ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (18 ก.พ.) ว่า ตนเชื่อแน่ว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้ “ตัดสินใจ” แล้วที่จะบุกยูเครนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังมีสัญญาณเตือนจากการที่กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออกเริ่มสั่งให้พลเรือนอพยพออกนอกพื้นที่
วิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดในยุคหลังสงครามเย็นนี้มีที่มาที่ไปจากการที่รัสเซียต้องการยับยั้งไม่ให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) และกล่าวหาชาติตะวันตกว่า “หวาดกลัวไปเอง” ว่ามอสโกจะบุกยูเครน ในขณะที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรมองว่า คำพูดดังกล่าวสวนทางกับการที่รัสเซียเสริมกำลังทหารปิดล้อมชายแดนยูเครนอยู่ในตอนนี้
เสียงไซเรนเตือนภัยดังกึกก้องทั่วภูมิภาคโดเนตสค์ (Donetsk) และลูกานสค์ (Luhansk) ในวันศุกร์ (18) หลังจากที่แกนนำกบฏยูเครนตะวันออกประกาศให้พลเรือนหลายแสนคนอพยพเข้าไปยังฝั่งรัสเซีย
“เรามีเหตุผลที่จะเชื่อว่ากองทัพรัสเซียกำลังเตรียมการ และตั้งใจที่จะบุกยูเครนในสัปดาห์หน้า หรืออีกไม่กี่วันข้างหน้า” ไบเดน แถลงต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาว พร้อมย้ำว่ารัสเซียมีเป้าหมายในการยึด “กรุงเคียฟ” ด้วย
“ณ ขณะนี้ ผมเชื่อว่าเขา (ปูติน) ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว”
ค่ำวันเดียวกัน หน่วยข่าวกรองของกองทัพยูเครนระบุว่า หน่วยรบพิเศษรัสเซียได้นำ “ระเบิด” ไปติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในโดเนตสค์ และขอให้ประชาชนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ขณะที่หน่วยข่าวกรองของรัฐบาลรัสเซีย (FSB) ยังไม่ออกมาให้ความเห็นใดๆ ในเรื่องนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามเรื่องที่แกนนำกบฏยูเครนสั่งอพยพพลเรือน เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว ตอบว่า นี่คือ “ตัวอย่างที่ชัดเจน” ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสิ่งที่วอชิงตันกังวลนั้นมีมูล
“เราได้คาดการณ์เอาไว้นานแล้วว่า รัสเซียจะต้องสร้างสถานการณ์หรือเตรียมการบางอย่างเพื่อนำไปสู่สงคราม สร้างความสับสน หรือไม่ก็ปล่อยข่าวลวงในพื้นที่” เธอกล่าว
หลังมีคำสั่งอพยพออกมาแค่ไม่กี่ชั่วโมง ก็เกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่ด้านนอกสำนักงานรัฐบาลของฝ่ายกบฏในเมืองโดเนตสค์ ซึ่งสื่อรัสเซียระบุว่ารถจี๊ปคันดังกล่าวเป็นของเจ้าหน้าที่ฝ่ายกบฏคนหนึ่ง
ประชาชนส่วนใหญ่ในดินแดนซึ่งพูดภาษารัสเซียเป็นหลักนี้ได้รับ “สัญชาติรัสเซีย” เป็นที่เรียบร้อย และภายในไม่กี่ชั่วโมงก็มีคนจำนวนมากทยอยขึ้นรถบัสเพื่ออพยพไปยังรัสเซีย ขณะที่ฝ่ายกบฏรายงานว่ามีประชาชนที่จะอพยพประมาณ 700,000 คน
รัสเซียได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเพื่อยืนยันว่ากำลังมีการถอนทหารออกจากพรมแดนที่ติดกับยูเครน แต่สหรัฐฯ กลับระบุว่าที่จริงแล้วรัสเซีย “เสริม” กำลังทหารเข้าไปเพิ่ม จนตอนนี้มีมากถึง 169,000-190,000 นาย จากราวๆ 100,000 นายเมื่อปลายเดือน ม.ค.
ที่มา : รอยเตอร์