xs
xsm
sm
md
lg

ปักกิ่งประณามบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค มะกันโอเคอัปเกรด ‘จรวดแพทริออต’ ให้ไต้หวัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ภาพจากแฟ้ม) หน่วยขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่อากาศ “แพทริออต” ของไต้หวัน เข้าร่วมการสวนสนามในวันชาติสาธารณรัฐจีนที่นครไทเป เกาะไต้หวัน เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2007 ทั้งนี้คณะบริหารไบเดนเพิ่งอนุมัติข้อตกลงเพื่ออัปเกรดระบบอาวุธนี้ ซึ่งมีมูลค่าราว 100 ล้านดอลลาร์
อเมริกาอนุมัติโครงการจำหน่ายยุทโธปกรณ์และบริการให้แก่ไต้หวัน ที่คาดว่าจะมีมูลค่าราว 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้ไทเปดูแลรักษา ซ่อมบำรุงและปรับรุงระบบป้องกันขีปนาวุธ “แพทริออต” รับมือการคุกคามจากแดนมังกร ความเคลื่อนไหวนี้ทำให้ปักกิ่งเดือดดาลออกมาขู่ตอบโต้ พร้อมประณามว่า เป็นการบ่อนทำลายความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ตลอดจนถึงสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน

สำนักงานความร่วมมือด้านความมั่นคงด้านกลาโหมของสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันจันทร์ (7 ก.พ.) ว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ อนุมัติการจำหน่ายยุทโธปกรณ์และบริการตามที่ไต้หวันร้องขอมา และทางสำนักงานได้แจ้งให้รัฐสภาอเมริกันรับทราบแล้ว

คำแถลงยังระบุว่า การยกระดับระบบแพทริออต ซึ่งเป็นขีปนาวุธชนิดยิงจากภาคพื้นสู่อากาศ จะช่วยเพิ่มความมั่นคงให้แก่ไต้หวัน และช่วยรักษาเสถียรภาพทางการเมือง ดุลอำนาจทางทหาร เศรษฐกิจ และความก้าวหน้าในภูมิภาคดังกล่าว

“การจำหน่ายยุทโธปกรณ์และบริการครั้งนี้ยังเอื้อต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ทั้งในแง่เศรษฐกิจและความมั่นคง โดยการสนับสนุนให้ผู้รับสามารถยกระดับกองกำลังให้มีความทันสมัย และคงไว้ซึ่งศักยภาพในการป้องกันตนเองที่เชื่อถือได้” คำแถลงกล่าวต่อ

สำหรับบริษัทสหรัฐฯ ที่เป็นคู่สัญญาหลักในโครงการนี้ ได้แก่ เรย์ธีออน เทคโนโลยีส์ และล็อกฮีด มาร์ติน

ด้านกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน แถลงในวันอังคาร (8) ขอบคุณอเมริกา โดยระบุว่า ท่ามกลางการแผ่ขยายอิทธิพลทางการทหารและการดำเนินการยั่วยุอย่างต่อเนื่องของจีน ไทเปจะสามารถปกป้องความมั่นคงของชาติด้วยระบบป้องกันที่เข้มแข็ง และสานต่อการเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคงอย่างใกล้ชิดกับอเมริกา

คำแถลงสำทับว่า ข้อตกลงฉบับนี้ซึ่งเป็นข้อตกลงขายอาวุธให้ไต้หวันฉบับที่ 2 นับจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งเมื่อปีที่แล้ว และเป็นฉบับแรกของปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่มั่นคงระหว่างไต้หวันกับอเมริกา

สำหรับปฏิกิริยาจากปักกิ่ง เจ้า ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในการแถลงข่าวตามปกติเมื่อวันอังคารว่า จีนต่อต้านและประณามข้อตกลงขายอาวุธครั้งล่าสุด โดยมองว่าเป็นบ่อนทำลายความสัมพันธ์วอชิงตัน-ปักกิ่ง ตลอดจนถึงสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน และจีนจะตอบโต้อย่างชอบธรรมและเด็ดขาดเพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ ทว่าเขาไม่ได้ระบุว่าจะดำเนินการอย่างไร

ก่อนหน้านี้จีนเคยประกาศแซงก์ชันล็อกฮีด มาร์ติน และบริษัทอื่นๆ ของอเมริกาที่ขายอาวุธให้ไต้หวัน แม้ไม่มีความชัดเจนว่า ปักกิ่งใช้บทลงโทษในลักษณะใดก็ตาม

ทางด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันกล่าวว่า ไต้หวันตัดสินใจซื้อขีปนาวุธแพทริออตรุ่นอัปเดตนี้ตั้งแต่ปี 2019 ระหว่างการประชุมกับเจ้าหน้าที่ในคณะบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น และคาดว่า ข้อตกลงนี้จะมีผลภายในเดือนหน้า

ทั้งนี้ จีนภายใต้ยุคของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ดำเนินการอย่างก้าวร้าวมากขึ้นกับไต้หวัน โดยมีการเพิ่มความกดดันทั้งด้านการทหาร การทูต และเศรษฐกิจ รวมทั้งเน้นย้ำว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตนและพร้อมใช้กำลังเข้าผนวกหากจำเป็น

ปีที่ผ่านมา เครื่องบินรบจีนรุกล้ำเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันถึง 969 ครั้ง มากกว่าในปี 2020 กว่าเท่าตัว และดูเหมือนสถานการณ์ปีนี้จะไม่แตกต่างจากปีที่แล้ว โดยกระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า เครื่องบินรบจีนรุกล้ำเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน 52 ครั้งในเวลา 2 วันเมื่อเดือนมกราคม

เช่นเดียวกับประเทศส่วนใหญ่ในโลก อเมริกาไม่มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับไต้หวัน แต่ยังคงเป็นผู้สนับสนุนไต้หวันรายใหญ่ที่สุด รวมทั้งสหรัฐฯ มีกฎหมายซึ่งระบุว่าสหรัฐฯ มีหน้าที่ในการขายอาวุธให้ไต้หวันนำไปป้องกันตนเอง

ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อเมริกันพยายามผลักดันเพื่อให้ไต้หวันปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยเพื่อให้จีนโจมตีได้ยาก

ขณะที่เอกอัครราชทูตจีนประจำวอชิงตันเตือนเมื่อเดือนที่แล้วว่า อเมริกาและจีนอาจจบลงด้วยการขัดแย้งสู้รบทางทหาร ถ้าวอชิงตันยังคงเดินหน้าในแนวทางสนับสนุนให้ไต้หวันประกาศเอกราช

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น