รัฐมนตรีพลังงานของประเทศในสหภาพยุโรปจะประชุมฉุกเฉินกันวันนี้ (2 พ.ค.) เพื่อความเป็นเอกภาพในการรับมือรัสเซียที่ยื่นคำขาดให้ผู้ซื้อในยุโรปจ่ายค่าก๊าซธรรมชาติเป็นสกุลรูเบิล ไม่อย่างนั้นจะตัดการส่งมอบ หลังเพิ่งทำตามคำขู่ด้วยการระงับป้อนก๊าซแก่บัลแกเรียและโปแลนด์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
รัสเซียระงับส่งก๊าซธรรมชาติป้อนแก่บัลแกเรียและโปแลนด์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังทั้ง 2 ชาติไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องที่ขอให้ชำระค่าก๊าซเป็นสกุลเงินรูเบิล
ประเทศเหล่านี้มีแผนที่จะหยุดใช้ก๊าซของรัสเซียอยู่แล้วในปีนี้ และบอกว่าพวกเขาสามารถรับมือกับการหยุดจ่ายก๊าซได้ อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของรัสเซียก่อความกังวลว่าประเทศอื่นๆ ของอียู ในนั้นรวมถึงเยอรมนี ชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของอียู ที่ต้องพึ่งพิงก๊าซเป็นอย่างมากอาจเป็นรายต่อไป
นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวตัดก๊าซธรรมชาติ ยังเสี่ยงก่อรอยร้าวแก่ความร่วมไม้ร่วมมือของอียูในการเล่นงานรัสเซีย ท่ามกลางความเห็นต่างเกี่ยวกับแนวทางที่ถูกต้อง
ในขณะที่บริษัทยุโรปหลายแห่งกำลังเผชิญกับเส้นตายชำระค่าก๊าซธรรมชาติอีกรอบในช่วงปลายเดือนนี้ รัฐสมาชิกของอียูกำลังถูกกดดันให้ระบุอย่างชัดเจนว่าบริษัททั้งหลายยังคงสามารถซื้อพลังงานรัสเซียต่อไปได้หรือไม่ โดยไม่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของอียูที่กำหนดเล่นงานมอสโกต่อกรณีรุกรานยูเครน
มอสโกระบุว่า พวกผู้ซื้อก๊าซต่างชาติต้องฝากเงินยูโรหรือดอลลาร์เข้าไปในบัญชีของตนเองที่เปิดไว้กับก๊าซพรอมแบงก์ ธนาคารของรัสเซียซึ่งจะทำหน้าที่เปลี่ยนมันเป็นรูเบิล
คณะกรรมาธิการยุโรปบอกกับประเทศต่างๆ ว่าการปฏิบัติตามกลไกของรัสเซียอาจละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของอียู พร้อมกับแนะนำประเทศต่างๆ ว่าพวกเขาสามารถชำระเงินสอดคล้องกับมาตรการคว่ำบาตร หากพวกเขาประกาศว่าการชำระหนี้เสร็จสมบูรณ์แล้วตั้งแต่ตอนที่พวกเขาจ่ายด้วยสกุลเงินยูโร ก่อนที่มันจะถูกเปลี่ยนเป็นสกุลรูเบิล
บัลแกเรีย เดนมาร์ก กรีซ โปแลนด์ สโลวะเกีย และประเทศอื่นๆ เรียกร้องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขอให้ชี้แจงคำแนะนำนี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และเวลานี้คณะกรรมาธิการยุโรปบอกว่ากำลังอยู่ระหว่างร่างคำแนะนำเพิ่มเติม
รัสเซียไม่มีปัญหากับคำแนะนำดังกล่าว
บัลแกเรียและโปแลนด์ปฏิเสธให้ความร่วมมือกับข้อเรียกร้องของรัสเซีย แต่เยอรมนีทำตามแนวทางขัดตาทัพของคณะกรรมาธิการยุโรป อนุญาตให้บริษัทต่างๆ ชำระเงิน ส่วนฮังการี แนะนำให้พวกผู้ซื้อทำตามกลไกของรัสเซีย
การชำระเงินด้วยสกุลเงินรูเบิลสามารถมอบที่กำบังแก่เศรษฐกิจรัสเซียจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตร ในขณะที่รายได้จากพลังงานสามารถมอบแรงสนับสนุนทางการเงินแก่สิ่งที่พวกเขาเรียกว่าปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารในยูเครน
บรรดาประเทศยุโรปชำระค่าก๊าซและน้ำมันแก่รัสเซียไปแล้วมากกว่า 45,000 ล้านยูโร นับตั้งแต่มอสโกเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จากผลการวิจัยที่จัดทำโดยศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศบริสุทธิ์
รัสเซียป้อนอุปทานก๊าซธรรมชาติคิดเป็นสัดส่วน 40% และน้ำมันคิดเป็นสัดส่วน 26% ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมดของอียู ตัวเลขการพึ่งพาระดับสูงที่ทำให้จนถึงตอนนี้มีแรงขัดขืนต่อเสียงเรียกร้องขอให้ระงับนำเข้าพลังงานของรัสเซียในทันที เนื่องจากกังวลว่ามันจะก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจ
คณะผู้แทนของอียูเปิดเผยหลังการประชุมระหว่างคณะกรรมาธิการยุโรปกับบรรดาประเทศสมาชิกอียูเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนหน้าการประชุมในสัปดาห์นี้ ว่า อียูกำลังมุ่งหน้าสู่การแบนนำเข้าน้ำมันรัสเซียอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงสิ้นปี
บรรดาผู้แทนทูตจะหารือกัน ณ ที่ประชุมในวันพุธ (4 พ.ค.) เกี่ยวกับแพกเกจคว่ำบาตรรอบ 6 ของอียูที่จะกำหนดเล่นงานมอสโก ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการร่างของคณะกรรมาธิการยุโรป
ในส่วนของที่ประชุมของรัฐมนตรีพลังงานในวันจันทร์ (2 พ.ค.) จะมีการหารือเกี่ยวกับความจำเป็นเร่งด่วนในการหาอุปทานก๊าซธรรมชาติที่ไม่ใช่ของรัสเซียและหาทางเติมเต็มคลังสำรองเช่นกัน ในขณะที่ประเทศต่างๆ ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับคลื่นความช็อกทางอุปทาน
แต่ละประเทศมีระดับการพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติรัสเซียแตกต่างกัน แต่พวกนักวิเคราะห์มองว่าการตัดก๊าซรัสเซียโดยสิ้นเชิงในทันทีจะฉุดเศรษฐกิจชาติต่างๆ ในนั้นรวมถึงเยอรมนี ดำดิ่งสู่ภาวะถดถอยและอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการฉุกเฉินต่างๆ เพื่อรับมือ ในนั้นรวมถึงปิดโรงงาน
มีรายงานว่าทางคณะกรรมาธิการยุโรปจะเปิดเผยแผนการหนึ่งในเดือนนี้ ในการเลิกพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซียภายในปี 2027 ในนั้นรวมถังการยกระดับใช้พลังงานหมุนเวียนและปรับปรุงอาคารต่างๆ ให้ใช้พลังงานน้อยลง
(ที่มา : รอยเตอร์)