ชาติอื่นยังทำ! บัลแกเรียขอคุยอียู ส่อกลับลำยอมจ่ายค่าก๊าซรัสเซียเป็นรูเบิล

บัลแกเรียมีแผนหารือกับคณะกรรมาธิการยุโรป ในเรื่องการชำระค่าก๊าซรัสเซียเป็นสกุลเงินรูเบิล จากการเปิดเผยของอเล็กซานเดอร์ นิโคลอฟ รัฐมนตรีพลังงานระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น BTV เมื่อวันอาทิตย์ (22 พ.ค.) ส่อแววกลับลำจากจุดยืนเดิม

ก่อนหน้านี้ โซเฟียเคยปฏิเสธข้อเรียกร้องของมอสโก เกี่ยวกับกลไกการชำระเงินแบบใหม่ สำหรับบรรดาประเทศที่ไม่เป็นมิตร ที่กำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซีย

แต่ นิโคลอฟ ตั้งคำถามว่าแล้วประเทศต่างๆ อย่างเช่น บัลแกเรีย โปแลนด์ และฟินแลนด์ จะมีเหตุผลใดที่ไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องดังกล่าวของรัสเซีย ในเมื่อประเทศอย่าง เยอรมนีและอิตาลี ยินยอมเปิดบัญชีรูเบิล

นิโคลอฟ ระบุว่า เจ้าหน้าที่อียูเคยแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนแล้วว่าการชำระเงินด้วยสกุลรูเบิลนั้นเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตร ดังนั้นทางโซเฟียจึงคาดหวังว่าคณะกรรมการยุโรปจะให้คำแนะนำเพิ่มเติม

"ระดับความเป็นหนึ่งเดียวกันและความสามัคคีต้องสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หากมีข้อยกเว้น เราจะทบทวนมันและพิจารณาว่ามันจะส่งผลกระทบกับทั้งระบบอย่างไร" รัฐมนตรีพลังงานรายนี้กล่าว

ก๊าซพรอม รัฐวิสาหกิจพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย ระงับการส่งออกแก๊สไปยังบัลแกเรียและโปแลนด์ ในช่วงปลายเดือนเมษายน หลังปฏิเสธชำระค่าก๊าซเป็นรูเบิล ทั้งนี้ บัลแกเรีย พึ่งพิงก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนถึง 90% จากปริมาณการนำเข้าก๊าซทั้งหมด ส่วนที่เหลือนั้นมาจากอาเซอร์ไบจาน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เยอรมนีและอิตาลียอมให้บริษัทต่างๆ ของประเทศเปิดบัญชีสกุลเงินรูเบิลกับธนาคารก๊าซพรอมแบงก์ของรัสเซีย ปฏิบัติตามกลไกใหม่สำหรับชำระค่าก๊าซธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการถูกตัดอุปทาน

จากรายงานของรอยเตอร์ระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากอียู หลังมีการปรึกษาหารือกับคณะกรรมาธิการยุโรป และไม่ถูกพิจารณาว่าเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ ที่อียูกำหนดเล่นงานรัสเซียต่อกรณีรุกรานยูเครน

คณะกรรมาธิการยุโรปได้ออกคำแนะนำที่ปรับใหม่ แล้วส่งไปยังชาติสมาชิกเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม โดยเนื้อหาที่ปรับปรุงใหม่ระบุไว้ว่าบริษัทต่างๆ ต้องทำให้ชัดเจนว่าพวกเขามีเจตนาในการปฏิบัติตามข้อบังคับภายใต้สัญญาที่มีอยู่ และถือว่าได้ทำตามข้อกำหนดครบแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งชำระค่าก๊าซด้วยเงินสกุลยูโร หรือดอลลาร์สหรัฐ

คำแนะนำของคณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า "มาตรการคว่ำบาตรของอียู ไม่ได้ขัดขวางผู้ประกอบการจากการเปิดบัญชีธนาคารหนึ่งในธนาคารที่กำหนดไว้ เพื่อชำระเงินภายใต้สัญญาต่างๆ สำหรับจัดหาก๊าซธรรมชาติ ด้วยสกุลเงินที่ระบุในในสัญญา" คณะกรรมาธิการกล่าว "พวกผู้ประกอบการควรแสดงเจตนาอย่างชัดเจนว่าพวกเขามีความตั้งใจทำตามเงื่อนไขของสัญญาต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และพิจารณาว่าได้ทำตามภาระผูกพันในเรื่องของการชำระหนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ด้วยการจ่ายเงินเป็นยูโรหรือดอลลาร์ ตามกรอบของสัญญาที่มีอยู่"

ในคำแนะนำใหม่นี้ไม่ได้ห้ามบริษัทต่างๆ เปิดบัญชีธนาคารกับก๊าซพรอมแบงก์ และจะช่วยให้พวกเขาซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียตามกรอบมาตรการคว่ำบาตรที่อียูกำหนดเล่นงานรัสเซียต่อกรณีรุกรานยูเครน แต่มันไม่ได้พูดถึงข้อบังคับของมอสโกที่ขอให้เปิดบัญชีที่ 2 ในสกุลเงินรูเบิล ซึ่งมันมีความจำเป็นตามคำสั่งฉบับหนึ่งของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เพื่อให้การชำระเงินนั้นเสร็จสมบูรณ์

(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)