อเมริกาเตรียมส่งทหาร 3,000 นายไปประจำในโปแลนด์และโรมาเนียเพื่อเป็นโล่ป้องกันยุโรปตะวันออกจากการทำท่าจะบุกยูเครนของรัสเซีย และขณะที่มอสโกยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นได้เผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมที่ฟ้องว่า รัสเซียกำลังสร้างสมอาวุธและทหารรอบยูเครนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังขยายกำลังพลในหลายจุดของเบลารุส ไครเมีย และด้านตะวันตกของรัสเซีย
ขณะที่รัสเซียปฏิเสธไม่ถอนทหาร 100,000 นายออกจากแนวชายแดนยูเครน อเมริกาประกาศเมื่อวันพุธ (2 ก.พ.) เตรียมส่งทหารอเมริกัน 1,000 นาย จากเยอรมนีไปโรมาเนีย และอีก 2,000 นาย ไปประจำในเยอรมนีและโปแลนด์
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงว่า การประจำการดังกล่าวจะสอดคล้องกับสิ่งที่ตนเตือนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินก่อนหน้านี้ว่า ตราบใดที่รัสเซียยังมีพฤติกรรมก้าวร้าว อเมริกาจะทำให้แน่ใจว่า สามารถรับประกันกับพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) และยุโรปตะวันออกได้ว่า พร้อมเคียงข้างช่วยเหลือ
จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สำทับว่า เป้าหมายของการดำเนินการนี้คือ ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงปูติน และทั่วโลกว่า นาโต้และพันธมิตรมีความสำคัญต่ออเมริกา
ขณะเดียวกัน การดำเนินการทางการทูตยังคงดำเนินต่อเนื่อง ถึงแม้สหรัฐฯ และบางชาติตะวันตกเช่นอังกฤษระบุว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำตามข้อเรียกร้องของรัสเซียที่ให้ฝ่ายตะวันตกให้หลักประกันด้านความมั่นคงแก่มอสโก โดยที่สำคัญคือการที่นาโต้ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรทางทหาร จะต้องไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก และไม่นำอาวุธเพื่อการรุกโจมตีไปประจำในประเทศซึ่งชายแดนติดรัสเซีย ตลอดจนถอนทหารออกจากยุโรปตะวันออก
ทำเนียบขาวเผยว่า ไบเดน และประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส หารือทางโทรศัพท์เกี่ยวกับการร่วมมือกันทางการทูตและการวางแผนแซงก์ชันทางเศรษฐกิจหนักหน่วงหากมอสโกบุกยูเครน โดยมาครงยังมีแผนหารือกับปูตินเร็วๆ นี้
ด้านประธานาธิบดีตัยยิป แอร์โดอัน ของตุรกี มีกำหนดเดินทางไปพบผู้นำยูเครนในวันพฤหัสฯ (3) หลังจากตุรกีประกาศเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งกับรัสเซีย ขณะที่นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี มีแผนบินไปพบปูตินที่มอสโกเร็วๆ นี้เช่นกัน
สำหรับเครมลินแถลงว่า ปูตินได้บอกกับนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ระหว่างหารือกันทางโทรศัพท์ในวันพุธ ว่า นาโต้ไม่ตอบสนองข้อกังวลด้านความมั่นคงของรัสเซียอย่างเหมาะสม ขณะที่ผู้นำอังกฤษย้ำกับประมุขเครมลินว่า การบุกยูเครนจะถือเป็นการคำนวณผิดพลาดอย่างร้ายแรง
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอังคาร (1) จอห์นสันกล่าวหารัสเซียว่า “เอาปืนจ่อหัวยูเครน” ทำให้ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินตอบโต้ก่อนที่ผู้นำอังกฤษกับรัสเซียจะหารือกัน ว่า รัสเซียและปูตินพร้อมพูดคุยกับทุกคน แม้กระทั่งพวกที่ยากที่จะทำความเข้าใจก็ตาม
ขณะเดียวกัน แม้รัสเซียยืนกรานมาตลอดว่า ไม่มีแผนบุกยูเครน แต่ตะวันตกต่างหากที่พยายามสร้างสถานการณ์เพื่อดึงรัสเซียเข้าสู่สงครามนั้น เมื่อวันพุธ โทรทัศน์ข่าวซีเอ็นเอ็นได้เผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมที่แสดงว่า รัสเซียกำลังสร้างสมอาวุธและกำลังพลรอบยูเครนอย่างต่อเนื่อง และมีการขยายกำลังพลในหลายจุดในเบลารุส ไครเมีย และด้านตะวันตกของรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียและเบลารุสยืนยันว่า ทหารรัสเซียที่เดินทางไปเบลารุสเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วกำลังเตรียมพร้อมซ้อมรบครั้งใหญ่ร่วมกันในเดือนนี้
ทว่า แม็กซาร์ ซึ่งรวบรวมและวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดตั้งข้อสังเกตว่า การประจำการของทหารรัสเซียสะท้อนกิจกรรมและการเตรียมพร้อมที่เพิ่มขึ้น
แม็กซาร์ และผู้ให้บริการภาพถ่ายดาวเทียมรายอื่นๆ ระบุว่า สังเกตเห็นการขยายพื้นที่ฝึกทหาร และมีกองทหารรัสเซียในบริเวณห่างจากแนวชายแดนยูเครนราว 240 กิโลเมตรในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยที่บางแห่งอยู่ห่างจากชายแดน 3-4 กิโลเมตรเท่านั้น
นอกจากนั้น ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ยังพบการประจำการของทหารรัสเซียในหลายพื้นที่ในเบลารุส และเมื่อเปรียบเทียบภาพที่ถ่ายในเดือนกันยายนกับปลายเดือนที่ผ่านมา พบว่า ค่ายทหารแห่งเดียวกันในไครเมียมีกิจกรรมเพิ่มขึ้นและมีการตั้งเต็นท์ซึ่งบ่งชี้ว่า เป็นการเตรียมพร้อมรองรับทหาร ทว่า ยังไม่มีหลักฐานว่า ทหารรัสเซียเดินทางไปที่แคมป์ดังกล่าวแล้วในขณะนี้
คอนราด มูซีกา นักวิเคราะห์ด้านกลาโหมที่โฟกัสสถานการณ์ในรัสเซียและเบลารุสของโรแชน คอนซัลติง บริษัทที่ปรึกษาด้านอวกาศและกลาโหม เชื่อว่า ขณะนี้มีกองพันโจมตีทางยุทธวิธี (บีทีจี) ของรัสเซียราว 74-76 กองพันอยู่รอบยูเครน โดยแต่ละกองพันมีทหาร 1,000 นาย พร้อมหน่วยสนับสนุน
มูซีกาเสริมว่า นับจากสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม รัสเซียเคลื่อนทหารราว 15-20 กองพันจากเขตทหารตะวันออกในไซบีเรียไปยังพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศและเบลารุส นอกจากนั้น กองกำลังภาคพื้นดินของรัสเซียยังส่งอาวุธ เช่น ขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้แบบ “อิสคานเดอร์” ไปเบลารุสและบางพื้นที่ในประเทศที่อยู่ใกล้ยูเครน และเขาประเมินว่า น่าจะมีเครื่องยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 48 เครื่องใกล้ยูเครน
(ที่มา : เอเอฟพี, ซีเอ็นเอ็น, รอยเตอร์)