เซเลนสกีเชื่อรัสเซียไม่หยุดแค่ยูเครน คาดเล็งเป้าหมายรุกรานทั่วพื้นที่ยุโรป

เอเจนซีส์ - ผู้นำยูเครน ระบุว่า รัสเซียจะไม่หยุดอยู่ที่ยูเครนเท่านั้น แต่มีเป้าหมายรุกรานครอบคลุมยุโรปทั้งหมด และการยุติสงครามในยูเครนคือสิ่งสำคัญสำหรับความมั่นคงของประเทศประชาธิปไตยทั้งมวล

ในการปราศรัยเมื่อคืนวันเสาร์ (9 เม.ย.) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า การรุกรานของรัสเซียไม่ได้จำกัดอยู่ที่ยูเครนเท่านั้น แต่รวมถึงทั้งทวีปยุโรป และนี่คือเหตุผลที่ประเทศประชาธิปไตยและมหาอำนาจในยุโรปทั้งหมดควรสนับสนุนความต้องการสันติภาพของเคียฟ

การปราศรัยนี้มีขึ้นขณะที่ชาวยูเครนยังคงอพยพออกจากพื้นที่ต่างๆ ก่อนที่รัสเซียจะเปิดฉากถล่มรอบใหม่ และพนักงานดับเพลิงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตในเมืองทางเหนือ หลังจากที่ทหารรัสเซียถอนกำลังออกไป นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยูเครนยังเผยว่า พบหลุมศพที่มีร่างพลเรือนหลายสิบคนในหมู่บ้านบูโซวา ใกล้เคียฟ ซึ่งเป็นการค้นพบล่าสุดหลังจากที่กองกำลังรัสเซียถอนออกจากเคียฟ และเปลี่ยนเป้าหมายการโจมตีไปที่ภาคตะวันออกของยูเครนแทน

เซเลนสกียังขอบคุณผู้นำอังกฤษและออสเตรียที่ไปเยือนเคียฟเมื่อวันเสาร์ พร้อมร้องขอการสนับสนุนเพิ่ม รวมทั้งขอบคุณประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และนายกรัฐมนตรีแคนาดา สำหรับการจัดกิจกรรมระดมทุนจากทั่วโลก ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนกว่า 10,000 ล้านยูโร เพื่อช่วยเหลือชาวยูเครนที่ต้องทิ้งบ้านหนีสงคราม

ผู้นำยูเครนย้ำการเรียกร้องให้คว่ำบาตรก๊าซและน้ำมันรัสเซียที่เป็นที่มาของ “ความมั่นใจในตัวเองและการลอยนวลของมอสโก” โดยสิ้นเชิง

ทั้งนี้ หลังจากเปิดฉากบุกมากว่า 6 สัปดาห์ รัสเซียเริ่มถอนกำลังออกจากตอนเหนือของยูเครน พื้นที่รอบเคียฟ และเบนเป้าหมายไปที่เขตดอนบาสทางตะวันออก โดยภาพถ่ายดาวเทียมของแม็กซาร์เผยให้เห็นขบวนรถทหารรัสเซียยาว 13 กม. มุ่งหน้าลงใต้ไปสู่ดอนบาส

นักวิเคราะห์ทางการทหารของตะวันตกระบุว่า รัสเซียสามารถควบคุมดินแดนในภาคตะวันออกของยูเครนตั้งแต่คาร์คีฟที่เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ทางด้านเหนือ จดเมืองเคอร์สันทางใต้

อย่างไรก็ตาม จากการประเมินของตะวันตกเชื่อว่า กองกำลังรัสเซียในเคอร์สันกำลังถูกตีโต้กลับ และกองกำลังยูเครนกำลังรุกไล่รัสเซียในพื้นที่อื่นๆ ในดอนบาส ซึ่งพลเมืองส่วนใหญ่พูดภาษารัสเซีย

นอกจากนั้น เซเลนสกียังระบุว่า การโจมตีสถานีรถไฟครามาทอร์สก์ด้วยขีปนาวุธเมื่อวันศุกร์ (8 เม.ย.) ที่มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 52 คน และบาดเจ็บกว่า 100 คน เป็นตัวอย่างล่าสุดของอาชญากรรมสงครามของกองกำลังรัสเซีย ขณะที่มอสโกปฏิเสธความรับผิดชอบ

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยูเครนคาดว่า อาจพบการสังหารหมู่เพิ่มนอกเหนือจากในเมืองบูชา หากสามารถเข้าถึงเมืองมาริอูโพลในเขตดอนบาสได้ หลังจากเมืองดังกล่าวถูกปิดล้อมและถล่มหนักมากว่าเดือน เนื่องจากเมืองนี้ที่ตั้งอยู่ริมทะเลอาซอฟ เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างการเชื่อมต่อทางบก จากคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียเข้ายึดและผนวกเมื่อ 8 ปีก่อน กับเขตดอนบาส

ยูเครนเฝ้าเรียกร้องมหาอำนาจตะวันตกเกือบทุกวันให้ส่งอาวุธเพิ่ม และลงโทษรัสเซียหนักขึ้นด้วยมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งรวมถึงการตัดธนาคารรัสเซียจากระบบการเงินโลก และขอให้สหภาพยุโรป (อียู) คว่ำบาตรน้ำมันและก๊าซรัสเซียโดยสิ้นเชิง

ระหว่างเยือนเคียฟเมื่อวันเสาร์ คาร์ล เนแฮมเมอร์ นายกรัฐมนตรีออสเตรีย คาดหวังว่า อียูจะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย แต่ปกป้องจุดยืนของออสเตรียในการยังไม่ยกเลิกการนำเข้าก๊าซรัสเซีย ถึงกระนั้น เขายอมรับว่าตราบที่ยังมีประชาชนล้มตาย การคว่ำบาตรทั้งหมดถือว่ายังไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ออสเตรียเป็นประเทศเป็นกลางทางทหารและไม่ได้เป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้)

ส่วนการเยือนของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากลอนดอนประกาศจัดหาอาวุธล้ำสมัยให้ยูเครนเพิ่มเป็นมูลค่า 100 ล้านปอนด์ จอห์นสันยังย้ำว่า จะให้การสนับสนุนทางเศรษฐกิจเพิ่ม รับประกันการให้สินเชื่อจากธนาคารโลกแก่ยูเครนอีก 500 ล้านดอลลาร์ รวมมูลค่าเงินกู้ที่อังกฤษค้ำประกันให้ยูเครนเป็น 1,000 ล้านดอลลาร์

นอกจากนั้น เมื่อวันศุกร์ อียูยังประกาศมาตรการแซงก์ชันรัสเซียระลอกใหม่ ครอบคลุมการแบนการนำเข้าถ่านหิน ไม้ เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ แต่ยังไม่แตะต้องการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย