เกาหลีเหนือยิงทดสอบสิ่งที่น่าจะเป็น “ขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้” จำนวน 2 ลูก ไปตกในทะเลนอกชายฝั่งตะวันออกเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (27 ม.ค.) ซึ่งนับเป็นการทดสอบขีปนาวุธครั้งที่ 6 แล้วสำหรับเดือนนี้
คณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ (JCS) ระบุว่า กองทัพสามารถตรวจจับการยิงขีปนาวุธทิ้งตัว 2 ลูก เมื่อเวลา 8.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ใกล้ๆ กับเมืองฮัมฮุง (Hamhung) ริมชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือ โดยขีปนาวุธดังกล่าวเดินทางไปได้ราวๆ 190 กิโลเมตร และมีเพดานบินสูงสุด 20 กิโลเมตร
ด้าน โนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์สื่อเช้านี้ (27) ว่า ขีปนาวุธทั้ง 2 ลูกดูเหมือนจะตกลงสู่ทะเลนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของญี่ปุ่น ขณะที่นายกรัฐมนตรี ฟุมิโอะ คิชิดะ ออกมาย้ำเตือนว่า หากโสมแดงทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวจริงก็นับว่าเป็นเรื่อง “น่าผิดหวังอย่างยิ่ง” และยังเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วย
เกาหลีเหนือประกาศจะยกระดับการป้องกันตนเองจากสหรัฐฯ พร้อมขู่จะพิจารณารื้อฟื้น “กิจกรรมต่างๆ ที่ถูกระงับไว้ชั่วคราว” ซึ่งคาดว่าหมายถึงการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล และอาวุธนิวเคลียร์ที่หยุดพักไปตั้งแต่เมื่อปี 4 ปีก่อน
เปียงยางเพิ่งจะยิงขีปนาวุธร่อน 2 ลูกลงทะเลไปหมาดๆ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (25) และก่อนหน้านี้ ได้ยิงทดสอบขีปนาวุธนำวิถีทางยุทธวิธี (tactical guided missiles) ขีปนาวุธ “ไฮเปอร์โซนิก” ที่สามารถเร่งความเร็วสูงและเปลี่ยนทิศทางได้ รวมไปถึงระบบขีปนาวุธซึ่งติดตั้งบนขบวนรถไฟเคลื่อนที่
“ระบอบ (คิม จองอึน) ยังคงเดินหน้าพัฒนาอาวุธที่หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะมีทรัพยากรจำกัด และเผชิญปัญหาเศรษฐกิจที่รุนแรงก็ตาม” ลีฟ-อีริค อีสลีย์ อาจารย์ด้านกิจการระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยอีฮวาในกรุงโซล ให้ความเห็น
อีสลีย์ เชื่อว่า การทดสอบบางครั้งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพใหม่ๆ โดยเฉพาะในด้านการหลบหลีกระบบป้องกันขีปนาวุธ ขณะที่ครั้งอื่นๆ อาจเพียงแค่ต้องการแสดงความพร้อมและความเก่งกาจ (versatility) ของกองกำลังขีปนาวุธที่โสมแดงมีใช้งานอยู่แล้ว
“ผู้สังเกตการณ์บางคนมองว่า ที่รัฐบาลเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธบ่อยๆ ก็เพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่อันที่จริงแล้วเปียงยางทุ่มเทอย่างมากให้กับสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นการแข่งขันด้านอาวุธกับโซล” อีสลีย์ กล่าว
ฮัน แทซอง เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำองค์การสหประชาชาติที่นครเจนีวา กล่าวต่อที่ประชุมด้านการลดอาวุธที่ยูเอ็นสนับสนุนเมื่อวันอังคาร (25) ว่า สหรัฐฯ ได้เปิดการซ้อมรบร่วมนับร้อยๆ ครั้ง อีกทั้งยังส่งยุทโธปกรณ์ไฮเทคให้เกาหลีใต้ และนำอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์เข้ามาในภูมิภาค
“นี่คือการคุกคามความมั่นคงของเราอย่างร้ายแรง” ฮัน กล่าว
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้ลงนามคำสั่งคว่ำบาตรองค์กรและเจ้าหน้าที่ของทั้งเกาหลีเหนือและรัสเซียหลายรายในเดือนนี้ โดยอ้างว่ามีส่วนให้ความช่วยเหลือแก่โครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ในขณะที่จีนและรัสเซียใช้สิทธิ “วีโต” สกัดไม่ให้สหรัฐฯ ผลักดันมติคว่ำบาตรยูเอ็นต่อชาวโสมแดงจำนวน 5 ราย
มาร์ค แลมเบิร์ต ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการญี่ป่นและเกาหลีใต้ ระบุวานนี้ (26) ว่า วอชิงตัน “ไม่มีข้อแม้” ในการเจรจากับเกาหลีเหนือ และพร้อมที่จะพบปะหารือกับเจ้าหน้าที่โสมแดง “ที่ใดก็ได้ และในประเด็นใดๆ ก็ตาม”
ที่มา : รอยเตอร์