รัสเซียเผยมีนักรบยูเครนในโรงงานเหล็กอาซอฟสตัลยอมจำนนเพิ่มอีกกว่า 700 คน รวมในรอบสัปดาห์นี้มีนักรบที่ยอมวางอาวุธแล้ว 1,730 คน นอกจากนั้น มอสโกยังคุยว่า ได้นำอาวุธเลเซอร์ทรงพลังรุ่นใหม่มาใช้ต่อกรกับอาวุธที่ตะวันตกระดมส่งให้เคียฟ ขณะ “เซเลนสกี” เย้ยว่าเป็นแค่โฆษณาชวนเชื่อ
กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเมื่อวันพฤหัสฯ (19 พ.ค.) ว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีนักรบกรมทหารอาซอฟในโรงงานเหล็กอาซอฟสตัล ของเมืองมาริอูโปล ยอมจำนนอีก 771 คน ทำให้จำนวนรวมทั้งสิ้นนับจากวันที่ 16 อยู่ที่ 1,730 คน โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ 80 คน
แม้ยูเครนสั่งให้นักรบในอาซอฟสตัลวางอาวุธเพื่อรักษาชีวิต แต่ เดนิส ปุชชิลิน ผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซียที่ควบคุมพื้นที่ดังกล่าวระบุเมื่อวันพุธ (18) ว่า ผู้บัญชาการระดับสูงของนักรบยูเครนในอาซอฟสตัล ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายในมาริอูโปล ยังคงอยู่ภายในโรงงานดังกล่าว
ทางด้านยูเครนปฏิเสธที่จะกล่าวถึงชะตากรรมของนักรบเหล่านั้นอย่างเปิดเผย โดยโอเลกซานดร์ โมตูเซนิก โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุว่า รัฐบาลกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือนักรบยูเครน ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนอาจเป็นอันตรายต่อกระบวนการนี้
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานเมื่อวันพฤหัสฯ โดยอ้างการเปิดเผยของปุชชิลิน ว่า นักรบยูเครนกว่าครึ่งออกจากอาซอฟสตัลแล้ว
ทว่า ทางยูเครนยังยืนยันจำนวนนักรบที่ยอมจำนนว่า มีเพียงกว่า 250 คนเมื่อวันอังคาร (17) แต่ไม่ได้เปิดเผยว่า ยังมีนักรบอยู่ในอาซอฟสตัลอีกกี่คน
มาริอูโปลเป็นเมืองใหญ่ที่สุดที่รัสเซียยึดได้ และทำให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย สามารถอวดอ้างชัยชนะที่มอสโกได้มาน้อยมากนับจากที่เปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
ขณะนี้ฝ่ายตะวันตกระบุวาโฟกัสของกองกำลังอาวุธฝ่ายรัสเซียเวลานี้อยู่ที่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน หลังจากต้องถอยร่นจากเมืองหลวงเคียฟ ที่อยู่บริเวณภาคเหนือ โดยที่ล่าสุดสถานการณ์ในเคียฟกลับคืนสู่ภาวะปกติมากขึ้น สถานเอกอัครราชทูตอเมริกันเริ่มเปิดดำเนินการอีกครั้งเมื่อวันพุธ เช่นเดียวกับอีกสถานเอกอัครราชทูตของหลายประเทศก่อนหน้านี้ เช่น แคนาดา และอังกฤษ
รายงานระบุว่า กองกำลังอาวุธฝ่ายรัสเซียยังคงโจมตีอย่างหนักเพื่อพยายามยึดดินแดนในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งอยู่ทางตะวันออกสุดของยูเครนเพิ่มขึ้นอีก เจ้าหน้าที่ยูเครนแถลงเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า การโจมตีของรัสเซียโฟกัสที่แคว้นโดเนตสก์ และอ้างว่ากองกำลังรัสเซียสูญเสียหนักมากรอบๆ เมืองสโลเวียนสก์จนถึงตอนเหนือของเมืองโดเนตสก์
โอเลกซี อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยว่า ทีมก่อวินาศกรรมของยูเครนได้ระเบิดรางรถไฟในเมืองเมลิโตโปล ก่อนที่รถไฟหุ้มเกราะของกองทัพรัสเซียจะผ่านไปถึง แม้ว่ากองกำลังปกป้องดินแดนของยูเครนออกคำแถลงก่อนหน้านั้นอ้างว่าสามารถระเบิดทำลายรถไฟรัสเซีย
นอกจากนั้น เมื่อวันพุธ รัสเซียยังระบุว่า ได้งัดอาวุธลับมาจัดการกับอาวุธที่ตะวันตกระดมส่งให้เคียฟ คืออาวุธเลเซอร์ทรงพลังรุ่นใหม่ที่ปูตินเคยกล่าวถึงเมื่อปี 2018 โดยเรียกว่า เปเรสเวต ตามชื่ออเล็กซานเดอร์ เปเรสเวต บาทหลวงนิกายออร์โธดอกซ์และนักรบในยุคกลางที่เสียชีวิตในการต่อสู้
ยูริ บอริซอฟ รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียที่รับผิดชอบการพัฒนากองทัพ แถลงในมอสโกว่า ได้นำเปเรสเวตไปใช้งานแล้วอย่างกว้างขวาง โดยอาวุธเลเซอร์รุ่นใหม่นี้สามารถโจมตีและทำลายดาวเทียมซึ่งโคจรอยู่เหนือโลกที่ระดับความสูง 1,500 กิโลเมตร
เขาเสริมว่า ขณะนี้มีระบบที่ทรงพลังกว่าเปเรสเวตที่สามารถเผาทำลายโดรนและอุปกรณ์อื่นๆ โดยอ้างอิงการทดสอบเมื่อวันอังคาร (17) ที่โดรนที่อยู่ห่าง 5 กิโลเมตรถูกเผาเป็นจุณภายในเวลาเพียง 5 วินาที
บอริซอฟยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า รัสเซียได้นำอาวุธต้นแบบไปใช้ในยูเครนแล้วชื่อว่า ซาดิรา
ทว่า เซเลนสกีกลับเยาะมอสโกโดยเปรียบเทียบข่าวนี้กับอาวุธมหัศจรรย์ของนาซีเยอรมนีที่ประกาศงัดออกมาใช้เพื่อไม่ให้ตัวเองพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2
ผู้นำยูเครนสำทับว่า ยิ่งโอกาสในสงครามหดเหี้ยนลงไปเท่าไร รัสเซียก็ยิ่งระดมโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับอาวุธมหัศจรรย์ที่ทรงพลังถึงขั้นทำให้สงครามถึงจุดเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้นเท่านั้น
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)