เกาหลีเหนือยิง "จรวดไม่สามารถระบุเอกลักษณ์" ลงสู่ทะเลตะวันออก จากคำแถลงของกองทัพเกาหลีใต้ในวันจันทร์ (17 ม.ค.) ถือเป็นการทดสอบอาวุธครั้งที่ 4 ในรอบเดือนนี้ของทางเปียงยาง ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำหนดมาตการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เสนาธิการทหารร่วมแห่งเกาหลีใต้ระบุในถ้อยแถลงว่า "เกาหลีเหนือยิงจรวดไม่สามารถระบุเอกลักษณ์ลงสู่ทะลตะวันออก" อ้างถึงทะเลญี่ปุ่น ซึ่งในเรื่องนี้หน่วยงานพิทักษ์ชายฝั่งของญี่ปุ่นก็ยืนยันเช่นกัน "ดูเหมือนเกาหลีเหนือได้ยิงจรวดออกมา มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นขีปนาวุธแบบทิ้งตัว" โฆษกหน่วยพิทักษ์ชายฝั่งของญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิถีโคจรของมัน
ในเวลาต่อมา กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า จรวดดังกล่าวสงสัยว่าเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้และถูกยิงออกจากสนามบินแห่งหนึ่งในกรุงเปียงยาง
การยิงครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นการทดสอบอาวุธครั้งที่ 4 ของเปียงยาง นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2022
เมื่อวันศุกร์ (14 ม.ค.) เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธนำวิถี 2 ลูก จากฐานยิงซึ่งติดตั้งบนขบวนรถไฟที่กำลังเคลื่อนที่ หลังจากก่อนหน้านี้ ได้ดำเนินการทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก 2 ครั้ง ในวันที่ 5 มกราคม และ 11 มกราคม
ในความเคลื่อนไหวตอบโต้การทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่าของเปียงยาง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐฯ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งทางเปียงยางบอกว่าเป็นการ "ยั่วยุ"
เกาหลีเหนือ "มีสิทธิความชอบธรรมตามกฎหมาย" ในการปกป้องตนเอง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับเคซีเอ็นเอ สื่อมวลชนแห่งรัฐ
สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรเกี่ยวกับโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกเมื่อวันพุธ (12 ม.ค.) โดยเล็งเป้าหมายเล่นงานชาวเกาหลีเหนือ 6 คน ชาวรัสเซีย 1 คน และบริษัทรัสเซียอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งทางวอชิงตันระบุว่า อยู่เบื้องหลังการจัดหาสินค้าต่างๆ จากรัสเซียและจีนสำหรับโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ
แม้ถูกมาตรการคว่ำบาตรนานาชาติเล่นงานอย่างเจ็บปวดเกี่ยวกับโครงการอาวุธของพวกเขา แต่เปียงยางยังคงเดินหน้าความทะเยอทะยานยกระดับกองทัพให้มีความทันสมัย พร้อมกับปฏิเสธตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องขอเจรจารอบใหม่ของสหรัฐฯ
ณ ที่ประชุมสำคัญหนึ่งของพรรครัฐบาลเกาหลีเหนือเมื่อเดือนที่แล้ว คิม จองอึน ประกาศเดินหน้ายกระดับศักยภาพการป้องกันประเทศ
การเจรจาระหว่างวอชิงตันกับเปียงยางยังคงหยุดชะงัก หลังการพูดคุยในปี 2019 ระหว่างคิม จองอึน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้นพังครืนลง
รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีไบเดน ประกาศซ้ำบ่อยครั้งถึงเจตนาพบปะกับเหล่าผู้แทนของเกาเหลีเหนือ เพื่อที่จะหาทางปลดนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้เปียงยางยังคงปฏิเสธข้อเสนอ และกล่าวหาวอชิงตันว่ากำลังดำเนินนโยบายต่างๆ ที่เป็น "ปรปักษ์"
(ที่มา : เอเอฟพี)
