xs
xsm
sm
md
lg

‘โสมแดง’ ยั่วต่อ-ยิงขีปนาวุธรอบ 4 อีก 2 ลูก ย้ำมาตรการแซงก์ชันของนานาชาติไร้น้ำยา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้คนดูโทรทัศน์ที่เสนอรายงานข่าวการยิงขีปนาวุธของเกาหลเหนือ โดยมีภาพประกอบเป็นภาพการทดสอบครั้งก่อนๆ ของโสมแดง  ณ สถานีรถไฟแห่งหนึ่งในกรุงโซล, เกาหลีใต้ เมื่อวันจันทร์ (17 ม.ค.)
เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธอีกในวันจันทร์ (17 ม.ค.) นับเป็นรอบที่ 4 นับตั้งแต่ปีใหม่ โดยเกาหลีใต้คาดเป็นขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ 2 ลูก ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุความถี่และสถานที่ทดสอบบ่งชี้ว่า โสมแดงมีขีปนาวุธมากพอสำหรับการทดสอบ ฝึกซ้อม และสาธิต นอกจากนั้น การทดสอบทุกครั้งยังเป็นการเยาะเย้ยว่า มาตรการแซงก์ชันของนานาชาติสร้างความระคายเคืองต่อรัฐบาลคิม จองอึน น้อยมาก

คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ (เจซีเอส) ออกมาแถลงเมื่อวันจันทร์ (17) ว่า เกาหลีเหนือได้ทดสอบอาวุธซึ่งคาดว่า เป็นขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ (เอสอาร์บีเอ็ม) จำนวน 2 ลูก เมื่อเวลาก่อน 9.00 น.เล็กน้อย โดยยิงจากสนามบินในกรุงเปียงยาง และขีปนาวุธไปได้ไกลราว 380 กิโลเมตร และขึ้นถึงระดับสูงสุด 42 กิโลเมตร

ทางด้านญี่ปุ่น รัฐมนตรีกลาโหม โนบูโอะ คิชิ แถลงว่า ดูเหมือนขีปนาวุธจะตกลงในมหาสมุทรใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกของเกาหลีเหนือ และสำทับว่า การดำเนินการนี้ชี้ชัดว่า เป้าหมายในการปล่อยขีปนาวุธถี่ยิบของโสมแดงคือเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีขีปนาวุธ แต่ขณะเดียวกัน การดำเนินการนี้ถือเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับนานาชาติ ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ห้ามเปียงยางพัฒนาขีปนาวุธทิ้งตัว

ขณะที่กองบัญชาการทหารภาคอินโด-แปซิฟิก ของกองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า แม้การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือไม่ถือเป็นภัยคุกคามเฉพาะหน้าต่ออเมริกาหรือพันธมิตร แต่ก็ตอกย้ำถึงผลลัพธ์ในการบ่อนทำลายเสถียรภาพจากโครงการอาวุธผิดกฎหมายของโสมแดง

ทั้งนี้ ในช่วงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธมาแล้ว 4 ครั้งรวมถึงครั้งล่าสุด โดยอวดอ้างว่า 2 ครั้งแรกเป็นการทดสอบขีปนาวุธระดับไฮเปอร์โซนิกซึ่งหมายถึงมีความเร็วเหนือเสียงตั้งแต่ 5 เท่าขึ้นไป ขณะที่การทดสอบเมื่อวันศุกร์ (14) เป็นขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ยิงจากขบวนรถไฟ

เมสัน ริชชีย์ ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยการระหว่างประเทศศึกษาฮันกุก ในกรุงโซล มองว่า จังหวะและสถานที่ทดสอบหลายแห่งบ่งชี้ว่า เกาหลีเหนือมีขีปนาวุธมากพอสำหรับการทดสอบ ฝึกซ้อม และสาธิต อีกทั้งยังช่วยตอกย้ำความน่าเชื่อถือในการป้องปรามด้วยการเน้นย้ำขนาดของกองกำลังขีปนาวุธของตน

เกาหลีเหนือยังไม่ได้ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ซึ่งเป็นขีปนาวุธทิ้งตัวประเภทที่มีพิสัยทำการไกลที่สุด ตลอดจนอาวุธนิวเคลียร์เลยนับตั้งแต่ปี 2017 แต่หลังจากการเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐฯในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ ล่มในปี 2019 เปียงยางก็เริ่มเปิดตัวและทดสอบเอสอาร์บีเอ็มรุ่นใหม่ๆ เป็นระยะ และช่วงหลังๆ ยังรวมถึงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ดูเหมือนสามารถหลบเลี่ยงระบบป้องกันขีปนาวุธซึ่งชาติต่างๆ มีกันอยู่ นอกจากนั้น โสมแดงยังประกาศเดินหน้าโครงการอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่การติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์บนเอสอาร์บีเอ็ม

ริชชีย์ เสริมว่า การทดสอบขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ทุกครั้ง ย่อมเหมือนเป็นการเยาะเย้ยมาตรการแซงก์ชันของนานาชาติว่า สร้างความระคายเคืองต่อรัฐบาลคิม จองอึน น้อยมาก รวมทั้งฟ้องว่า อเมริกาล้มเหลวในการทำให้เกาหลีเหนือต้องรับผิดชอบอย่างสาสมสำหรับการพัฒนาโครงการอาวุธต้องห้าม

สำหรับการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุด ทำให้อเมริกาออกมาประณาม แต่ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้เกาหลีเหนือกลับสู่การเจรจา เช่นเดียวกับสภาความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ที่ออกคำแถลงหลังการประชุมฉุกเฉินเมื่อวันจันทร์ว่า ขณะนี้มีความจำเป็นที่จะต้องเริ่มการเจรจาโดยเร็วที่สุดเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์และฟื้นเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันพุธที่แล้ว (12) ภายหลังการทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก 2 ครั้ง คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศออกมาตรการแซงก์ชันครั้งใหม่ต่อเปียงยาง และเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงขึ้นบัญชีดำชาวเกาหลีเหนือหลายคนและนิติบุคคลของเกาหลีเหนือหลายแห่ง

ทว่า กระทรวงการต่างประเทศโสมแดงออกคำแถลงก่อนการทดสอบขีปนาวุธเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า การกระทำของวอชิงตันเป็นการยั่วยุ และว่า ถ้าอเมริกาเลือกใช้วิธีการเผชิญหน้า เกาหลีเหนือจำเป็นต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาดยิ่งขึ้น

การยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดยังเกิดขึ้นขณะที่ดูเหมือนว่า เกาหลีเหนือซึ่งถูกโดดเดี่ยวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจากมาตรการปิดพรมแดนสกัดโควิด กำลังเตรียมเปิดการค้าข้ามพรมแดนบางส่วนกับจีน โดยสำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานว่า ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รถไฟบรรทุกสินค้าขบวนหนึ่งของเกาหลีเหนือได้ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำยาลูเข้าสู่จีนเป็นครั้งแรกในรอบกว่าปี ส่งสัญญาณว่า สองชาติอาจกลับมาเปิดเส้นทางการค้าขายทางบกหลังจากระงับไปตั้งแต่ที่โควิดเริ่มระบาดเมื่อต้นปี 2020

เลฟ อิริก อีสลีย์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาในกรุงโซล มองว่า จังหวะเวลาที่เกิดขึ้นบ่งชี้ว่า ปักกิ่งรู้เห็นเป็นใจกับการยั่วยุของเปียงยางมากขึ้น และกำลังให้การสนับสนุนด้านเศรษฐกิจและร่วมมือทางทหารกับเกาหลีเหนือ
กำลังโหลดความคิดเห็น