ไม่ถึงเวลา! อียูยังไม่มีแผนห้ามนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย

การพูดคุยหารือในอียู ในเรื่องเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมที่จะกำหนดเล่นงานรัสเซีย ตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน ยังไม่นับรวมการแบนนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากมอสโก จากการเปิดเผยของ ปาโอโล เจนติโลนี ประธานด้านเศรษฐกิจคณะกรรมาธิการยุโรป

ในให้สัมภามษณ์กับ La Stampa หนังสือพิมพ์อิตาลี ที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ (4 มิ.ย.) เจนติโลนี บอกว่าแม้ยังไม่มีมาตรการลงโทษใดที่ถูกถอดออกจากโต๊ะพิจารณา "แต่วันนี้ ยังไม่มีการพูดถึงการปิดกั้นการส่งออกก๊าซ"

เขาเน้นว่าสหภาพยุโรปกำลังหาทางสร้างสมดุลที่เหมาะสม ระหว่างการทำร้ายเศรษฐกิจของรัสเซียให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ กับการลดผลกระทบทางอ้อมที่มีต่อบรรดาชาติสมาชิกที่เหลือน้อยที่สุด

เจติโลนี ยอมรับว่ามาตรการคว่ำบาตรส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับอียูเช่นกัน แม้ทางกลุ่มดำเนินการต่างๆ ในความพยายามลดผลกระทบ แต่กระนั้นเขาเชื่อว่าสมาชิกไม่มีทางเลือกอื่น ยกเว้นแต่ตอบโต้ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน "ด้วยอาวุธทางเศรษฐกิจ"

อย่างไรก็ตาม เขาแสดงท่าทีอย่างระมัดระวัง ต่อความคิดที่เชื่อว่าสามารถเอาชนะความขัดแย้งนี้ได้ผ่านมาตรการคว่ำบาตรแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เจติโลนี กล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรรอบ 6 ของอียูที่กำหนดเล่นงานรัสเซีย ซึ่งได้รับอนุมัติเมื่อวันพฤหัสบดี (2 มิ.ย) ในนั้นรวมถึงห้ามนำเข้าน้ำมันดิบจากอียู "จะส่งผลกระทบเลวร้ายต่อเศรษฐกิจและอำนาจของรัสเซีย ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม"

นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ยูเครนร่วมด้วย โปแลนด์ และประเทศต่างๆ ในแถบบอลติก ส่งเสียงเรียกร้องให้อียูลดระดับนำเข้าก๊าซรัสเซียอย่างค่อยเป็นค่อยไป กล่าวหาอียูเท่ากับสนับสนุนการเงินกลไกในการทำสงครามของเครมลิน โดยเฉพาะเยอรมนี ถูกประเทศเหล่านี้วิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด เนื่องจากเบอร์ลินเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ก๊าซธรรมชาติรัสเซีย

แม้ระงับโครงการท่อลำเลียงก๊าซ นอร์ดสตรีท 2 ออกไปโดยไม่มีกำหนด แต่ เบอร์ลิน ไม่ได้กำหนดข้อจำกัดอื่นใดต่อการนำเข้าก๊าซรัสเซีย โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลเยอรมนีและบรรดาตัวแทนประชาคมธุรกิจของประเทศ อ้างว่าหากเยอรมนีหยุดซื้อก๊าซจากรัสเซียในทันที มันจะก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจของพวกเขาใหญ่หลวง

หลังจากห้ามนำเข้าถ่านหินจากรัสเซียช่วงต้นเดือนเมษายน เจ้าหน้าที่อียูเดินหน้าเห็นชอบข้อเสนอห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเช่นกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้มีเสียงคัดค้านอย่างดุเดือดจากฮังการี ซึ่งพึ่งพิงนำเข้าจากรัสเซียสูงลิ่ว ผ่านท่อลำเลียงดรูซบา

การตัดสินใจสำคัญๆ ลักษณะดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์จาก 27 ชาติสมาชิก และท้ายที่สุดแล้วคณะกรรมาธิการยุโรปก็บรรลุข้อตกลงประนีประนอม ยกเว้นไม่ห้ามฮังการี สโลวะเกีย และสาธารณรัฐเช็ก นำเข้าน้ำมันดิบรัสเซียผ่านท่อลำเลียงแห่งนี้

ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามในคำสั่งเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ที่กำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซีย ชำระค่าก๊าซธรรมชาติเป็นรูเบิล ไม่อย่างนั้นจะถูกตัดอุปทาน

บางประเทศ ในนั้นรวมถึงเยอรมนีและอิตาลี อนุญาตให้บริษัทผู้ดำเนินการทางพลังงานของพวกเขาเปิดบัญชีสกุลเงินรูเบิลกับก๊าซพรอมแบงก์ของรัสเซีย เพื่อชำระค่าก๊าซ แต่ โปแลนด์ บัลแกเรีย ฟินแลนด์และเนเธอร์แลนด์ ไม่ยอมทำตาม ผลก็คือมอสโกตัดการส่งมอบอุปทานก๊าซที่ป้อนแก่พวกเขา

(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)