รอยเตอร์รายงาน (7 มิ.ย.) รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันอังคารว่าจะขอให้ครัวเรือนและ บริษัทต่างๆ ประหยัดพลังงานไฟฟ้าให้มากที่สุดในช่วงฤดูร้อนที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดเพื่อบรรเทาปัญหาไฟฟ้าขัดข้องที่อาจเกิดขึ้น
มาตรการดังกล่าวถูกกำหนดในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคาร โดยคาดว่า 3 ภูมิภาค รวมถึงโตเกียว กำลังการผลิตไฟฟ้าลดลงในเดือนกรกฎาคม ระดับซึ่งอาจเกิดปัญหาการขาดแคลนพลังงานและไฟฟ้าดับ
“เราจะใช้ทุกมาตรการที่เป็นไปได้เพื่อให้แน่ใจว่ามีอุปทาน รวมทั้งการเริ่มเปิดโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน การจัดหาเชื้อเพลิงเพิ่มเติม และการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานนิวเคลียร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด” โคอิจิ ฮากิอุดะ รัฐมนตรีอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นกล่าวในการแถลงข่าว
คำขออนุรักษ์พลังงานแห่งชาติของรัฐบาลมีขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2558 และมีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน ในช่วงเวลานี้ประชาชนจะถูกขอให้ปิดไฟที่ไม่จำเป็นและตั้งเครื่องปรับอากาศที่อุณหภูมิ 28 องศาเซลเซียส
อุปทานพลังงานของญี่ปุ่นตึงตัวท่ามกลางการกลับมาเปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อย่างช้าๆ ขณะที่ทยอยปิดโรงไฟฟ้าพลังความร้อนหลายแห่งซึ่งหมดอายุแล้ว ส่วนหนึ่งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)
ประเทศต่างๆ ที่ขาดแคลนทรัพยากรยังเผชิญกับความเสี่ยงของการขาดแคลนเชื้อเพลิงฟอสซิล อันเนื่องมาจากการจัดหาเชื้อเพลิง เช่น ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากรัสเซีย หยุดชะงัก ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน และตะวันตกขยายวงกว้างคว่ำบาตรมอสโก
เจ้าหน้าที่คาดว่าการจ่ายไฟฟ้าในญี่ปุ่นจะเข้มงวดมากขึ้นในช่วงฤดูหนาว (ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์) โดยกำลังการผลิตส่วนเกินโดยประมาณจะลดลงต่ำกว่า 3% ใน 7 จาก 10 ภูมิภาคทั้งหมด รวมถึงพื้นที่โตเกียว ซึ่งคาดว่าจะลดลงต่ำกว่า 0%
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นซึ่งเป็นชาติที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานในปริมาณสูง กำลังอยู่ในช่วงทศวรรษการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด หลังแผ่นดินไหวและสึนามิปี 2011 ทำให้รัฐบาลปิดเตาปฏิกรณ์ทั้งหมด 54 แห่ง ครอบคลุมการจ่ายไฟฟ้าประมาณ 30% ของทั้งประเทศ เหลือดำเนินการต่อเพียง 10 แห่ง ปัจจุบันพลังงานนิวเคลียร์จ่ายไฟฟ้าน้อยกว่า 10% ที่เหลือถูกแทนที่ด้วยแหล่งก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และพลังงานแสงอาทิตย์
