าชนิดนี้ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 24.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,858.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์)