xs
xsm
sm
md
lg

สงครามยูเครนเข้าสู่เดือนที่ 3 บลิงเคน-ออสตินได้ฤกษ์เยือนเคียฟ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - เคียฟเตรียมพร้อมให้การต้อนรับ 2 รัฐมนตรีสำคัญของอเมริกาที่เลือกกำหนดการเยือนในช่วงที่สงครามยูเครนเริ่มเข้าสู่เดือนที่ 3 ท่ามกลางการสู้รบที่ยังคงดุเดือด และทำลายความหวังในการทำข้อตกลงหยุดยิงในช่วงเทศกาลอีสเตอร์

การเดินทางเยือนของแอนโทนี บลิงเคน และลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมอเมริกาตามลำดับในวันอาทิตย์ (24 เม.ย.) ยังมีขึ้นขณะที่ความพยายามล่าสุดในการอพยพพลเรือนออกจากเมืองมาริอูโปลเมื่อวันเสาร์ (23 เม.ย.) ล้มเหลว และสถานการณ์ของพลเมืองและนักรบยูเครนหลายร้อยคนที่หลบภัยอยู่ในอุโมงค์ใต้โรงงานเหล็กขนาดใหญ่ในเมืองดังกล่าวสิ้นหวังมากขึ้น หลังจากกองทัพรัสเซียหวนกลับมาโจมตีทางอากาศเข้าใส่โรงงานแห่งนี้

ที่ผ่านมา ผู้นำยุโรปหลายคนเดินทางไปเคียฟและพบกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี เพื่อตอกย้ำการสนับสนุนยูเครน แต่อเมริกา ผู้นำการบริจาคเงินและอาวุธ ยังไม่เคยส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปยูเครนเลย

ขณะเดียวกัน เซเลนสกีที่เป็นผู้ประกาศข่าวการมาเยือนครั้งนี้ ยังย้ำข้อเรียกร้องในการพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียเพื่อยุติสงคราม แต่สำทับว่า เคียฟจะล้มเลิกการเจรจา ถ้ากองทัพมอสโกสังหารทหารยูเครนที่เหลืออยู่ในมาริอูโปล

ทั้งนี้ ยูเครนระบุว่า ทหารและพลเรือนหลายร้อยคนหลบภัยอยู่ในโรงงานเหล็ก และย้ำข้อเรียกร้องในการหยุดยิงเพื่ออพยพพลเรือนอย่างปลอดภัย และเสริมว่า พลเรือนเหล่านี้จำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงอาหารหรือน้ำหรือเข้าถึงได้น้อยมาก

เซเลนสกียังวิจารณ์การตัดสินใจของแอนโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่เตรียมไปเยือนมอสโกในวันอังคาร (26 เม.ย.) ก่อนเดินทางต่อไปเคียฟ

สำหรับสถานการณ์การสู้รบนั้น เซเลนสกีระบุว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มอาคารที่พักอาศัยในเมืองโอเดสซา ริมทะเลดำ ทำให้ชาวยูเครนเสียชีวิต 8 คน ซึ่งรวมถึงทารกวัย 3 เดือน

ทางด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยว่า ได้โจมตีคลังอาวุธต่างชาติใกล้โอเดสซา รวมทั้งยังกล่าวหาว่า หน่วยรบพิเศษของยูเครนในเมืองนี้กำลังเตรียม “ก่อการยั่วยุโดยใช้สารเคมีอันตราย” และโยนความผิดให้รัสเซีย

ทั้งนี้ มหาอำนาจตะวันตกกล่าวหามอสโกว่า กุเรื่องในลักษณะนี้เพื่อปกปิดหรือเบี่ยงเบนความสนใจไปจากการวางแผนโจมตีของตนเอง

นอกจากนั้น ยังมีการโจมตีเมืองคาร์คีฟทางตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน ระลอกใหม่เมื่อคืนวันเสาร์

อย่างไรก็ตาม โอเลก ไซเนกูบอฟ ผู้ว่าการเขตคาร์คีฟ โพสต์บนเทเลแกรมว่า กองทัพยูเครนสามารถชิงหมู่บ้าน 3 แห่งใกล้ชายแดนรัสเซียคืนมาได้ หลังจากการสู้รบดุเดือดที่มีประชาชนเสียชีวิต 2 คน

ทางด้านเซียร์กี ไกเด ผู้ว่าการเมืองลูฮันสก์ที่อยู่ใกล้กัน เผยว่า มีการโจมตีด้วยปืนใหญ่ตลอดเวลา และเรียกร้องให้ประชาชนที่อยู่ใกล้แนวรบ “อพยพถ้ายังมีโอกาส”

การสู้รบนี้มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ พล.อ.รัสแทม มินเนเคฟ นายทหารอาวุโสของรัสเซีย ประกาศว่า ปฏิบัติการพิเศษเฟส 2 เริ่มต้นขึ้นแล้ว และหนึ่งในภารกิจของกองทัพรัสเซียคือ การเข้าควบคุมดอนบาส และพื้นที่ทางใต้ของยูเครนแบบเบ็ดเสร็จเพื่อสร้างเส้นทางเชื่อมต่อทางบกกับไครเมียที่มอสโกเข้าผนวกตั้งแต่ปี 2014 และอาจรวมถึงทรานส์นิสเตรีย หรือพื้นที่ที่แยกตัวจากมอลโดวา ที่มินเนเคฟอ้างว่า ประชาชนที่พูดภาษารัสเซียถูกกดขี่ข่มเหง

ขณะเดียวกัน สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น ระบุว่า คณะตัวแทนยูเอ็นที่เดินทางไปยังเมืองบูชาของยูเครนได้จัดทำรายงานที่ระบุว่า มีการฆาตกรรมโดยผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการรวบรัดประหารชีวิตพลเรือนราว 50 คนในเมืองดังกล่าว อีกทั้งระบุว่า กองทัพรัสเซียปูพรมโจมตีด้วยปืนใหญ่และระเบิดต่อบริเวณที่เป็นที่พักอาศัย ทำให้พลเรือนเสียชีวิต ทำลายโรงพยาบาล โรงเรียน และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือนอื่นๆ ซึ่งอาจถือเป็นอาชญากรรมสงคราม
กำลังโหลดความคิดเห็น