xs
xsm
sm
md
lg

รัสเซียรุกคืบหน้า ใกล้ปิดล้อมกองทหารยูเครนใน 2 เมืองสำคัญที่ดอนบาส ด้าน 'เซเลนสกี้' ฉุน 'คิสซิงเจอร์ -นิวยอร์กไทมส์' เสนอยกดินแดนให้มอสโกแลกยุติสงคราม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพถ่ายจากโดรนในวันพฤหัสบดี (26 พ.ค.) แสดงให้เห็นอาคารที่ถูกทิ้งร้างภายหลังถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ ในเมืองครามาตอรสก์ ภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของยูเครน
ทัพรัสเซียที่กำลังรุกเข้ามาเกือบที่จะโอบล้อมกองทหารยูเครนในบริเวณภาคตะวันออกเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่ยูเครนผู้หนึ่งยอมรับในวันพฤหัสบดี (26 พ.ค.) ขณะที่ “เซเลนสกี” เรียกร้องตะวันตกให้ความช่วยเหลือ “แบบไม่จำกัดและปราศจากข้อยกเว้น” โดยเฉพาะอาวุธหนักเพื่อให้ประเทศของเขาชนะสงคราม นอกจากนั้นผู้นำเคียฟยังประณามอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ และ นิวยอร์กไทมส์ ที่แนะนำให้เสียสละดินแดนเพื่อยุติความขัดแย้งกับมอสโก

กองทัพรัสเซียซึ่งกำลังรุกหนักเพื่อยึดครองภูมิภาคดอนบาสอย่างเด็ดขาด ทุ่มทหารหลายพันคนเปิดการรุกจาก 3 ด้านเพื่อโอบล้อมกองกำลังฝ่ายยูเครนในเมืองซีวีโรโดเนตสก์ และเมืองลีซีชานสก์ ซึ่งเป็นเมืองแฝดที่อยู่คนละฟากแม่น้ำซีเวอร์สกีย์โดเนตสก์ โดยหากยึดไปได้สำเร็จจะเท่ากับว่าแคว้นลูฮันสก์เกือบทั้งหมดตกอยู่ในความควบคุมของฝ่ายมอสโก ทั้งนี้ดอนบาส ประกอบด้วย 2 แคว้น คือ ลูฮันสก์ และโดเนตสก์

นายพลโอเลกซีย์ โกรมอฟ รองเจ้ากรมยุทธการของคณะเสนาธิการใหญ่ยูเครน กล่าวในวันพฤหัสฯ ว่า “รัสเซียรุกคืบหน้าเข้ามา แต่เรากำลังทำทุกอย่างที่เราสามารถทำได้” ในสมรภูมิในพื้นที่นั้น

ขณะที่ เซียร์ฮีย์ กาย์เดย์ ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ บอกว่า ทหารรัสเซียราว 50 คนได้ไปถึงทางหลวงที่ออกมาจากเมืองซีวีโรโดเนตสก์ และเมืองลีซีชานสก์ สายสุดท้ายซึ่งรัสเซียยังควบคุมไม่ได้ และได้พยายามจัดตั้งด่านตรวจขึ้นมา ทว่าถูกฝ่ายยูเครนโจมตีจนต้องถอยกลับไป “นั่นก็คือว่า กองทัพรัสเซียไม่ได้ควบคุมเส้นทางดังกล่าวในเวลานี้ แต่พวกเขากำลังถล่มโจมตีหนัก” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์ที่โพสต์บนสื่อสังคม เขายังพูดเป็นนัยว่าฝ่ายยูเครนคงต้องถอยต่อไปอีก โดยบอกว่า เป็นไปได้ที่กองทหารยูเครนจะต้องทิ้ง “ชุมชนแห่งหนึ่ง บางทีอาจจะสอง เราจำเป็นที่จะต้องชนะสงคราม (ทั้งสงคราม) ไม่ใช่ (แค่) การรบ”

“ชัดเจนว่าเด็กๆ ของเรากำลังล่าถอยอย่างช้าๆ เพื่อไปยังที่มั่นซึ่งมีการป้องกันแน่นหนายิ่งขึ้น เราจำเป็นที่จะต้องสกัดกั้นฝูงใหญ่ที่บุกเข้ามา” เขากล่าว

พวกนักวิเคราะห์ทางทหารฝ่ายตะวันตกมองว่า ศึกชิงเมือง 2 แห่งนี้มีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนในสงครามคราวนี้

รัสเซียกลับมาเป็นฝ่ายรุกอย่างชัดเจน

ทีมผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ซึ่งกำลังปฏิบัติงานในดินแดนที่รัสเซึยยึดครองอยู่ซึ่งอยู่ทางด้านใต้ลงมา พบเห็นข้อพิสูจน์ยืนยันว่า มอสโกสามารถรุกคืบเข้าสู่เมืองสวิตโดดาร์สก์ ซึ่งกองกำลังยูเครนถอนตัวออกไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

เมืองเล็กๆ แห่งนี้เวลานี้อยู่ใต้การควบคุมอย่างมั่นคงของพวกนักรบโปรรัสเซีย ซึ่งเข้ายึดครองอาคารรัฐบาลท้องถิ่น และแขวนธงสีแดงมีเครื่องหมายค้อนกับเคียวในยุคโซเวียตเอาไว้ที่ประตู

คลิปถ่ายด้วยโดรนของสำนักข่าวรอยเตอร์ จากพื้นที่ซึ่งเคยเป็นสมรภูมิสู้รบที่อยู่ใกล้ๆ แสดงให้เห็นหลุมขนาดใหญ่หลายสิบหลุม กลางท้องทุ่งสีเขียวและรายล้อมด้วยอาคารต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่พวกนักรบโปรรัสเซียกำลังขุดสนามเพลาะ

การรุกคืบหน้าในดอนบาสในระยะไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดขึ้นภายหลังการยอมจำนนของพวกนักรบยูเครนกลุ่มสุดท้ายในมืองมาริอูโปลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และบ่งชี้ให้เห็นว่าเกิดการปรับเปลี่ยนโมเมนตัมในสนามรบแล้ว หลังจากที่ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อน กองกำลังฝ่ายยูเครนเป็นฝ่ายรุกในพื้นที่ใกล้ๆ เมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ไมเคิล คอฟแมน ผู้อำนวยการด้านรัสเซียศึกษา อยู่ที่กลุ่มคลังสมอง CNA ซึ่งตั้งสำนักงานอยู่ในสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า การที่ฝ่ายรัสเซียกลับมาเป็นฝ่ายบุกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ถือเป็นตัวกระตุกให้หยุดความคาดหวังที่ว่าฝ่ายยูเครนกำลังจะมีชัยในระยะใกล้ๆ นี้

เขาเขียนด้วยว่า กองทหารรัสเซียได้ตีฝ่าแนวรบของยูเครนที่โปปัสนา ทางด้านใต้ของเมืองซีวีโรโดเนตสก์ และกำลังคุกคามว่าจะสามารถเข้าโอบล้อมกองกำลังยูเครนได้

คอฟแมน บอกต่อไปว่า การที่รัสเซียตีฝ่าแนวรบที่โปปัสนา ได้นี้ จะเป็นการคุกคามที่มั่นโดยรวมของยูเครนขนาดไหนนั้น ขึ้นอยู่กับว่ากองกำลังฝ่ายรัสเซียสามารถสร้างโมเมนตัมขึ้นมาได้หรือไม่

ในส่วนของ วาดิม เดนิเซนโก ที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทยยูเครน กล่าวในการแถลงสรุปสถานการณ์ว่า ทหารรัสเซีย 25 กองพันกำลังพยายามที่จะเข้าโอบล้อมกองกำลังฝ่ายยูเครน

เพียงเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน กองกำลังฝ่ายยูเครนต่างหากที่กำลังรุกบีบหน้า กำลังผลักดันกองทหารรัสเซียให้ออกไปจากพื้นที่ด้านนอกของเมืองคาร์คิฟ และถอยร่นไปทางพรมแดนรัสเซีย แต่มอสโกดูเหมือนสามารถยุติการล่าถอยที่แนวรบตรงนั้นได้ และยังคงรักษาดินแดนแนวแคบๆ ยาวไปตามเขตชายแดนเอาไว้ได้ และป้องกันไม่ให้กองทหารยูเครนสามารถเข้าโจมตีตัดเส้นทางส่งเสบียงของฝ่ายรัสเซีย ซึ่งผ่านพื้นที่ด้านตะวันออกติดกับคาร์คิฟ ก่อนเข้าสู่ดอนบาส

ในวันพฤหัสฯ มีเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้งในบริเวณใจกลางเมืองคาร์คิฟ ขณะที่กองกำลังฝ่ายรัสเซียสามารถยันฝ่ายยูเครนเอาไว้ และรักษาที่มั่นในหมู่บ้านต่างๆ บริเวณด้านเหนือของเมืองเอาไว้ได้ ผู้ว่าการ โอเลห์ ซีเนฮูบอฟ กล่าวว่า การสาดปืนใหญ่ของรัสเซียทำให้มีผู้ถูกสังหารไป 4 คน

การรุกคืบหน้าในดอนบาส ได้รับการหนุนหลังจากการที่รัสเซียใช้พวกปืนใหญ่ยิงถล่มอย่างวินาศสันตะโร โดยที่กองทัพยูเครนแถลงว่า มีเมืองต่างๆ กว่า 40 แห่งในดอนบาสถูกยิงใส่อย่างหนักในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันเดียวกันนั้น ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน กล่าวในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัม ในดาวอส ว่า ยูเครนต้องการระบบจรวดหลายลำกล้องอย่างมากเพื่อรับมืออาวุธของรัสเซียในสมรภูมิดอนบาส

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ขานรับจากกรุงเคียฟว่า ยูเครนต้องการความช่วยเหลืออย่างไม่จำกัดและปราศจากข้อยกเว้นจากพันธมิตรเพื่อเอาชนะในสงครามกับรัสเซีย

เขายังตำหนินานาชาติที่ใส่ใจกับผลประโยชน์ของรัสเซียมากเกินไป และสนใจผลประโยชน์ของยูเครนน้อยมาก โดยเขาพุ่งเป้าไปที่เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ ที่แนะนำว่า ยูเครนอาจจำเป็นต้องเสียสละดินแดนบางส่วนเพื่อยุติสงครามครั้งนี้

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่คิสซิงเจอร์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในวัย 98 ปี ไปกล่าวในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัมในสัปดาห์นี้ว่า การฟื้น “สถานะดั้งเดิม” ก่อนรัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ อาจเป็นความคิดในอุดมคติ

ทว่า การบีบให้มอสโกคืนไครเมียที่เข้าผนวกตั้งแต่ปี 2014 หรือดินแดนในโดเนตสก์และลูฮันสก์ที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซียควบคุมมานานหลายปี จะทำให้การสู้รบขัดแย้งคราวนี้กลายเป็นสงครามใหม่ที่ขยายวงกว้างขึ้น คิสซิงเจอร์สำทับว่า จำเป็นต้องเริ่มต้นการเจรจาภายใน 2 เดือน

ทว่า เซเลนสกีตอบโต้ว่า ปฏิทินของคิสซิงเจอร์คงยังเป็นปี 1938 ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่ฝ่ายตะวันตกยอมอ่อนข้อทำข้อตกลงที่เมืองมิวนิก โดยยกดินแดนบางส่วนของเชโกสโลวะเกียให้นาซีเยอรมัน ด้วยความหวังว่าจะทำให้นาซีเยอรมันพอใจ แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ นาซียังคงเปิดศึกรุกคืบต่อมาอีกไม่ยอมหยุด

ขณะเดียวกัน นิวยอร์ก ไทมส์ เขียนบทบรรณาธิการเมื่อวันที่ 19 เดือนนี้ ระบุว่า ความหวังที่ยูเครนจะได้ดินแดนที่ถูกยึดไปก่อนเดือนกุมภาพันธ์คืนนั้นไม่มีทางเป็นจริง และเสริมว่า การเจรจาในท้ายที่สุด ผู้นำยูเครนจะต้องตัดสินใจอย่างเจ็บปวดเนื่องจากต้องยอมประนีประนอมเรื่องดินแดน

ทั่วโลกกังวลจะเกิดปัญหาขาดแคลนอาหาร

ความสนใจของทั่วโลกในสัปดาห์นี้ โฟกัสที่เรื่องรัสเซียปิดล้อมเมืองต่างๆ ริมทะเลดำของยูเครน ซึ่งทำให้ยูเครนที่เป็นหนึ่งในประเทศส่งออกธัญญาหารและน้ำมันปรุงอาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก ต้องระงับการส่งออก

พวกประเทศตะวันตกกล่าวโทษว่า มอสโกกำลังแบล็กเมล์พวกประเทศยากจน ด้วยการสร้างเหตุทำให้เกิดวิกฤตอาหารระดับโลกขึ้นมา ขณะที่รัสเซียตอบโต้ว่าตนพร้อมที่จะเปิดท่าเรือเหล่านี้ ทว่าฝ่ายตะวันตกต้องยกเลิกมาตรการแซงก์ชันที่ใช้เล่นงานตนเสียก่อน ทั้งในเรื่องการห้ามส่งออกและการทำธุรกรรมทางการเงิน

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น