เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ เตือนปักกิ่ง และวอชิงตันอาจมีปลายทางอยู่ที่ "สงคราม" หากว่าฝ่ายหลังยังคงยุยงให้ไต้หวันประเทศเอกราช พร้อมระบุไทเปเปรียบเสมือน "ไม้ขีดไฟ" ใหญ่ที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติ
"ถ้าเจ้าหน้าที่ไต้หวันภายใต้แรงยุยงของสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าไปบนถนนแห่งการเสาะหาเอกราช มีความเป็นไปได้อย่างที่สุดที่จีนและสหรัฐฯ 2 ประเทศยักษ์ใหญ่จะพัวพันในความขัดแย้งทางทหาร" เอกอัครราชทูตฉิน กัง ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุแห่งชาติของสหรัฐฯ (NPR) ซึ่งออกอากาศเมื่อวันศุกร์ (28 ม.ค.)
ความคิดเห็นนี้เกิดขึ้นในระหว่างที่ ฉิน กัง ให้สัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับสื่อมวลชนสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในวอชิงตันเมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน และทาง NPR เน้นว่าเอกอัครราชทูตรายนี้ยังเตือนด้วยว่าเริ่มมีคำพูดขวานผ่าซากแบบไม่ปกติจากเจ้าหน้าที่จีนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มักพูดถึงประเด็นล่อแหลมในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนแบบอ้อมๆ ยกตัวอย่างเช่น กรณี หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน บอกกับแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า "วอชิงตันควรหยุดเล่นกับไฟในประเด็นไต้หวัน"
"ขอผมพูดเน้นย้ำในเรื่องนี้" ฉินกล่าวกับ NPR "ประเด็นไต้หวันคือไม้ขีดไฟใหญ่ที่สุดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ" เขากล่าว พร้อมระบุ จีนมองว่า ไต้หวันเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของจีน และปักกิ่งขอสงวนไว้ซึ่งทางเลือกแห่งการรวมชาติผ่านการใช้กำลัง หากว่ารัฐบาลไต้หวันประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ
ฉิน ยืนยันว่ารัฐบาลจีนไม่ปรารถนาโจมตีไต้หวัน "ประชาชนของทั้งสองฝ่ายช่องแคบไต้หวันคือคนจีน ดังนั้น เราจึงเป็นเพื่อนร่วมชาติ สิ่งสุดท้ายที่เราจะทำคือสู้กับเพื่อนร่วมชาติ และเราจะทำอย่างเต็มที่ที่สุด ด้วยความจริงใจอย่างที่สุด เพื่อบรรลุเป้าหมายรวมชาติอย่างสันติ"
จุดยืนของเจ้าหน้าที่วอชิงตันในประเด็นนี้คือยังคงยึดมั่นพันธสัญญา "นโยบายจีนเดียว" นั่นหมายความว่าจะไม่รับรองไต้หวันในฐานะประเทศอธิปไตย แต่เจ้าหน้าที่เพนตากอนรายหนึ่งกล่าวระหว่างให้ปากคำกับสภาคองเกรสเมื่อปีที่แล้ว เชื่อว่าจีนมีแผนบุกยึดไต้หวันด้วยการใช้กำลัง และมองว่าการเสริมการป้องกันตนเองแก่ไต้หวันเป็นภารกิจเร่งด่วน
(ที่มา : รัสเซียทูเดย์)