ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในวันพุธ (13 เม.ย.) ออกมาเยาะเย้ยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่อ้างว่าสงครามรุกรานประเทศของเขานั้นกำลังเป็นไปตามแผน ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าสหรัฐฯ เตรียมมอบความช่วยเหลือด้านการทหารแก่เคียฟอีก 750 ล้านดอลลาร์ สำหรับนำไปเปิดศึกยืดเยื้อกับมอสโก
ปูติน กล่าวเมื่อวันอังคาร (12 เม.ย.) ว่ารัสเซียจะประสบความสำเร็จทุกเป้าหมายขั้นสูง และกำลังเดินหน้าอย่างเป็นจังหวะและสุขุมเยือกเย็นในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร"
ในข้อมูลอัปเดตหลังสุด มอสโกอ้างเมื่อวันที่ 25 มีนาคม มีทหารของพวกเขาเสียชีวิต 1,351 นายนับตั้งแต่สงคราม แต่ยูเครนระบุว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะเฉียดๆ 20,000 นาย
เซเลนสกี กล่าวปราศรัยผ่านวิดีโอว่า "ในรัสเซีย เป็นอีกครั้งที่บอกว่า ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารตามที่พวกเขาเรียก กำลังเป็นไปตามแผน แต่ด้วยความสัตย์จริง ไม่มีใครในโลกนี้เข้าใจด้วยซ้ำว่าแผนนั้นเกี่ยวกับอะไร" ผู้นำยูเครนกล่าว "มันเป็นแผนมอบความตายแก่ทหารของตนเองหลายหมื่นนายในช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือนงั้นหรือ ใครกันที่อนุมัติแผนเช่นนี้?"
ผู้นำยูเครนตั้งคำถามว่าต้องให้ทหารรัสเซียเสียชีวิตอีกมากแค่ไหนถึงปูตินจะยอมรับ จะหลักหมื่นนายหรือแสนนาย "มอสโกสูญเสียทหารในช่วง 48 วันนับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น มากกว่าช่วงเวลา 10 ปีของสงครามอัฟกานิสถาน ระหว่างปี 1979 ถึง 1989 เสียอีก"
เซเลนสกีบอกว่า แม้มีเสียงล้อเลียนฝ่ายรัสเซีย จากความล้มเหลวในสมรภูมิรบและต่อเทคโนโลยีที่ด้อยกว่า แต่เตือนว่ารัสเซียไม่ได้เสียขวัญกำลังใจไปทั้งหมด "เราต้องตระหนักว่าไม่ใช่รถถังของรัสเซียทุกคันที่ติดแหง็กในสมรภูมิ ไม่ใช่ทหารศัตรูทุกนายที่หลบหนีสนามรบ และพวกเขาไม่ได้เป็นทหารเกณฑ์กันทุกนาย ทหารเกณฑ์ที่ไม่รู้จักใช้อาวุธอย่างเหมาะสม"
"อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเกรงกลัวพวกเขา แต่มันหมายความว่าเราต้องไม่ลดเป้าหมายของนักรบของเรา ของทหารของเรา" เซเลนสกี กล่าว
ความเคลื่อนไหวของเซเลนสกี มีขึ้นในขณะที่ ยูเครน แจ้งให้ รัสเซีย ปล่อยตัวเชลยศึก หากต้องการให้พันธมิตรในยูเครนรายหนึ่ง ซึ่งมีความใกล้ชิดกับเครมลินมากที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันถูกควบคุมตัวในยูเครน ได้รับการปล่อยตัว และมีรายงานข่าวว่าสหรัฐฯ เตรียมส่งมอบอาวุธแก่เคียฟเพิ่มเติม หลังรัสเซียส่งสัญญาณชัดเจนที่สุดว่าสงครามจะลากยาวต่อไป
ยูเครน แถลงเมื่อวันอังคาร (12 เม.ย.) ว่า วิคตอร์ เมดเวดชุค มหาเศรษฐีนักการเมืองและหัวหน้าพรรคฟอร์ไลฟ์ พรรคฝ่ายค้านในยูเครน ที่มีแนวคิดสนับสนุนรัสเซียและต่อต้านขั้วอำนาจเก่าในยุโรป ถูกจับกุมแล้ว เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าเขาได้หลบหนีออกจากการกักบริเวณ หลังมีการเปิดพิจารณาคดีตามข้อกล่าวหากบฏ
เมดเวดชุค ซึ่งเคยบอกว่า วลาดิมีร์ ปูติน เป็นพ่อทูนหัวของลูกสาวของเขา ปฏิเสธคำกล่าวหา โดยยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำผิดใดๆ
เซเลนสกีเผยภาพของเมดเวดชุค อยู่ในสภาพผ่ายผอมในชุดลายพราง และถูกสวมกุญแจมือ ผู้นำยูเครนกล่าวว่า เขายื่นข้อเสนอไปยังผู้นำรัสเซียและทำเนียบเครมลิน ว่า หากต้องการให้เมดเวดชุคได้รับอิสรภาพ ก็ขอให้รัฐบาลมอสโกปล่อยตัวเชลยศึก โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นผู้หญิงและเด็ก
"ผมเสนอไปยังสหพันธรัฐรัสเซีย แลกเปลี่ยนชายคนนี้กับหนุ่มๆ และเด็กผู้หญิงของเรา ที่อยู่ภายใต้การควบคุมตัวของรัสเซียในเวลานี้" เซเลนสกีกล่าวปราศรัยในตอนเช้าวันพุธ (13 เม.ย.)
สำนักข่าวทาสส์ นิวส์ รายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์กับโฆษกวังเครมลิน ระบุว่าเขาเห็นภาพถ่ายดังกล่าวแล้ว แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นภาพจริงหรือไม่
ในขณะเดียวกัน ทางสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร เผยว่าพวกเขากำลังตรวจสอบรายงานข่าวต่างๆ ที่อ้างว่ารัสเซียใช้อาวุธเคมีในยูเครน
เซเลนสกีกล่าวถึงเรื่องนี้ในวันพุธ (13 เม.ย) มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสรุปอย่างชัดเจน 100% ว่ามีการใช้อาวุธเคมีในมาริอูโปลหรือไม่ เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบอย่างเหมาะสม
กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ไม่ตอบคำถามของรอยเตอร์ที่ติดต่อสอบถามขอความเห็น ส่วนกบฏแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียสนับสนุนทางภาคตะวันออกของยูเครน ยืนกรานปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้อาวุธเคมีในมาริอูโปล
การผลิต ใช้และกักตุนอาวุธเคมี เป็นสิ่งต้องห้ามภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี ปี 1997
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ให้คำนิยามการโจมตียูเครนของรัสเซีย ในฐานะ "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" เป็นครั้งแรกเมื่อวันอังคาร (12 เม.ย). พร้อมระบุว่า "เราจะปล่อยให้พวกทนายความตัดสินใจในระดับสากลว่ามันเข้าข่ายหรือไม่ แต่สำหรับผม ผมมั่นใจว่ามันดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น"
ท่ามกลางการสู้รบที่ส่อแววลากยาวออกไป แหล่งข่าว 2 คน เปิดเผยกับรอยเตอร์ คาดหมายว่าสหรัฐฯ เตรียมแถลงมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน เพิ่มเติมอีก 750 ล้านดอลลาร์ ในนั้นรวมถึงระบบปืนใหญ่หนักต่อสู้ภาคพื้น ซึ่งรวมถึงปืนใหญ่อัตตาจร
"เรามีความต้องการเร่งด่วนสำหรับอาวุธหนักเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซียกระทำโหดร้ายป่าเถื่อนไปมากกว่านี้" เซเลนสกีเขียนบนทวิตเตอร์ พร้อมยกย่อง ไบเดน ที่ให้คำจำกัดความการรุกรานยูเครนของรัสเซียว่าเป็น "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"
(ที่มา : รอยเตอร์)