สงครามของรัสเซียในยูเครน "อยู่ในทางตันเล็กน้อย" และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ดูเหมือนกำลังเตรียมการสำหรับความขัดแย้งระยะยาว จากความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองระดับสูงของสหรัฐฯ ในวันอังคาร (10 พ.ค.)
รัสเซียเปิดฉากในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" ส่งกำลังพลไหลบ่ารุกรานยูเครนครั้งใหญ่เมื่อเดือนที่แล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ทางตะวันออกของเคียฟ อย่างไรก็ตาม การรุกคืบของพวกเขาเป็นไปอย่างช้าๆ
ปฏิบัติการจู่โจมกรุงเคียฟของรัสเซียต้องล่าถอยในเดือนมีนาคม หลังถูกตีโต้กลับจากพวกผู้ขัดขืนยูเครน
พล.ท.สกอตต์ เบอร์เรียร์ หัวหน้าสำนักงานข่าวกรองกลาโหม กล่าวระหว่างให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการอาวุธของวุฒิสภา ว่า "รัสเซียไม่ได้เป็นฝ่ายกำลังได้รับชัยชนะ และยูเครนก็ไม่ได้กำลังได้รับชัยชนะ เราอยู่ในทางตันเล็กน้อย" เขากล่าวพร้อมอ้างว่าจนถึงตอนนี้ มีนายทหารระดับนายพลของรัสเซียเสียชีวิตในความขัดแย้งนี้ไปแล้วราว 8 ถึง 10 นาย
จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอนระบุว่าแม้รัสเซียไม่ได้รุกคืบครั้งใหญ่ใดๆ ในแคว้นดอนบาส แต่ทหารของมอสโกกำลังมีความคืบหน้าเพิ่มมากขึ้น
สงครามคร่าชีวิตพลเรือนไปแล้วหลายพันราย ประชาชนชาวยูเครนหลายล้านคนต้องหลบหนี และเมืองต่างๆ เหลือแต่ซากหักพัง
ในการปราศรัยระหว่างพิธีสวนสนามครั้งใหญ่ที่กรุงมอสโกเมื่อวันจันทร์ (9 พ.ค.) เนื่องในวันแห่งชัยชนะเหนือนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 ประธานาธิบดีปูติน ไม่ได้เอ่ยถึงแผนยกระดับการโจมตีในยูเครน แม้ว่าชาติตะวันตกจะคาดเดาว่าผู้นำรัสเซียอาจถือโอกาสนี้สั่งเรียกระดมพลในระดับชาติเพื่อทำสงคราม
อย่างไรก็ตาม เอฟริล เฮนส์ ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวระหว่างให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาชุดเดียวกัน ว่าชัยชนะของรัสเซียในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครนอาจไม่ใช่จุดจบของสงคราม
"เราประเมินว่าประธานาธิบดีปูตินกำลังเตรียมการทำสงครามยืดเยื้อในยูเครน เขายังคงมีความตั้งใจบรรลุุเป้าหมายที่เกินกว่าภูมิภาคดอนบาส" เฮนส์ กล่าว
เธออ้างด้วยว่าสหรัฐฯ มีข้อบ่งชี้ต่างๆ ที่ว่ารัสเซียต้องการขยายสะพานแผ่นดินเชื่อมกับภูมิภาคทรานส์นีสเตรีย ประกาศเเยกตัวออกมาจากมอลโดวา "เมื่อรวมกับความจริงที่ว่าปูติน กำลังเผชิญความลักลั่นระหว่างความทะเยอทะยานของเขากับแสนยานุภาพทางทหารในปัจจุบันของรัสเซีย ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราอาจได้เห็นวิถีโคจรที่คาดเดาไม่ได้และเป็นไปได้ที่มันจะลุกลามบานปลาย"
ตะวันตกมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงของสงครามนิวเคลียร์ หลัง ปูติน เปิดฉากรุกรานในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พร้อมกับคำปราศรัยที่อ้างถึงกองกำลังนิวเคลียร์ของรัสเซีย และเตือนว่าความพยายามใดๆ ในการขวางทางรัสเซีย "จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่คุณไม่เคยประสบมาก่อนในประวัติศาสตร์ของคุณ"
รัสเซียระบุเมื่อเดือนที่แล้ว ว่า พวกเขามีแผนประจำการขีปนาวุธข้ามทวีปซาร์มัตที่เพิ่งผ่านการทดสอบมาสดๆ ร้อนๆ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ในขณะที่อาวุธดังกล่าวมีศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์และโจมตีได้ไกลถึงสหรัฐฯ
เมื่อถูกถามถึงแนวโน้มที่ ปูติน จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ เบอร์เรียร์ ตอบว่า "ณ ตอนนี้เราไม่เห็นสิ่งนั้น" ขณะที่ เฮนส์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ประชาคมข่าวกรองเชื่อว่า ปูติน จะอนุมัติใช้อาวุธนิวเคลียร์ก็ต่อเมื่อเขาแลเห็นว่ารัสเซียกำลังเผชิญภัยคุกคาม
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ออกมาแสดงความกังวลในวันจันทร์ (9 พ.ค.) ว่าประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียอาจจะหาทาง “จบ” สงครามยูเครนไม่ได้ ซึ่งตัวเขาเองก็กำลังคิดหาวิธีว่าจะทำอย่างไรต่อไป
(ที่มา : รอยเตอร์)