แก๊สรัสเซียที่ไหลไปยังยุโรปโดยผ่านยูเครน มีปริมาณลดลงไปราวหนึ่งในสี่เมื่อวันพุธ (11 พ.ค.) หลังจากเคียฟระงับไม่ให้ใช้เส้นทางขนส่งผ่านดินแดนของตนเส้นหนึ่ง โดยประณามว่าเพราะถูกกองทหารรัสเซียแทรกแซง นอกจากนั้น ยูเครนอ้างว่า สามารถชิงคืนหลายพื้นที่จากรัสเซีย และคุยว่าอาจหมายถึงจุดเปลี่ยนของสงคราม ด้านหน่วยข่าวกรองอเมริกาชี้ปูตินวางแผนทำศึกยืดเยื้อ และจะไม่ได้หยุดอยู่ที่ดอนบาสเท่านั้น
ยูเครนยังคงเป็นเส้นทางสำคัญเส้นหนึ่งในการส่งแก๊สจากรัสเซียไปยังยุโรป แม้หลังการบุกเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ประกาศว่า เป็นปฏิบัติการพิเศษทางทหารก็ตาม
เส้นทางที่ยูเครนสั่งปิดคราวนี้ ปกติแล้วใช้ขนส่งแก๊สรัสเซียซึ่งผ่านไปให้ยุโรปในปริมาณราวๆ 8% ส่วนใหญ่ส่งไปยังออสเตรีย อิตาลี สโลวะเกีย และชาติยุโรปตะวันออกอื่นๆ ถึงแม้รัฐต่างๆ ในยุโรปเวลานี้ยังระบุว่าพวกเขายังคงได้รับแก๊สกันเป็นปกติ
รัฐวิสาหกิจก๊าซปรอมของรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้คุมกิจการส่งออกแก๊สรัสเซียผ่านทางสายท่อส่ง แถลงว่า ตนยังคงส่งแก๊สไปให้ยุโรปผ่านยูเครน ทว่าเห็นปริมาณการส่งลดเหลือ 72 ล้านลูกบาศก์เมตรในวันพุธ (11) จาก 95.8 ล้านลูกบาศก์เมตรในวันอังคาร
ขณะที่ GTSOU ผู้ดำเนินการระบบสายท่อแก๊สในยูเครนประกาศวันอังคาร (10) ว่า จะระงับการส่งแก๊สผ่านจุดขนส่งโซครานิฟกา เนื่องจากถูกกองกำลังรัสเซียที่ยึดครองพื้นที่ดังกล่าวแทรกแซงการทำงาน โดยจะไปส่งผ่านอีกพื้นที่ที่ยูเครนครอบครองอยู่แทน
การประกาศดังกล่าวส่งผลให้คำขอส่งแก๊สรัสเซียผ่านโซครานิฟกาในวันพุธลดลงเหลือศูนย์
ในอีกด้านหนึ่ง เทเทียนา อาปัตเชนโก เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของกองกำลังยูเครนในแคว้นคาร์คีฟ เผยว่า ยูเครนสามารถชิงคืนหมู่บ้าน 4 แห่งทางเหนือของคาร์คีฟ ทว่า ยังคงมีการสู้รบดุเดือด
เจ้าหน้าที่อีกคนของยูเครนสำทับว่า กองกำลังรัสเซียพยายามขัดขวางไม่ให้ทหารยูเครนเคลื่อนเข้าใกล้เขตแดนคาร์คีฟ อีกทั้งพยายามยึดเมืองรูบิซนีให้ได้เบ็ดเสร็จ
นอกจากนี้ กองกำลังยูเครนยังระบุว่า ได้โจมตีเป้าหมาย 9 แห่งทางใต้ของประเทศ และสังหารทหารรัสเซีย 79 นาย
ส่วนที่แคว้นเบลโกร็อดในเขตแดนรัสเซีย ผู้ว่าการระบุว่า จะคงการเตือนภัยความมั่นคงระดับ 2 ต่อไปจนถึงวันที่ 25 หลังจากมีการโจมตีเป็นระยะจากฝั่งยูเครน
การตอบโต้ของยูเครนใกล้คาร์คีฟ ทำให้มีการระบุว่าอาจเป็นสัญญาณว่า สงครามกำลังเข้าสู่ขั้นตอนใหม่
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ความสำเร็จของยูเครนกำลังผลักดันกองกำลังรัสเซียออกจากคาร์คีฟอย่างช้าๆ แต่สำทับว่า คนยูเครนต้องไม่สร้างสถานการณ์ที่มีความกดดันด้านกำลังใจมากเกินไปจากการคาดหวังว่า ประเทศจะได้ชัยชนะในเร็ววันหรือไม่กี่สัปดาห์
นอกจากนั้น ยังคงมีรายงานว่ารัสเซียยังเดินหน้าถล่มแคว้นซูมี และเชอร์นิฮีฟที่อยู่ใกล้พรมแดนหมีขาว รวมถึงแคว้นไมโคเลฟที่ติดกับทะเลดำ และเพิ่มกำลังพลบนเกาะงูที่เผชิญการต่อต้านอย่างหนักจากยูเครนในช่วงแรกของการรุกราน
ด้านกระทรวงกลาโหมอังกฤษระบุว่า ถ้ารัสเซียกระชับพื้นที่ในบริเวณนั้นได้อาจได้ครอบครองด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลดำ กระนั้น การคุ้มครองกองเรือที่จัดหาเสบียงและอาวุธของรัสเซียทางด้านตะวันตกของทะเลดำลดระดับลงต่ำมาก หลังจากกองทัพเรือรัสเซียล่าถอยกลับไปไครเมียหลังสูญเสียเรือธง “มอสควา”
ขณะเดียวกัน แอฟริล เฮนส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ ประเมินว่า ปูตินกำลังเตรียมทำสงครามระยะยาว และเป้าหมายไม่ได้อยู่ที่ภูมิภาคดอนบาสเท่านั้น ทว่า ประมุขเครมลินต้องการสร้างดินแดนเชื่อมต่อจากไครเมียที่เข้าผนวกในปี 2014 กับพื้นที่ยึดครองของรัสเซียในมอลโดวา
ส่วนหนึ่งที่จะทำให้เป้าหมายดังกล่าวสัมฤทธิผลคือ การยึดมาริอูโปลซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ และยังมีนักรบยูเครนซ่อนอยู่ในโรงงานเหล็กอาซอฟสตัลราว 1,000 นาย
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า รัสเซียยังคงถล่มอาซอฟสตัลหนักหน่วงเพื่อยึดโรงงานดังกล่าวที่เป็นที่มั่นสุดท้ายของนักรบยูเครนในเมืองมาริอูโปล
เฮนส์ สำทับว่า กำลังพลปัจจุบันของรัสเซียอาจไม่มากหรือแข็งแกร่งพอยึดดินแดนที่ต้องการ แต่มีแนวโน้มมากขึ้นที่ปูตินจะระดมพลทั่วประเทศ รวมทั้งประกาศกฎอัยการศึก และฝากความหวังไว้กับความพยายามของตนเองในการบ่อนทำลายการสนับสนุนของตะวันตกต่อยูเครน
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)